ข่าวดีการสู้รบใน“ยูเครน”กำลังคลี่คลาย

สถานการณ์ด้านชายแดนไทยสงบ ขณะที่การสู้รบในยูเครน ฝ่ายความมั่นคงไทย มองกำลังจะคลี่คลายในไม่ช้า  

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 23 ธ.ค.66 หากพูดถึง สถานการณ์การสู้รบในยูเครน ยังคงมีการรบปะทะกันอยู่ต่อเนื่องก็จริง แต่ดูเหมือนการปฏิบัติการยึดพื้นที่คืนของยูเครน ตั้งแต่ต้นเดือนจะไม่ได้ผลใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่ถ้อยแถลงของ “วลาดิเมียร์ ปูติน” จากข้อมูลข่าวกรองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า รัสเซียพร้อมที่จะพูดคุยกับยูเครน สหรัฐฯ และยุโรป ในเรื่องอนาคตของยูเครน หากพวกเขาต้องการ แต่เน้นย้ำว่า รัสเซียจะปกป้องผลประโยชน์ของชาติในการพูดคุยดังกล่าว 

@@@…….หลังจากที่รัสเซียส่งกําลังทหารบุกยูเครนตั้งแต่ห้วงต้นปี 2565 “วลาดิเมียร์” ได้ออกมากล่าวหลายครั้งว่า เขาพร้อมที่จะมีการเจรจาพูดคุยเพื่อหาสันติภาพ แม้เจ้าหน้าที่จากทางฝั่งชาติตะวันตกจะระบุว่า ประธานาธิบดีรัสเซียกําลังรอการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย.67 ก่อนที่จะเริ่มเดินหน้าในความพยายามดังกล่าวอย่างจริงจัง ด้าน “โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า ผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพยูเครน ได้เสนอให้มีการระดมกําลังพลเพิ่มอีก 500,000 นาย เพื่อสนับสนุนความพยายามในการทําสงครามของยูเครน แต่เขาก็ยอมรับว่านี่เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเขาขอพิจารณารายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม ก่อนที่จะสนับสนุนนโยบายดังกล่าว อีกทั้ง ยังให้ข้อมูลว่า ยูเครนจะสามารถผลิตอากาศยานไร้คนขับ ได้จํานวน 1 ล้านลํา ในปี 2567 และให้ความเห็นว่า การเจรจาสันติภาพกับรัสเซียยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตอนนี้ โดยเน้นย้ำว่า เขาจะพยายามทวงคืนดินแดนทั้งหมดของยูเครนที่นานาชาติให้การยอมรับ รวมถึงคาบสมุทรไครเมียอีกด้วย

@@@…….อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ โดย รัฐสภาสหรัฐฯ ล้มเลิกการผ่านข้อตกลงในปีนี้เพื่อจัดหาเงินทุนช่วยเหลือมากกว่า 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการทำสงครามให้กับยูเครน และเสนอให้ผลักดันให้เกิดการเจรจาต่อไปจนถึงเดือน ม.ค. 2567 ทั้งนี้ ผู้เจรจาจากทั้ง 2 ฝ่ายในสภาคองเกรสทะเลาะกันมานานหลายสัปดาห์เกี่ยวกับข้อเรียกร้องของพรรครีพับลิกันที่จะกระชับความปลอดภัยชายแดนสหรัฐฯ ก่อนที่จะพิจารณาคำขอของทำเนียบขาวเพื่อให้เงินทุนเพิ่มเติมสำหรับยูเครน  และหลังจากการเจรจาล้มเหลว บรรดาผู้นำวุฒิสภา ยืนยันเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การเจรจาจะต้องดำเนินต่อไปจนถึงเดือนมกราคม หลังช่วงวันหยุด

