เริ่มแล้วสำหรับชายไทย กองทัพบกทำการตรวจเลือกทหาร ตั้งแต่วันที่ 1-12 เม.ย.67 ชายไทยที่สนใจต้องการสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ สามารถร้องขอหรือสมัครต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในขั้นตอนก่อนการจับสลาก
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 6 เม.ย.2567 ปลายเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ดูเหมือนจะร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ เหตุความไม่สงบได้ลดลงมากแล้วเหลือเพียงเดือนละประมาณ 2-3 ครั้งเท่านั้น ฝ่ายความมั่นคง มองว่า “รอมฎอนสันติสุข” ที่ทุกภาคส่วนกำลังเร่งใช้ความพยายามอย่างมากนั้น อาจจะไม่เกิดขึ้นได้ง่ายนัก และต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นใหม่หลายกลุ่ม ยังคงมีเจตนาแรงกล้าในการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นต่อไป เนื่องจากการบ่มเพาะความเชื่อผิดๆ มายาวนาน และกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งว่า หากก่อเหตุรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอน จะยิ่งได้บุญมากขึ้น สุดท้ายก็ไม่เหนือความคาดหมาย
@@@…….หลังจากปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น วิสามัญฆาตกรรม 2 ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ก็มีปฏิบัติการตอบโต้จากฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบทันที กล่าวคือ วันที่ 21 มี.ค. เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุในถังดับเพลิง 1 ลูก บริเวณศาลาข้างทุ่งนา ในท้องที่อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี วันที่ 22 มี.ค.คนร้ายก่อเหตุวางเพลิง วางระเบิด สร้างความปั่นป่วนในพื้นที่หลายอำเภอของ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา นับรวมได้มากถึง 66 จุด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย วันที่ 26 มี.ค. เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแหล่งพักพิงกลุ่มก่อเหตุรุนแรง ในพื้นที่บ้านโต๊ะอีแต ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และมีทหารพรานเหยียบกับระเบิด ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย วันที่ 28 มี.ค. คนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิง อาสาสมัครทหารพรานหญิงนูรีซัน พรหมศรี เสียชีวิตกลางตลาดนัดดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส
@@@…….ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.เป็นต้นมา ถือว่ากำลังจะเข้าสู่ห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ซึ่งฝ่ายความมั่นคง ได้รับข้อมูลว่า มีกิจกรรมการปลูกฝังความเชื่อผิดๆ ด้วยการเน้นย้ำว่า หากก่อเหตุรุนแรงที่สร้างความเสียหายให้กับ “รัฐไทย” หรือ “คนต่างศาสนา” ในช่วงเวลานี้ จะยิ่งได้บุญมากขึ้นไปอีกเป็น 2 เท่า และที่ผ่านมา ในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ก็เป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต้องยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยมากเป็นพิเศษทุกปี เพราะมีเหตุรุนแรงถี่กว่าห้วงเวลาปกติแทบทุกปีจริงๆ หากปีนี้ ฝ่ายความมั่นคงควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ไม่ได้ แน่นอนว่าแรงกดดันในแง่ที่ว่าไฟใต้ยังไม่ดับมอด จะย้อนกลับมาทิ่มแทงรัฐบาลภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งดำเนินนโยบายสร้างโอกาสด้านเศรษฐกิจ เพื่อดับไฟใต้แต่เพียงด้านเดียว โดยให้น้ำหนักด้านความมั่นคงลดลง ทั้งนี้ในข้อเท็จจริงแล้ว กว่าที่สถานการณ์ในพื้นที่ จชต.จะเริ่มคลี่คลาย และความรุนแรงลดลงเช่นในปัจจุบันนั้น ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง หน่วยเกี่ยวข้อง และภาคประชาสังคม ได้มุ่งมั่นร่วมกันดำเนินมาตรการต่างๆ มาอย่างหลากหลายมากมาย มิฉะนั้นสถานการณ์รุนแรงจะเลวร้ายมากไปกว่านี้หลายเท่า
