“ฝ่ายความมั่นคง”หวังได้รัฐบาลที่ดีมาบริหารประเทศ

ฝ่ายความมั่นคง จับตาดูสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง เชื่อแนวโน้มการชุมนุมที่ผิดกฎหมายและใช้ความรุนแรงบนท้องถนนอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาจนกว่าการเมืองจะเข้าสู่ภาวะปกติ

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 5 ส.ค.66 การเมืองไทยไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ ตอนแรกคาดกันว่า ต้นสัปดาห์น่าจะได้เห็นหน้าตาของนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 และการฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลกันแล้ว แต่กลายเป็นเลื่อนออกไปอีก ไม่รู้ว่า “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรักษาการนายกรัฐมนตรี ยาวไปอีกนานแค่ไหน ถ้าการเมืองยังเป็นแบบนี้….??

@@@…….ว่ากันว่า สถานการณ์ทางการเมืองยังคงมีความผันผวน โดยที่ประธานรัฐสภาได้กําหนดให้มีการเลื่อนวาระการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปก่อนจากเดิมวันที่ 4 ส.ค.66 โดยให้เหตุผลว่าต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าศาลจะมีคําสั่งอย่างไรเสียก่อน ซึ่งทําให้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้การนําของพรรคเพื่อไทยต้องขยายเวลาออกไปด้วย ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยก็ได้อาศัยโอกาสนี้เลื่อนการแถลงเปิดตัวพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลออกไปเช่นกัน ซึ่งอาจถือเป็นข้อดีและเป็นโอกาสให้การพิจารณาจัดตั้งรัฐบาลมีความละเอียดรอบ คอบมากขึ้นไม่เร่งรีบเกินไปจึงทําให้ปัจจุบันยังไม่เห็นความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมเท่าที่ควร ทั้งนี้ การเลื่อนวาระดังกล่าวที่สอดรับกันเช่นนี้ มิได้ทําให้การจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ส่งผลกระทบแต่อย่างใด หากแต่กลับเป็นโอกาสให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสทาบทามพรรคการเมือง หรือต่อรองตําแหน่งต่างๆในการจัดต้ังรัฐบาลมากขึ้นอีกด้วยนั่นเอง อย่างไรก็ตาม การเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทยให้รัฐสภาพิจารณาโหวตเลือกยังคงเป็นประเด็นปัญหาที่ ส.ว.บางส่วนมีความเคลือบแคลงอยู่ด้วยเช่นกัน

@@@…….อย่างไรก็ตาม ในทัศนคติเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ม.112 รวมทั้ง กรณีที่มีบุคคลออกมาให้ข้อสังเกตกรณีการวางแผนภาษีในการจัดซื้อที่ดินที่มีความเชื่อมโยงกับนายเศรษฐา ทวีสิน ตามที่ปรากฎเป็นข่าว ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขให้สถานการณ์ทางการเมือง มีความพลิกผันเกิดขึ้นได้อีก สําหรับการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลในช่วงนี้ ดูเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง มองว่าอาจเป็นเพราะการเคลื่อนไหวในห้วงที่ผ่านมา มิได้ตั้งอยู่บนความชอบธรรมในสังคม และได้มีการกระทําที่ไม่สมควร โดยเฉพาะการบุกรุกไปทํากิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่ก้าวร้าวรุนแรงหน้าที่ทําการพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ทั้งยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เชื่อมโยงโจมตีพรรคก้าวไกล ว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าละอายอีกด้วย ประกอบกับบางกลุ่มได้ประกาศวางมือจะไม่จัดกิจกรรมขึ้นอีก จึงมีแนวโน้มว่าการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้อาจลดน้อยลงตามไปด้วย .. ฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่า แนวโน้มการชุมนุมผิดกฎหมายที่อาจใช้ความรุนแรงบนท้องถนน ยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จนกว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเข้าสู่ปกติ และมีการจัดตั้งรัฐบาลได้เรียบร้อย ซึ่งฝ่ายความมั่นคง ยังคงเตรียมพร้อมไว้อย่างต่อเนื่อง และ หวังให้ฝ่ายการเมืองร่วมแรงร่วมใจกัน รวมทั้งทำหน้าที่ในรัฐสภาให้ดีที่สุดเพื่อให้ได้รัฐบาล รวมทั้ง ครม.ชุดใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารประเทศ และนำพาชาติบ้านเมืองเดินหน้าสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ เพื่อประโชน์ของประเทศชาติ และประชาชนให้สำเร็จได้ในที่สุด