@@@…….“โวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน เดินทางเยือนวอชิงตันเมื่อต้นเดือน ธ.ค.เพื่อพยายามให้ได้เงินทุนเพิ่มเติมสำหรับเคียฟ แต่ถูกปฏิเสธโดยพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสสหรัฐฯ ทั้งนี้ ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” เตือนว่า สหรัฐฯอาจ “หมดเงิน” เพื่อช่วยเหลือเคียฟ และเสริมว่าการที่สภาคองเกรสปฏิเสธที่จะเพิ่มความช่วยเหลือ จะทำให้ ผู้นำรัสเซีย “วลาดิมีร์ ปูติน” อยู่ในสถานะที่เหนือกว่า และได้เปรียบในการเจรจาทันที แต่ขณะที่ “จอห์น เคอร์บี” โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า หน่วยงานด้านเงินทุนที่มีอยู่จะอนุญาตให้กระทรวงกลาโหมส่งแพ็คเกจความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกเพียง 1 รายการไปยังเคียฟในปีนี้ แต่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว

@@@…….ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง มองว่า แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะไม่ทำให้สงครามขยายตัวไปมากกว่านี้แล้ว ซึ่งคาดว่าอาจจะเนิ่นนานไปถึงปี 2024 และคาดว่าจะสิ้นสุดลงได้ด้วยการเจรจา แต่กระบวนการเจรจาสันติภาพสำหรับยูเครน กำลังรอเวลานับถอยหลังลงทุกขณะ เพราะฤดูฝนกำลังใกล้เข้ามาในอีกไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้ถนนกลายเป็นดินโคลน จนเป็นอุปสรรคมากยิ่งขึ้น ส่วนปัจจัยไม่แน่นอนอื่น ได้แก่ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หากพรรครีพับลิกันชนะพรรคเดโมแครต อาจทำให้การสนับสนุนทางทหารของสหรัฐฯไปให้ยูเครน ลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่ง “ประธานาธิบดีปูติน” เองก็ทราบดีในจุดนี้ เขาจึงต้องยืนหยัดไปให้ได้จนถึงเวลานั้น ส่วนยูเครนเอง ก็ต้องเร่งพยายามทำให้ยุทธการตอบโต้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เสียเปรียบในเวทีเจรจา ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกันหากไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจำนวนมหาศาลเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ดังนั้น ฝ่ายความมั่นคงคาดว่า กระบวนการเจรจาสันติภาพ น่าจะเกิดขึ้นได้จริง รวมทั้งการสู้รบ ก็น่าจะลดความรุนแรง และคลี่คลายลงได้ อย่างน้อยภายในปี 2567 ที่จะมาถึงนี้ และเชื่อได้ว่า รัฐบาลของ “โวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน คงอยู่ได้อีกไม่นานจากนี้ไป ความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ก็น่าจะเกิดขึ้นได้ในที่สุด 

@@@…….กลับมาที่ไทยบ้าง ที่กองบัญชาการกองทัพไทย….พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานในการมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลกองบัญชาการกองทัพไทย แทนคำขอบคุณ oneteamทัพไทย ซึ่งการมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลกองบัญชาการกองทัพไทย “แทนคำขอบคุณ oneteamทัพไทย” ในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ได้มอบเจตนารมณ์ และแนวความคิดในการปฏิบัติด้านการพัฒนากำลังพลและครอบครัว (People First) เพื่อให้กำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทย มีคุณภาพชีวิตและขวัญกำลังใจที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนด จึงได้นำนโยบายดังกล่าว มาสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม โดยการมอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อแทนคำขอบคุณกำลังพลกองบัญชาการกองทัพไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมทัพไทย และในโอกาสเทศกาลปีใหม่ 2567 ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวแสดงความชื่นชมและขอขอบคุณกำลังพลทุกนาย ที่ให้ความร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ได้รับมอบอย่างเต็มกําลังความสามารถด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความมานะ ขยัน อดทน โดยขอให้กำลังพลทุกนายมีความมุ่งมั่น เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และเป็น oneteamทัพไทย ที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดความเจริญก้าวหน้าทั้งต่อตนเองและหน่วยงาน นำมาซึ่งประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างยั่งยืนตลอดไป

