วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS“ฝ่ายความมั่นคง”ชี้ต้องฟื้นความเชื่อมั่น “กระบวนยุติธรรมต้นน้ำ”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ฝ่ายความมั่นคง”ชี้ต้องฟื้นความเชื่อมั่น “กระบวนยุติธรรมต้นน้ำ”

รมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เผย รู้สึกอบอุ่น สบายใจ ที่ได้ฟังการทำงานของหน่วยขึ้นตรง ระบุ อยากเห็นกองทัพเป็นกองทัพที่ทันสมัย สามารถป้องกันอธิปไตยได้ 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https: //thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 3 0ก.ย.66 สถานการณ์การเมืองดูเหมือนจะนิ่งเมื่อได้รัฐบาลใหม่ แต่ลึกๆ แล้วเหมือนมีความไม่พอใจลึกๆ ที่รอวันปะทุขึ้นมา ถ้าหากรัฐบาลยังมีหลายมาตรฐานในการดูแลนักโทษที่ไม่เหมือนนักโทษ หรือจะเป็นอย่างที่ใครๆ พูดกันว่า “คุกมีไว้ขังคนจน”    

เศรษฐา ทวีสิน-ทักษิณ ชินวัตร

@@@…….กระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ โดยทั่วไปหมายถึง กระบวนการพิสูจน์ความจริงตามกฎหมาย ซึ่งประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ ทนายความ และ คุมประพฤติ แต่ในที่นี้หมายถึง ขั้นตอนการดำเนินงานหรือการบริหารราชการอย่างเป็นระบบของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ ศาล คุมประพฤติ และราชทัณฑ์ ทั้งนี้ กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ส่วนใหญ่จะเริ่มขึ้นจากตำรวจไปสิ้นสุดที่ราชทัณฑ์ หรือบางกรณีก็สิ้นสุดที่หน่วยงานคุมประพฤติ ซึ่งกระบวนการทั้งหมด คือ มาตรการอำนวยความยุติธรรมธรรมให้เกิดขึ้นกับประชาชน และหน่วยงาน ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในราชอาณาจักร ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ มาตรา 75 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติไว้ว่า “รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของบุคคล จัดระบบงานของกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ และอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างรวดเร็ว และเท่าเทียมกัน”

@@@…….เหตุการณ์ความยุ่งเหยิง วุ่นวาย และความความขัดแย้งที่ซับซ้อนในวงการตำรวจที่หน้าสื่อในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนลดลงเป็นอย่างมาก สร้างความกังวลให้แก่ฝ่ายความมั่นคงอย่างยิ่ง เนื่องจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ “ต้นน้ำ” ในกระบวนการสำคัญที่กล่าว และเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายซึ่งถือครองอาวุธ และผูกขาดการใช้ความรุนแรงภายในประเทศตามกฎหมาย รวมทั้งเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ที่บุคลากรทำงานใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุดหน่วยงานหนึ่งนอกเหนือไปจากฝ่ายปกครองของกระทรวงมหาดไทย

@@@…….อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง ยังคงเชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร.คนใหม่ รวมทั้งคณะทำงานต่างๆ ที่กำลังจะถูกจัดตั้งขึ้น จะสามารถคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้ รวมทั้งผนวกแนวทางการปฏิรูปองค์กรตำรวจที่จัดทำไว้ก่อนหน้านี้ตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา แต่ยังมิได้นำมาใช้อย่างจริงจัง ดังนั้น การนำแนวทางปฏิรูปองค์กรตำรวจนี้ กลับมาประกอบการพิจารณาทบทวนปัดฝุ่นประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม กลายเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ทั้งนี้ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชนคนในชาติสำหรับกระบวนยุติธรรมต้นน้ำในการอำนวยความยุติธรรมแก่ผู้คนให้สำเร็จได้ในที่สุดต่อไป อันถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของฝ่ายบริหารโดย นายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการอย่างมุ่งมั่นจริงจังจากนี้ไป 