@@@…….ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก และผู้บังคับหน่วยทหารจากทั่วประเทศ จนถึงระดับผู้บังคับการกรม ได้ร่วมการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (วาระพิเศษ) แบบสัญจร โดยมีนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 5 เข้าร่วมรับฟังการมอบนโยบายต่อผู้บังคับหน่วยของผู้บัญชาการทหารบกในครั้งนี้ด้วย โดยก่อนการประชุมมีการมอบเกียรติบัตรให้กับกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบกที่มีผลงานการจับกุมยาเสพติด และกำลังพลที่ได้ช่วยเหลือประชาชนจากอุบัติเหตุ ชมรมกีฬาที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขัน หมวดดุริยางค์ที่ผ่านการตรวจสอบการฝึกบรรเลงของเหล่าทหารดุริยางค์ การมอบเงินช่วยเหลือบุตรแรกเกิดของทหารใหม่ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความภาคภูมิใจภายใต้เสียงปรบมือแสดงความยินดีจากผู้บังคับหน่วยทหารทั่วประเทศ

@@@…….การประชุมในครั้งนี้ ผบ.ทบ. ได้กล่าวด้วยความปลื้มปิติ ที่หน่วยทหารของกองทัพบกร่วมใจกันกับทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมในโอกาสสำคัญของชาติ คือ วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2566 และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2566 กองทัพบกมอบให้หน่วยทหารดำรงการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยความจงรักภักดี

@@@……ในโอกาสที่ผู้บังคับหน่วยได้มาพร้อมกัน ณ สถาบันหลักทางทหารที่ก่อกำเนิดภายใต้พระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ที่พระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ครบรอบ 136 ปี ในวันที่ 5 ส.ค. 2566 ผบ.ทบ.ได้ขอให้นายทหารใช้ศักยภาพของตนเองร่วมกันพัฒนาปรับปรุงสร้างประโยชน์ให้แก่สถาบันมีส่วนร่วมในการสนับสนุนศักยภาพของนักเรียนนายร้อย สร้างวิสัยทัศน์คนรุ่นใหม่ให้สอดรับกับบริบทของสังคมในปัจจุบันและอนาคต เพื่อดำรงความเป็นสถาบันหลักในการผลิตบุคลากรด้านความมั่นคงเพื่อดูแลประเทศชาติต่อไป

@@@…….สาระสำคัญของการประชุมในวันนี้เป็นการนำเสนอความคืบหน้าการปฏิบัติงานด้านต่างๆ ตามนโยบายของกองทัพบก ครอบคลุมทั้งเรื่องกำลังพลที่มีการขับเคลื่อนนโยบายการจัดหาและบรรจุกำลังพลวงรอบ 5 ปี การมอบโควตานักเรียนทหารให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ความสำเร็จของทหารออนไลน์ ไปจนถึงงานด้านยุทธการ ที่มีการพัฒนาระบบการฝึกศึกษา การฝึกร่วมมิตรประเทศ การปรับปรุงฐานปฏิบัติการและสนับสนุนเครื่องมือเฝ้าตรวจชายแดน รวมทั้งระบบการบริหารจัดการงบประมาณ มาตรการควบคุมและการตรวจสอบตามระบบราชการ โดยในเรื่องที่เกี่ยวกับฐานชายแดน ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า ทุกฐานปฏิบัติการมีประวัติศาสตร์การรบ ปรากฎวีรกรรม ก่อกำเนิดวีรบุรุษทหารกล้า กองทัพบกมีความตั้งใจที่จะนำเรื่องราวและความเป็นมาของแต่ละฐานปฏิบัติการถ่ายทอด ให้ประชาชนได้รับรู้อย่างกว้างขวาง เพื่อความภาคภูมิใจและเชิดชูเกียรติในความเสียสละของบรรพบุรุษ 

@@@…….อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของนโยบายที่ผ่านมาเกิดจากความใส่ใจของผู้บังคับหน่วย และปรับการบริหารจัดการเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเฉพาะนโยบายการดูแลทหารกองประจำการที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกองทัพบกที่ต้องการดูแลและตอบแทนทหารกองประจำการที่เสียสละเข้ามารับใช้ชาติ นอกจากนี้ กองทัพบกกำลังจะมุ่งพัฒนานายทหารประทวนอาวุโส หรือ จ่ากอง ซึ่งถือว่าเป็นผู้ปฏิบัติงานหลัก ที่มีประสบการณ์ทำงานในหน่วยทหาร มีความใกล้ชิดกับกำลังพล เป็นกำลังสำคัญของกองทัพที่ควรจะได้รับการส่งเสริมให้สามารถขับเคลื่อนภารกิจของหน่วยและปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยล่าสุด ในเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม นี้ กองทัพบกมอบให้โรงเรียนเสนาธิการทหารบก จัดการอบรมเพิ่มพูนทักษะให้กับนายทหารประทวนอาวุโสจากหน่วยทหารทั่วประเทศเพื่อสอดรับกับนโยบายข้างต้น

