โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง จวกฝ่ายค้านหลอกด่า รมว.กลาโหม ยังไม่ทันจะซื้อข้าวอายุ 10 ปี จากโครงการรับจำนำข้าวมาให้กำลังพลกิน ก็ทัวร์ลงแล้ว แจงสื่อกลางดึกถ้าข้าวไม่ดี ไม่มีคุณภาพ “บิ๊กทิน” ไม่ซื้อแน่นอน
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 11 พ.ค.67 เรื่องของกองทัพเวลานี้ คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ เท่ากับเรื่องที่ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม จะช่วยรัฐบาลในเรื่องของการรับซื้อข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว เป็นเรื่องที่ดีที่ช่วยอุดหนุนรัฐบาล และถ้าจะให้ดี เมื่อรับซื้อ “ข้าว” แล้วควรจะแจกให้กับครอบครัวของรัฐมนตรีกินกันก่อน เพื่อให้ “กำลังพล” ได้อุ่นใจว่า “ข้าว” ปลอดภัย ไร้เชื้อรา
@@@…….แต่ยังไม่ทันได้ซื้อ เพียงแค่ “สุทิน” บอกว่า กองทัพพร้อมสนับสนุนรัฐบาลในการช่วยซื้อข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว “ทัวร์ลงทันที” เดือดร้อนต้องให้โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง ส่งคำชี้แจงถึงสื่อกลางดึก โดยชี้แจงว่า ถ้าข้าวผ่านมาตรฐาน องค์กรต่างๆ ให้การรับรองว่า มีคุณภาพที่ดีบริโภคได้ถึงจะจัดซื้อเข้ามา ถามจริงฝ่ายค้าน คนขับรถทัวร์ อ่านไม่จบหรือตั้งใจ เอามาหลอกด่าฟรี วันนี้ต้องพูดคุยกันด้วยข้อมูลเช่น 1.ถ้าข้าวเน่าถึงขนาดคน หรือสัตว์กินไม่ได้ก็ควรเผาทิ้งเลย 2.ถ้าข้าวดีมีหน่วยงานรับประกันจะเอาไปทิ้งทำไม 3.ถ้ารับรองว่ากินได้มีคุณภาพต่อร่างกาย สามารถขายได้ก็ควรขายให้กับเอกชนหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อจะได้นำเงินกลับเข้าไปคงคลังนำไปพัฒนาประเทศต่อไปมั้ย 4.รถทัวร์บางทีก็เลือกจอดบ้าง อ่านให้ครบ จบให้เคลียร์ ประเทศจะได้ก้าวไปได้เร็ว ติดหล่มมา 10 กว่าปียังไม่เพลียอีกเหรอ สรุปฟังนะ “รมว.กลาโหม” บอกว่า หากข้าวดีมีคุณภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ก็พร้อมที่จะรับซื้อไว้ แต่ถ้าไม่ได้คุณภาพ ก็ไม่สามารถรับซื้อได้ เข้าใจตรงกันนะครับ
@@@…….กลับมาเรื่องดีๆ กองทัพไทย ระดมสรรพกำลังแจกจ่ายน้ำรวมกว่าสองล้านลิตร แก้ไขวิกฤตภัยแล้งให้แก่เกษตรชาวสวนทุเรียนชุมพร กองทัพไทย โดย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ บูรณาการร่วมกับจังหวัดชุมพรตลอดจนส่วนราชการต่างๆ นำกำลังพล รถบรรทุกน้ำขนาดใหญ่ เข้าแจกจ่ายน้ำช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์ จนถึงปัจจุบันเพื่อร่วมแก้ไขวิกฤตภัยแล้ง ตามบัญชาของนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.67 จนถึงปัจจุบัน กองทัพไทยได้มีการวางแผนปฏิบัติงานเพื่อเข้าพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกรในแต่ละอำเภอ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างครอบคลุมและรวดเร็ว โดยปัจจุบันมียอดรวมการแจกจ่ายน้ำไปแล้วทั้งสิ้น จำนวนกว่าสองล้านลิตร เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากภัยแล้งในเบื้องต้นให้กับเกษตรกรชาวสวนจังหวัดชุมพร
@@@…….ขณะที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังคงฐานปฏิบัติการ ณ ท่าอากาศ ยานชุมพร และกำหนดแผนการปฏิบัติ ให้เกิดฝนหลวงสู่พื้นที่เป้าหมายต่อไป จนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะคลี่คลาย ทั้งนี้ กองทัพไทย จะยังคงบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งร่วมประชุมกำหนดแผนงานในการบริหารจัดการพื้นที่ประสบภัยแล้งในระยะยาว ด้วยการจัดการพื้นที่กักเก็บน้ำอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกษตรกรสามารถมีน้ำใช้ในการอุปโภค บริโภค และดูแลผลผลิตทางการเกษตร ได้อย่างยั่งยืนต่อไป
@@@…….วันก่อน พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รับเยี่ยมคำนับ ดิ เอิร์ล ออฟ มินโต้รมช.กลาโหมสหราชอาณาจักร เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 8-10 พ.ค.67 ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือถึงความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรว่า ได้ดำเนินความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดและยาวนานในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ ซึ่ง ประเทศไทย และสหราชอาณาจักรมีความร่วมมือทางทหารอย่างใกล้ชิด ผ่านกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแลกเปลี่ยนการเยือน การฝึกร่วม/ผสม และการแลกเปลี่ยนที่นั่งการศึกษา ภายใต้กรอบของ MOU
