‘ไทย’ห่วง‘เมียนมา’ เสนอแนวทางใหม่ ลดรุนแรง-ไม่กดดัน

การแพร่ระบาดโควิด-19 หลังสงกรานต์ดูจะรุนแรงขึ้น ช่วง 2 สัปดาห์จากนี้ไปเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ขณะที่กองทัพร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ TheKeynews ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 24 เม.ย.สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีการคาดการณ์ว่าหลังสงกรานต์จะรุนแรง ซึ่งเป็นไปตามที่คาดกันไว้ ดังนั้นช่วง 2 อาทิตย์ต่อจากนี้ขอให้ทุกท่านดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี ออกนอกบ้าน สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ ลดการสัมผัส 

@@@…….พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน “น้ำยาตรวจ PCR COVID-19 ” ให้แก่ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ จำนวน 10,000 ชุด มูลค่ารวม 7,200,000 บาท

@@@…….พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.)  กล่าวว่า กองทัพได้สนับสนุนรถทหารเข้ามาช่วยในการลำเลียงผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว จำนวน 10 คัน ซึ่งตามแผนจะใช้ประมาณ 30 คัน โดยจะเป็นรถพยาบาลของกองพันเสนารักษ์ รวมถึงรถสองตอนที่ต้องแยกระหว่างคนขับกับผู้ป่วยออกจากกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะดำเนินการในพื้นที่ กทม. เป็นหลัก ทั้งนี้ รถทหารที่นำมาสนับสนุนในส่วนของผู้ป่วยประเภทสีเขียว คือที่แพทย์ได้วินิจฉัยแล้วว่ามีผลเป็นบวก แต่อาการไม่มาก โดยจะเคลื่อนย้ายจากโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยได้เข้ารับการตรวจ และเอกซเรย์ปอดวินิจฉัยแล้วเข้าข่ายผู้ป่วยประเภทสีเขียวไปส่งยังโรงพยาบาลสนามเบื้องต้น

@@@…….หลังจากที่ พล.อ. พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรง กองทัพบก และหน่วยรอง จัดกำลังพลปฏิบัติราชการ ณ ที่ตั้งหน่วยในวันที่ 16 เม.ย.64 ให้น้อยที่สุด คือไม่เกิน 1 ใน 4 และให้จัดเฉพาะกำลังพลที่ไม่ได้มีการเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ มาปฏิบัติราชการนั้น ล่าสุดมีคำสั่งให้กำลังพลที่มีการเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ (ไม่รวมถึงการข้ามจังหวัดในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล) กักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางกลับถึงบ้านพัก โดยให้ปฏิบัติราชการ ณ ที่พักอาศัย (Work from home) ให้หน่วยยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

@@@……ขณะที่กองทัพเรือ พล.ร.อ.ชาติชาย  ศรีวรขาน  ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) สั่งการให้กำลังพลกองทัพเรือทุกหน่วย ยึดมาตรการ 18 ข้อ ในการรับมือ COVID  – 19 รอบใหม่ ดังนี้ 1.ห้ามเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยง 2.คงความพร้อมการปฏิบัติการขั้นสูงสุด 3.Work from home 4.เช็ดอิน-เช็ดเอ้าท์ ไทยชนะ 5.เตรียมความพร้อมของสถานพยาบาล 6.แจกจ่ายวัคซีนให้ผู้มีความจำเป็นเร่งด่วน 7.บันทึกประวัติไทม์ไลน์ตนเอง 8.ยกเลิกกิจกรรมรวมกลุ่ม 9.ตรวจสอบแผนงงานของหน่วย  

@@@……10.ให้ทุกหน่วยงานประชุมผ่านระบบ VTC 11.สถานศึกษา ทร.เรียนออนไลน์  12.บังคับใช้มาตรการ D-M-H-T-T 13.ฐานทัพเรือต่าง ๆ จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว 14.ปรับงบประมาณมาจัดหาอุปกรณ์ป้องกัน 15.ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง 16.ผบ.หน่วย ตรวจสอบกำลังพลในสังกัด 17.กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เว้นระยะห่าง วัดอุณหภูมิ สวมมาส์ก  และ 18.ใช้ทรัพยากรของกองทัพเรือในการช่วยเหลือประชาชนจาก COVID  – 19

