“ฝ่ายความมั่นคง”ชี้มาตรการควบคุมอาวุธปืนสำคัญยิ่ง

ปัญหาความรุนแรงเกี่ยวกับ “อาวุธปืน” เป็นปัญหาด้านความมั่นคงอย่างยิ่ง และเป็นสาเหตุการตายจากอาชญากรรมของประเทศไทย เน้นย้ำจับมือทุกภาคส่วนแก้ปัญหาเพื่อให้การใช้อาวุธปืนก่ออาชญากรรมในประเทศลดลง

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.2566 ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นการควบคุมอาวุธปืน และสิ่งเทียมอาวุธ ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นอีกครั้งต่อเนื่อง หลังเหตุการณ์ยิงกราดที่โคราช หนองบัวลำพู และการจ่อยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจในบ้านของกำนันผู้มีอิทธิพลเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งรวมถึงเยาวชนอายุเพียง 14 ดัดแปลง Blank Gun ก่อเหตุร้ายแรงน่าเศร้าในห้างดังกลาง กทม.ที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยเป็นอย่างมาก 

@@@…….ปัญหาความรุนแรงเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน Gun Violence คือ ประเด็นด้านความมั่นคง และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุการตายจากอาชญากรรมที่สำคัญของประเทศไทย จากข้อมูลขององค์การระหว่างประเทศด้านการวางแผนและนโยบายป้องกันการบาดเจ็บ (International Firearm Injury Prevention and Policy) พบว่า ในแต่ละวันทั่วโลกมีการใช้อาวุธปืนเพื่อก่ออาชญากรรมเป็นจำนวนมาก และจากข้อมูลของ World Population Review ได้เผยแพร่ผลสำรวจประเทศที่มีกรณีการเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนมากที่สุดในโลก ประจำปี 2565 พบว่า ประเทศไทยติดอันดับที่ 15 ของโลก โดยมีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืน จำนวน 2,804 คน และมีอัตราการเสียชีวิตที่ เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนเฉลี่ย 3.91 คนต่อประชากร 1 แสนคน ผลกระทบจากการใช้อาวุธปืนได้ทวีความรุนแรง และสร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของผู้คนจำนวนมาก 

@@@…….อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย และเข้มงวดมาตรการต่างๆ ในการควบคุมอาวุธปืน และสิ่งเทียมอาวุธ รวมถึงปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ อย่างจริงจัง ซึ่งมาตรการเร่งด่วนเกี่ยวกับอาวุธปืน ผู้มีอิทธิพล และการแก้ไขปัญหายาเสพติดไปพร้อมกันด้วย โดยมีมาตรการเร่งด่วนกำหนดออกมา เช่น มาตรการเกี่ยวกับอาวุธปืน หมายถึง การกวดขันการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนและกระสุนอย่างเข้มงวด มีการต่อใบอนุญาต และการพกพาผู้ขออนุญาตมี และใช้อาวุธปืน ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องตรงตามกฎหมาย ซึ่งจะมีมาตรการตรวจสอบทบทวนเพื่อพิจารณาเป็นรอบระยะเวลา เพิกถอนใบอนุญาตเมื่อพบปัญหาทางจิตหรือพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม รวมถึงทบทวนกฎหมายที่จำเป็นให้มีความทันสมัย และ มาตรการป้องกันปราบปรามผู้มีอิทธิพล การกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งได้แก่ การบูรณาการนำผู้เสพเข้าระบบศูนย์ข้อมูลที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ทบทวนกรณีผู้เสพเป็นผู้ป่วย โดยเฉพาะประเด็นปริมาณการครอบครองเพื่อนำไปสู่การบำบัดฟื้นฟู รวมทั้งมาตรการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ค้นหาคัดกรองผู้ป่วย SMIV หรือผู้ป่วยทางจิตที่เสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง เข้าสู่สถานฟื้นฟูภาคีเครือข่าย บูรณาการบำบัดโดยใช้ชุมชนเป็นฐานให้ครอบคลุมทุกตำบล 

@@@…….ทั้งนี้ การพัฒนา และแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืนกราดยิงผู้คนในลักษณะการเลียนแบบ การจัดตั้งระบบดูแลสุขภาพจิตในสถานศึกษาทุกแห่ง จัดตั้งกลุ่มงานจิตเวช และยาเสพติดทุกอำเภอ จัดตั้งหน่วยบูรณาการ จิตเวชฉุกเฉินทุกอำเภอ ระบบดูแลเบื้องต้นทางจิตเวชทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใช้ชุมชนบำบัด กลายเป็นเรื่องจำเป็นที่รัฐบาล โดยนโยบายภาครัฐ รวมทั้งหน่วยเกี่ยวข้องจะต้องคำนึงถึงมาพร้อมด้วยเช่นกัน 

@@@…….ฝ่ายความมั่นคง หวังว่า ด้วยมาตรเร่งด่วนที่ภาครัฐที่ได้ออกมาแล้ว และกำลังจะกำหนดเพิ่มเติมขึ้นนั้น หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ฝ่ายความมั่นคง หน่วยงานด้านการข่าว และหน่วยเกี่ยวข้องของภาครัฐต่าง ๆ รวมทั้งการแสวงความร่วมมือจากเอกชน และภาคประชาชน จะมีการดำเนินการให้เกิดขึ้นได้อย่างจริงจังเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง มิได้จางหายไปตามกาลเวลาเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้อาวุธปืนเพื่อก่ออาชญากรรมในประเทศไทย ลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญจากนี้ไปได้สำเร็จในที่สุด