@@@…….ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ท.ดิเรก บงการ เจ้ากรมข่าวทหารบก ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับ พ.ท.สเตฟอง สเตฟองซิก ผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคำนับเพื่ออำลา เนื่องในโอกาสครบวาระการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งแนะนำ นาวาอากาศโท ฟร็องค์ อาร์โนดง ผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศสประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมคณะในโอกาสนี้ เจ้ากรมข่าวทหารบกได้กล่าวแสดงความชื่นชมที่ไทยและฝรั่งเศสเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานจนเข้าสู่ปีที่ 167 โดยทั้งสองประเทศดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมาตั้งแต่ปี 2399  

@@@…….กองทัพบกไทยหวังว่าทั้งสองกองทัพจะได้ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันเพื่อพัฒนากองทัพและประเทศ ตลอดจนภูมิภาคให้มีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป พร้อมทั้งขอบคุณฝรั่งเศส ที่ดำรงความร่วมมือกับกองทัพบกไทยเสมอมา ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนที่นั่งศึกษา การฝึก และการข่าว ทั้งนี้ เจ้ากรมข่าวทหารบก ได้กล่าวแสดงความขอบคุณผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศสประจำไทยที่ให้เกียรติร่วมหารือและแลกเปลี่ยนทัศนคติระหว่างกัน โดยกองทัพบกจะได้นำข้อมูลไปพิจารณาและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และยินดีให้ความร่วมมือในทุกเรื่องเพื่อพัฒนากองทัพทั้งสองประเทศให้แข็งแกร่งและสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นอย่างยั่งยืนต่อไป

@@@…….กองทัพเรือ….พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานเปิดงาน “วันรางวัลคุณภาพกองทัพเรือ NQA day (Navy Quality Award)”  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ และหน่วยเฉพาะกิจกองทัพเรือ ได้แสดงผลงานที่เกิดขึ้นจากการจัดการความรู้ของหน่วยในรูปแบบนิทรรศการ เพื่อให้กำลังพลได้เห็นความสำคัญของการจัดการความรู้ การนำวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศและองค์ความรู้ของหน่วยต่าง ๆ ไปใช้ในการปฏิบัติงาน เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานที่จะต่อยอดให้เกิดเป็นวิธีการและนวัตกรรม จนนำไปสู่ความเป็นมืออาชีพในการปฏิบัติงานได้ โดยในปีนี้มีการจัด “พิธีมอบรางวัลคุณภาพกองทัพเรือประจำปีงบประมาณ 2566” เพื่อมอบรางวัลให้แก่หน่วยงานที่มีผลการดำเนินงานอยู่ได้ระดับสูง อาทิ รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐของกองทัพเรือ และรางวัลการจัดการความรู้ของกองทัพเรือ 

@@@…….ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก….พล.อ.สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ได้ประดับเข็มทหารผ่านศึก พร้อมกับมอบหมวกหนีบองค์การฯ และของที่ระลึก ให้แก่ทหารผ่านศึกไทย ซึ่งได้เข้าร่วมรบในห้วงสงครามเกาหลี ระหว่าง พ.ศ. 2493 – 2496 และเป็นผู้แทนเดินทางไปเข้าร่วมพิธีรำลึกวาระครบรอบ 70 ปี ข้อตกลงว่าด้วยการยุติสงครามเกาหลี ณ สาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 4 ท่าน ได้แก่ พ.อ. บุญยืน จันทุรัตน์, ร้อยตำรวจตรี นอม สุภาผล, พลทหาร ผ่อง บำรุงรักษ์ และ พันจ่าเอก ปรีชา ภมรนิยม โดยมี พ.อ.คิม คยอง ยอล ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย และ นาวาอากาศเอก รณยุทธ  หิรัญบูรณะ เลขานุการสมาคมทหารผ่านศึกเกาหลีในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี 

@@@…….ทั้งนี้ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2493 กองกำลังเกาหลีเหนือได้เปิดสมรภูมิยึดเกาหลีใต้ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ตอบรับคำร้องขอขององค์การสหประชาชาติ เข้าร่วมกองกำลังชาติพันธมิตร จำนวน 22 ประเทศ จนกระทั่งสงครามยุติลงด้วยการเจรจา กองกำลังชาติพันธมิตรได้รับชัยชนะ พร้อมกับยกย่องให้สมญานามทหารไทยว่า “กองพันพยัคฆ์น้อย (Little Tiger)” อันหมายถึงนักรบร่างเล็กที่เต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บที่แหลมคม และเปี่ยมไปด้วยหัวใจที่ห้าวหาญ ซึ่งได้เสียสละชีวิตและเลือดเนื้อทำการต่อสู้อย่างสมเกียรติ สมศักดิ์ศรีของทหารไทยในสมรภูมิต่างแดน ซึ่งสงครามในครั้งนั้นประเทศไทยได้ส่งทหารเข้าร่วมรบกว่า 6,200 นาย โดยมีทหารที่เสียชีวิตในสมรภูมิทั้งสิ้น 136 นาย

 ………………………………….

 คอลัมน์ : “Military Key”

 โดย “รหัสมอร์ส”