@@@……พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (ดอนเมือง) โดยกองทัพอากาศจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการและสามารถดูแลตัวเองได้ สามารถรองรับผู้ติดเชื้อทั้งประชาชนและกำลังพลของกองทัพอากาศได้จำนวน 120 เตียง แบ่งโซนการเฝ้าระวังของผู้ป่วยชาย ที่ชั้นล่าง จำนวน 70 เตียง และโซนการเฝ้าระวังของผู้ป่วยหญิง ที่ชั้นบน จำนวน 50 เตียง มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกให้แต่ละเตียงเรียบร้อย สำหรับตัวอาคารมีรั้วกั้นโดยรอบพื้นที่ การกำหนดเส้นทางการเข้าออก ทั้งเส้นทางที่ปลอดเชื้อ และเส้นทางกรณีฉุกเฉิน ซึ่งมีการซักซ้อมการปฏิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว 

@@@……ทั้งนี้ กองทัพอากาศขอให้ประชาชนและกำลังพลของกองทัพอากาศมั่นใจว่า โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (ดอนเมือง) ได้รับการตรวจและรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ตลอดจนมีความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์ เวชภัณฑ์สิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังได้นำ “น้องถาดหลุม” หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช มาใช้ในการลำเลียงอาหาร ยา เสื้อผ้า ให้แก่ผู้ติดเชื้อเพื่อลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์ด้วย

@@@……การประชุมผู้นำอาเซียน….พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ เป็นผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน ที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ เวลา 13.30-15.30 น. ทั้งนี้ เนื่องจาก นายกรัฐมนตรีมีภารกิจในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศ 

@@@……ในข้อเท็จจริงแล้ว การไม่เข้าร่วมประชุมของนายกรัฐมนตรี นั้น เป็นการแสดงท่าทีประการหนึ่งในวิถีทางการทูตของไทยว่า มิได้ใช้เวทีอาเซียน โดยผู้นำประเทศของทุกประเทศไปกดดัน หรือแทรกแซงกิจการภายในเมียนมาตรง ๆ แต่ต้องการจะให้เป็นเวทีพูดคุยแก้ปัญหา กับการสื่อสารถึงความปรารถนาให้เกิดความสงบเรียบร้อยขึ้นในภูมิภาค เกิดความปรองดองขึ้นในประเทศ ด้วยข้อเสนอใหม่ ๆ และพร้อมจะร่วมมือกันให้ไปสู่เป้าหมายดังกล่าวด้วย โดยจะไม่แสดงท่าทีว่ายอมรับการยึดอำนาจอย่างชัดเจนแต่อย่างไร 

@@@……สถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา และการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลกับกองกำลังชนกลุ่มน้อย ได้สร้างความกังวลอย่างมากในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ การยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนอีกครั้งในรอบ 59 ปี ผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้ว นานาชาติ ไม่เคยเห็นอาเซียนอยู่ในสายตา จนปัจจุบัน หลายประเทศ ได้ร้องขอให้อาเซียน ช่วยเป็นช่องทาง และกลไกไปสู่การลดความรุนแรง รวมทั้งช่วยหาหนทาง หรือทางออกเพื่อแก้ไขวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างน้อยการมีอยู่ของช่องทางสื่อสาร 2 ทาง ถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ 

@@@……มิฉะนั้น การผลักพม่าไปให้จีน ไม่เป็นผลดีต่อประเทศตะวันตก ไม่เฉพาะทางเศรษฐกิจ แต่มันเกี่ยวข้องกับความมั่นคงโดยตรงอีกด้วย ประเทศไทยดำเนินการแสดงท่าทีอย่างระมัดระวัง และรอบคอบ มุ่งหมายลดความรุนแรง และให้เกิดเวทีพูดคุยกันในเมียนมา เป็นหลักไม่พยายามเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของเมียนมา ตามแนวทางปฏิญญาอาเซียน นั่นเอง.

………………..

คอลัมน์ : Military Key

โดย “รหัสมอร์ส”