@@@…….อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง เชื่อมั่นว่า “รอมฎอนสันติสุข” และ ความสงบเรียบร้อย รวมทั้งการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ จะเกิดขึ้นได้ในที่สุดด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่ายเท่านั้น ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า การก่อเหตุในช่วงนี้ เป็นการสื่อสารว่า กลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มใหม่ มิได้ขึ้นในความควบคุมของ BRN และ BRN มิใช่ตัวแทนของพวกเขา รวมทั้ง BRN มิใช่ตัวแทนของประชาชนในพื้นที่ จชต.แต่อย่างไร หมายถึง เพื่อให้การพูดคุยสันติสุข เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้น BRN จะต้องแสดงความจริงใจ จริงจังมากกว่านี้ และต้องเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มใหม่ ๆ เหล่านี้ให้ได้ เพื่อหยุดการก่อเหตุความไม่สงบ และร่วมกันพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง ยังจะต้องคงกำลังระวังป้องกันในพื้นที่ให้พร้อมรบไว้ตลอดเวลาอยู่ต่อไป เพื่อให้สถานการณ์อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ความสงบสันติ ความมั่นคงในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ ก็จะได้รับการประกันให้สำเร็จได้ในที่สุด
@@@…….ช่วงที่ผ่านมา พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เข้าร่วมพิธีเทิดเกียรติ เนื่องในโอกาสรับการจารึกชื่อในทำเนียบศิษย์เก่าเกียรติยศสำหรับนักศึกษานานาชาติ (IHOF International Hall of Fame) ณ โรงเรียนเสนาธิการทหารบกสหรัฐอเมริกา US Army Command and General Staff College, Fort Leavenworth Kansas โดยมี พล.ท.Milford H Beagle Jr. ผบ. US Army Combined Arms Center เป็นประธานในพิธี ซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เข้ารับการศึกษาในหลักสูตรฯ ดังกล่าว ในปี พ.ศ.2542-2543 (Class of 2000) และเป็นนายทหารไทย คนที่ 9 ที่ได้รับการจารึกชื่อไว้ในทำเนียบศิษย์เก่าเกียรติยศแห่งนี้
@@@……โดยมีผู้ร่วมคณะ ได้แก่ พล.ท.Jamie Jarrard รองผู้บังคับบัญชากองกำลังทางบกภาคพื้นแปซิฟิก DCG USARPAC, พล.ต.Bret Daugherty ผู้บังคับบัญชากองกำลัง National Guard Washington State, พันเอก Tim Peterman ผู้ช่วยทูตทหารบกสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย, พ.อ.Kirt Leffler ผู้ช่วยทูตทหาร/หัวหน้า JUSMAG ประจำประเทศไทย และ พ.ท.พรวัชร บุญเอี่ยม อาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนเสนาธิการทหารบกสหรัฐอเมริกา ในขณะนี้ สำหรับศิษย์เก่าทหารไทยที่เคยรับการจารึกชื่อไว้ในทำเนียบศิษย์เก่าเกียรติยศ ณ สถาบันแห่งนี้ อาทิ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ, พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์, พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ซึ่งแต่ละท่านล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียง และมีบทบาทสำคัญยิ่งในการวางรากฐานที่มั่นคงให้แก่กองทัพไทย
@@@…….กองทัพบก…..พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) นำคณะผู้บังคับบัญชาของกองทัพบกไปตรวจเยี่ยมหน่วยตรวจเลือกทหารที่วัดสามพระยา เขตพระนคร ซึ่งเป็น 1 ใน 46 หน่วยตรวจเลือกในพื้นที่ กทม. รับผิดชอบโดยมณฑลทหารบกที่ 11 โดยผู้บัญชาการทหารบกได้มอบนโยบายกับคณะกรรมการตรวจเลือก ให้กำกับดูแลตามขั้นตอนและระเบียบที่กำหนด รวมทั้งประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้กับชายไทยและครอบครัวที่เดินทางมายังหน่วยตรวจเลือกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจในขั้นตอนการดำเนินการ รวมถึงชี้แจงถึงสิทธิและสวัสดิการที่จะได้รับ นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังได้เยี่ยมชมบรรยากาศและให้กำลังใจน้องๆ ชายไทยที่มาเข้ารับการตรวจเลือก รวมทั้งพบปะพูดคุยกับครอบครัว แลกเปลี่ยนข้อมูลและสร้างความเชื่อมั่นว่ากองทัพบกได้พัฒนาในทุกกระบวนการของทหารกองประจำการ ให้เท่าทันต่อสถานการณ์ และสร้างโอกาสให้เป็น 2 ปีแห่งความหวังในรั้วกองทัพบก เพื่อดูแลน้องคนเล็กของครอบครัวอย่างเต็มที่และดีที่สุด