@@@…….กองทัพบก…..พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะผู้บังคับบัญชาเดินทางไปยังโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก เยี่ยมการฝึกการปฏิบัติการร่วมพลเรือนตำรวจทหารปี 2567 พร้อมบรรยายพิเศษประสบการณ์ทำงานและแนวทางรับราชการ แก่นักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 5 ที่กำลังจะจบการศึกษาเป็นว่าที่นายทหารใหม่ ณ หอประชุมโรงเรียนนายร้อย พระจุลจอมเกล้า โดยผู้บัญชาการทหารบกได้ให้ความสำคัญกับการเป็นทหารอาชีพที่จะต้องรู้หลักในการนำหน่วยทหาร และการเตรียมความพร้อมในปฏิบัติภารกิจทั้งร่างกายและจิตใจ ยึดมั่นอุดมการณ์ในการทำงาน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ จากนั้นผู้บัญชาการทหารบกได้เดินทางไปเปิดห้องตัดผมนักเรียนนายร้อย “CADET BARBER ” และร่วมรับประทานอาหารเย็นกับนักเรียนนายร้อยอย่างเป็นกันเอง สร้างขวัญกำลังใจ และเป็นแบบอย่างในการรับราชการของรุ่นน้องนักเรียนนายร้อย ซึ่งจะเจริญเติบโตเป็นกำลังหลักของกองทัพบกและประเทศชาติต่อไป 

@@@…….กองทัพเรือ…..พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ นางกีรตา พันธุ์เอี่ยม นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นประธานในพิธีทำบุญครบรอบ 1 ปี ให้แก่กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่รอดชีวิต เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และเป็นสิริมงคลแก่กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย รวมทั้งเพื่ออุทิศกุศลให้แก่กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่เสียชีวิตและสูญหาย ณ พุทธสถานเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ และหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ในพื้นที่สัตหีบ ตลอดจนกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ที่รอดชีวิตจำนวน 76 นาย รวมถึงครอบครัวและญาติของกำลังพลจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เข้าร่วมในพิธี 

@@@…….โดย ผบ.ทร. ได้แสดงความห่วงใยเรื่องความเป็นอยู่ ของครอบครัวกำลังพล เรือหลวงสุโขทัยที่เสียชีวิต โดยเฉพาะเรื่องของที่อยู่อาศัย ทั้งนี้หากที่พักส่วนตัวของครอบครัวใดชำรุดทรุดโทรม ผบ.ทร.จะอนุมัติงบประมาณในการซ่อมแซมที่พักให้ พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกองทัพเรือ ให้แก่ครอบครัวของกำลังพลผู้สูญเสียอีกจำนวนหนึ่ง และในส่วนของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่รอดชีวิตและครอบครัว รวมถึงลูกหลานกำลังพลที่เข้ารับราชการแล้ว แต่ยังไม่มีที่พักจะรีบเร่งให้หน่วยต้นสังกัดดำเนินการจัดสรรหาที่พักให้ทันที เหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2565 ส่งผลให้กำลังพลเสียชีวิต 24 นาย สูญหาย 5 นาย และรอดชีวิต 76 นาย ทั้งนี้กองทัพเรือได้ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวกำลังพลกองทัพเรือ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดยได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิกำลังพล ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ครอบครัวของกำลังพลในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ 

@@@…….กองทัพอากาศ….ศูนย์ฝึกย่อยนักศึกษาวิชาทหารในส่วนของกองทัพอากาศ ได้นำนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 2 จำนวน 252 คน มาเข้ารับฝึกภาคสนาม ณ กองบิน 2 โดยการฝึกภาคสนามครั้งนี้ ได้ทำการฝึกภาคสนามทั้งหมด 120 ชั่วโมง จำนวน 6 วัน ซึ่งจะทำการฝึกร่วมกับสายวิทยาการช่างอากาศ สายวิทยาการสื่อสาร สายวิทยาการสรรพวุธ และสายวิทยาการช่างโยธา โดยมีวัตถุประสงค์ให้นักศึกษาวิชาทหารได้รับความรู้ประสบการณ์และมีทักษะความชำนาญจากการฝึกปฏิบัติงานกับอาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยในสถานที่จริง ซึ่งมีสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างจากการฝึกอบรมในภาคที่ตั้งปกติ เมื่อจบจากการฝึกภาคสนามแล้วนักศึกษาวิชาทหารจะมีความรู้ความชำนาญในการที่จะปฏิบัติภารกิจร่วมกับกำลังการรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมความมุ่งหมายตามหลักสูตรที่กองทัพอากาศกำหนดไว้ 

 ………………………………….

 คอลัมน์ : “Military Key”

 โดย …“รหัสมอร์ส”