@@@…….วันก่อน “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม ได้ตรวจเยี่ยมสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมโดยมี พล.อ. สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ และรับฟังการบรรยายสรุป ภารกิจการจัด ของหน่วย ณ ห้องยุทธนาธิการ ในศาลาว่าการกลาโหม หลังฟังการบรรยายสรุป รมว.กลาโหม รู้สึกอบอุ่นใจ สบายใจ ที่ได้รับทราบ การปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละหน่วยขึ้นตรง ที่ได้ชี้แจงและสิ่งที่อยากเห็น คืออยากเห็นกองทัพเป็น กองทัพที่ ทันสมัยคือ ศักยภาพสูง สามารถป้องกันอธิปไตยได้ มีขนาดพอเหมาะ เหมาะสมกับภารกิจ กระทัดรัด  พร้อมรับกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ให้ประชาชน กลับมารักทหาร ได้ใจประชาชน ที่รักอยู่แล้วให้รักมากขึ้นโดย รมว.กลาโหม ได้มอบนโยบายแนวทางในการปฏิบัติงานดังนี้ 1.การลดอัตรากำลังพล อาจจัดให้มีการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด โดยเพิ่มแรงจูงใจ พร้อมการลดการผลิต หรือรับเข้ากำลังพล 2.การสมัครใจเป็นทหารกองประจำการ (ลดการเกณฑ์ทหาร) โดยกองทัพพิจารณาลดความต้องการ เท่าที่จำเป็นในแต่ละสภาวการณ์ และ เพิ่มแรงจูงใจในการสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ อาทิ สามารถรับราชการต่อ หรือ มีอาชีพที่เหมาะสมรองรับ, การเพิ่มเบี้ยเลี้ยงเงินเดือน ฯลฯ 3.การพิจารณาเข้าใช้ที่ดินทหาร ที่มิได้ใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้เกิดประโยชน์สูงสุด 4.การใช้ยุทโธปกรณ์ ช่วยเหลือ ประชาชน ขุดลอก คูคลอง หนอง ฝาย 5.ปัญหายาเสพติด ประชาชนมีความเชื่อมั่นในทหาร ที่มีขีดความสามารถในการดำเนินการ สกัดกั้นแนวชายแดน จับกุม (ผู้ช่วย จนท.) บำบัด (รร.ค่ายทหาร) 6.อาชญากรรมทางไซเบอร์ ใช้เครื่องมือที่มีอยู่ สนับสนุนภาครัฐ เพิ่มศักยภาพ 7.กำลังพลชั้นผู้น้อย ต้องอยู่ดีกินดี เพื่อขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน 

@@@…….กองทัพบกจัดกิจกรรมเนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน ประจําปี 2566  โดย พล.อ. เจริญชัย หินเธาว์ รักษาราชการ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน ณ บริเวณลานพื้นแข็งหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบก เฉลิมพระเกียรติและในกิจกรรมฯ มีการกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของธาติไทยในแต่ลยุคสมัย พร้อมทั้งร่วมกันร้องเพลงชาติร่วมกัน เพื่อเป็นการน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทยที่ประกอบด้วย 3 สี นั่นคือ สีแดง หมายถึง ชาติ, สีขาว หมายถึง ศาสนา และสีน้ําเงิน หมายถึง พระมหากษัตริย์ ซึ่งธงไตรรงค์ หรือ ธงชาติไทย ถือเป็นสัญลักษณือันสูงสุดของชาติ เป็นสิ่งเตือนใจให้อนุชนได้รําลึกถึงการเสียสละเลือดเนื้อของบรรพบุรุษ เพื่อรักษาไว้ซึ่งแผ่นดิน และร้อยดวงใจคนทั้งชาติให้เป็นหนึ่ง หล่อหลอมความรักความสามัคคี สร้างเสริมความภูมิใจในความเป็นชาติ ก่อเกิดเป็นพลังยิ่งใหญ่ในการพัฒนาชาติไทย

@@@…….ด้าน กองทัพอากาศ ได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน ประจำปี 2566  โดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในกิจกรรมเนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน ประจำปี 2566 ในส่วนของกองทัพอากาศ ณ บริเวณเสาธง หน้ากองบัญชาการกองทัพอากาศ ในการนี้หน่วยขึ้นตรงกองทัพอากาศทั่วประเทศ ได้จัดกิจกรรมเคารพธงชาติในเวลา 08.00 น. โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติ และเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เชิญชวนจัดกิจกรรมประดับธงชาติไทยตามอาคารสถานที่ราชการ สถานศึกษา และอาคารบ้านเรือน พร้อมจัดกิจกรรมเคารพธงชาติไทยและร้องเพลงชาติไทย บริเวณหน้าเสาธงของหน่วยงาน เพื่อความภาคภูมิใจในเอกราชและความเสียสละของบรรพบุรุษไทย 

@@@…….ที่โรงเรียนนายเรือ ได้จัดพิธีสวนสนามและพิธีย่ำพระสุริย์ศรี เพื่อเป็นเกียรติแด่ ผู้บัญชาการทหารเรือ และนายทหารชั้นนายพลเรือที่จะครบเกษียณอายุราชการ  โดย พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปเยี่ยมอำลาหน่วยกองทัพเรือ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ในโอกาสเกษียณอายุราชการ ณ โรงเรียนนายเรือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี พลเรือโท ประวุฒิ รอดมณี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ รวมทั้งนายทหารชั้นนายพลเรือที่เกษียณอายุราชการ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ จากหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ 56 ของกองทัพเรือ โดยตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ. เชิงชาย ได้ดำเนินการตามนโยบายหลัก 9 ด้าน โดยมุ่งเน้นนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือท่านที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคง ของกองทัพเรือ และเพื่อให้กำลังพลทุกนายได้ร่วมแรงร่วมใจขับเคลื่อนนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของกองทัพเรือที่กำหนดไว้คือเป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศ ในการบริหารจัดการ สำหรับนโยบายหลัก 9 ด้าน มาจากยุทธศาสตร์กองทัพเรือ พ.ศ.2560 – 2580 ซึ่งเป็นแผนแม่บทการพัฒนากองทัพเรือด้านต่าง ๆ และนโยบายกองทัพเรือระยะ 5 ปี พ.ศ.2566 – 2570

 ………………………………….

 คอลัมน์ :  “Military Key”

 โดย… “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img