@@@…….สำหรับในส่วนภูมิภาค ผู้บังคับบัญชาของกองทัพบกในพื้นที่ต่างๆ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยตรวจเลือกทหารในพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งในปี 2567 นี้ กองทัพบกได้กำหนดการตรวจเลือกในวันที่ 1-12 เม.ย. (เว้น 6 เม.ย.) โดยชายไทยที่ได้รับหมายเรียก (สด.35) สามารถเข้ารับการตรวจเลือกในวัน เวลาและสถานที่ที่กำหนด ซึ่งเมื่อผลการตรวจเลือกแล้วเสร็จ ทุกคนจะได้รับใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.43) จากประธานกรรมการตรวจเลือก ภายในวันตรวจเลือกเท่านั้น ทั้งนี้ หากน้องๆ ชายไทยที่สนใจ หรือได้รับทราบในสิทธิประโยชน์ และต้องการสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ สามารถร้องขอหรือสมัครต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในขั้นตอนก่อนการจับสลาก โดยผู้สมัครสามารถเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ในหน่วยทหารและผลัดต่างๆ ตามที่ต้องการและที่หน่วยได้เปิดอัตราบรรจุไว้ รวมทั้งยังได้รับสิทธิอื่นๆ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และต่อยอดทางอาชีพทหาร ที่กองทัพบกได้ดำเนินการตามมาตรการสร้างแรงจูงใจของกระทรวงกลาโหม เพื่อนําไปสู่ระบบสมัครใจโดยสมบูรณ์ในอนาคต
@@@…….รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น…..พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะ เดินทางไปยังโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ครบรอบปีที่ 115 โดยมี พล.ท.ณรงค์ สวนแก้ว เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และ พล.ต.เจษฎ์ จันทรสนาม ผู้บัญชาการโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ให้การต้อนรับ โรงเรียนเสนาธิการทหารบกเป็นสถาบันการศึกษาทางทหาร ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2452 โดยความริเริ่มของจอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ซึ่งถือเป็นสถาบันการศึกษาทางทหารชั้นนำของภูมิภาค ที่ผลิตผู้บังคับบัญชาและฝ่ายเสนาธิการ ผู้นำทางทหารที่มีความรู้ความสามารถควบคู่คุณธรรมให้แก่กองทัพ รวมทั้งสนับสนุนให้การศึกษาแก่หน่วยงานราชการอื่นทั้งภาครัฐและเอกชน โดยปัจจุบันมีการจัดฝึกอบรมในความรับผิดชอบ ๔ หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรการบริหารความมั่นคงการทัพบก, หลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก, หลักสูตรการพัฒนาองค์ความรู้การก่อการร้ายและการก่อความไม่สงบสำหรับผู้บริหาร และหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ความมั่นคงศึกษา) ซึ่งในปีนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นศิษย์เก่าดีเด่นของโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ประจำปี 2566 นับเป็นศิษย์เก่าดีเด่นท่านที่ 84 โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบประกาศฯ
@@@…….จากสถานการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 เม.ย.2567 โดยมีแรงสั่นสะเทือนขนาด 7.4 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเมืองฮวาเหลียน แรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวสามารถรับรู้ได้หลายพื้นที่ของไต้หวันและบางพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ปัจจุบันยังไม่มีรายงานข้อมูลของคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมความพร้อมปฏิบัติภารกิจอพยพคนไทย หรือการสนับสนุนภารกิจลำเลียงสิ่งของเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ หากได้รับการประสานจากรัฐบาล ซึ่งเบื้องต้นกองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบินแบบ C-130 ซึ่งเคยใช้ในการอพยพคนไทยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศตุรกีและเหตุการณ์ความไม่สงบในสาธารณรัฐซูดานที่ผ่านมา รวมถึงเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น การพิจารณาเส้นทางการบิน ความพร้อมของสนามบินปลายทาง และการเตรียมการลำเลียงทางอากาศสายแพทย์ เป็นต้น ทั้งนี้ กองทัพอากาศจะติดตามสถานการณ์และประสานกับรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ อย่างใกล้ชิด
………………………………….
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย… “รหัสมอร์ส”