@@@…….กลับมาเรื่องของกองทัพในยุคที่มีพลเรือนเป็นรมว.กลาโหม ดูเหมือนว่าจะไหลลื่นไปได้อย่างสบายๆ แรกๆ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม อาจจะเครียด จำใจแต่เมื่อนายสั่งก็ต้องทำให้ได้ อะไรที่โอนอ่อนผ่อนได้ก็ยอมๆ กันไป ทหาร-พลเรือน ก็ต้องเจอกันคนละครึ่งทาง ในการประชุมสภากลาโหม ที่มี “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุม “สุทิน” ได้แสดงความเป็นห่วงพื้นที่ในหลายจังหวัดที่มีน้ำท่วมขังสูง น้ำล้นตลิ่ง จึงกำชับให้ทุกเหล่าทัพวางแผนรับมือกับมวลน้ำที่อาจจะเข้ามาซ้ำเติมสถานการณ์ เร่งรีบอพยพประชาชน จัดรถครัวสนามถุงยังชีพและยานพาหนะอำนวยความสะดวกไปจนถึงสนับสนุนให้มีการฟื้นฟูภายหลังน้ำท่วมจนกว่าสถานการณ์จะปกติ

@@@…….ทางกองทัพเรือ ได้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน โดย พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสนาธิการทหารเรือ / เสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการเกิดอุทกภัย และจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการรับฟังการบรรยายสรุป ตรวจความพร้อมด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ ในการช่วยเหลือประชาชนและบรรเทาสาธารณภัย ของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยฐานทัพเรือกรุงเทพ และความพร้อมของหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ กรมอู่ทหารเรือ ณ ฐานทัพเรือกรุงเทพ และพื้นที่เสี่ยงชุมชนดุสิตนิมิตใหม่ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ จากสถาน การณ์ที่มีฝนฟ้าคะนองกระจายในพื้นที่ กรุงเทพฯและปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายบริเวณ

@@@……ทางเสนาธิการทหารเรือ / เสนาธิการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ จึงให้ตรวจสอบความพร้อมของหน่วยในการให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันต่อสถานการณ์ ได้ตรวจเยี่ยมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้หน่วยมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือประชาชน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทัพเรือจะอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกสถาน การณ์ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ และหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือประชาชนจากเหตุอุทกภัยและวาตภัย ในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุ ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน สามารถแจ้งเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากกองทัพเรือ ได้ที่สายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง

@@@…….ขณะที่ กองทัพอากาศ ได้จัดกิจกรรมบรรจุถุงยังชีพกองทัพอากาศ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ พร้อมด้วย คุณมนทิรา พัฒนกุล นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ ได้เดินทางไปให้กำลังใจกำลังพล และร่วมบรรจุถุงยังชีพกองทัพอากาศ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ในจังหวัดอุบราชธานี และจังหวัดอุดรธานี รวมถึงพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ กำลังพล และจิตอาสากองทัพอากาศ ร่วมบรรจุฯ ณ ฝูงบิน 601 กองบิน 6 

@@@…….หลังจากที่ถูกมองว่าทำหน้าที่เป็นโฆษกกระทรวง ล่าสุด “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม ได้แต่งตั้งโฆษกกระทรวงกลาโหม และคณะทำงานโฆษกกระทรวงกลาโหม เพื่อประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ภารกิจและการปฏิบัติหน้าที่ราชการของกระทรวงกลาโหม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ในการสร้างความเข้าใจอันดีต่อสังคมและสาธารณชน ประกอบด้วย 1.พล.ร.ต.ธนิตพงศ์ สิริเศวตศักดิ์ เป็น โฆษกกระทรวงกลาโหม 2.พล.ต.แรงภูมิ เหมะทัพพะ เป็น หัวหน้าสำนักงานโมษกกระทรวงกลาโหม 3.พ.อ.หญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ เป็น รองโฆษกกระทรวงกลาโหม 4.พ.ท.หญิง พัชรี สันทาลุนัย เป็น ผู้ช่วยโมษกกระทรวงกลาโหม 5.น.ท.หญิง จิตติมา มาลารัตน์เป็น ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม 6.ร.อ.หญิง ณฐมน กุญชร เป็น ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม

@@@…….ขณะที่ กองทัพบก โดย พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งทีมโฆษกกองทัพบก เพื่อเน้นการประชาสัมพันธ์ ให้ข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง รวดเร็ว สร้างความเชื่อมั่นและเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อกองทัพ  ประกอบด้วย พล.อ.นิรันดร ศรีคชา ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก และ พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง เป็นที่ปรึกษาทีมโฆษกกองทัพบก พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก เป็น โฆษกกองทัพบก พ.อ.ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ รองเลขานุการกองทัพบก และ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ เป็น รองโฆษกกองทัพบก พร้อม พ.ท.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม, พ.ต.หญิง ญดา โชติชูตระกูล, ร.อ.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล และ ร.อ.หญิง จุฑาพัชร เปรมบัญญัติ เป็น ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก.  

 ………………………………….

 คอลัมน์ :  “Military Key”

 โดย “รหัสมอร์ส”