@@@…….นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ความร่วมมือด้านไซเบอร์ โดยไทยมีความพยายามในการผลักดันให้กองทัพมีบทบาทด้านการป้องกันทางไซเบอร์มากขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านข่าวกรองทางไซเบอร์และการป้องกันประเทศระหว่างกันในอนาคต เนื่องจากสหราชอาณาจักรมีแผนเพิ่มงบประมาณทางด้านการป้องกันประเทศ นอกจากนี้ นาย Mark Gooding (มาร์ค กูดดิ้ง) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ยังได้กล่าวเสริมถึงการพัฒนาของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศภายในสหราชอาณาจักรที่มีความก้าวหน้าอย่างมาก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ กับประเทศไทยในอนาคต
@@@……กองทัพเรือ….พล.ร.อ.อะดุง พันธ์ุเอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยนางกีระตา พันธุ์เอี่ยม นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นประธานในพิธีปิดโครงการ “เปิดบ้านดนตรีไทย” โดยมี พล.ร.ต.ภาณุพันธ์ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือกรุงเทพ ให้การต้อนรับ ณ หอดุริยางค์ กองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบโอวาทแก่ผู้เข้าร่วมโครงการเปิดบ้านดนตรีไทยใจความว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นเยาวชนของประเทศได้มีโอกาสมาศึกษาเพิ่มเติมความรู้ความสามารถในด้านดนตรีไทย ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ซึ่งกองทัพเรือจะจัดโครงการเปิดบ้านดนตรีไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เยาวชนสานต่อความฝันและเติมเต็มความสามารถ ตลอดจนเพื่อรักษาวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของคนไทยสืบต่อไป
@@@…….สำหรับโครงการ “เปิดบ้านดนตรีไทย” เป็นโครงการที่กองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ ร่วมกับสมาคมภริยาทหารเรือ จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้บุตรหลานของข้าราชการกองทัพเรือ และเยาวชนที่เป็นบุคคลภายนอกกองทัพเรือได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้ดนตรีไทยกับคณาจารย์ของกองทัพเรือโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ อีกทั้งโครงการดังกล่าวยังเป็นการสนองนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ และนายกสมาคมภริยาทหารเรือในการส่งเสริมให้เยาวชนได้สร้างเสริมประสบการณ์การในการเรียนดนตรีไทย และสืบสานวัฒนธรรมดนตรีไทย ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าและเป็นสิ่งที่ของประชาชนคนไทยทุกคนควรอนุรักษ์ นอกจากนี้โครงการเปิดบ้านดนตรีไทยยังเป็นการสนับสนุนสวัสดิการด้านการศึกษาให้แก่ครอบครัวกำลังพลทหารเรือ และประชาชนทั่วไป อีกด้วย กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
@@@…….กองทัพอากาศ…..พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานพิธีฝ่ายฆราวาส และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ ในการประกอบพิธียกปลียอดทองคำประดิษฐาน ณ เจดีย์พุทธสถาน โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช จังหวัดสระบุรี ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศได้มอบเสื้อสามารถเพื่อเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้ที่เป็นกำลังสำคัญในการจัดสร้างพุทธสถานจนสำเร็จ ได้แก่ เรืออากาศเอก ชุมพร ผดุงกิจ (เตรียมทหาร รุ่น 5 / นายเรืออากาศ รุ่น 12) ผู้ริเริ่มการจัดสร้างพุทธสถาน อาจารย์ สิน พงษ์หาญยุทธ ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2560 สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) ผู้ออกแบบพุทธสถาน และอาจารย์ เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2553 สาขาสถาปัตยกรรม ที่ปรึกษาสถาปัตยกรรมไทยการก่อสร้างพุทธสถาน
@@@…….ทั้งนี้ได้จัดพิธีบวงสรวง โดย พล.อ.อ. ณรงค์ อินทชาติ รองผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการปรับวางที่ตั้งโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในการประกอบพิธีฯ ยอดองค์เจดีย์ดังกล่าว ดำเนินการจัดสร้างด้วยทองคำบริสุทธ์ รวมถึงอัญมณีทรงคุณค่า ที่ข้าราชการกองทัพอากาศ ร่วมกับพี่น้องประชาชนและผู้มีจิตศรัทธา ได้ร่วมบุญอุทิศจัดสร้างเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาด้วยวัตถุธาตุอันทรงคุณค่า ประกอบด้วย ทองคำหนัก 4,328.32 กรัม, เพชร 99 เม็ด (4.39 กะรัต) และ พลอย 3,270 เม็ด (2,294.52 กะรัต) กองทัพอากาศได้ดำเนินการจัดสร้างเจดีย์พุทธสถาน ณ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นรูปทรงเจดีย์ 9 เหลี่ยม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระมหาชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อีกทั้งเป็นพลังบุญ เพื่อผืนแผ่นดิน โดยใช้เป็นสถานที่กราบสักการะบูชาพระพุทธธรรมราชูทิศ อันเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
………………………………….
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย …“รหัสมอร์ส”
