วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS“กองทัพเรือ”ยันป้องกันอธิปไตยชาติ!! ไม่ให้“กัมพูชา”รุกล้ำน่านน้ำ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“กองทัพเรือ”ยันป้องกันอธิปไตยชาติ!! ไม่ให้“กัมพูชา”รุกล้ำน่านน้ำ

ผบ.ทหารสูงสุด เดินทางเยือนฝรั่งเศสร่วมงาน Thailand-France Business Forum พร้อมเยี่ยมคำนับรองผบ.ทหารสูงสุด หารือความสัมพันธ์ทางทหารร่วมกัน 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 18 พ.ค.2567 สถานการณ์บ้านเมืองสงบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปสาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อเตรียมตัวจะเข้าร่วมและกล่าวปาฐกถาในงาน Thailand-France Business Forum ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนไทยและฝรั่งเศส

@@@…….ด้าน พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เข้าร่วมงาน Thailand- France Business Forum ด้วยเช่นกัน ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันซึ่งมี นาย Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งในการนี้ นาย Emmanuel Macron ได้กล่าวขอบคุณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ได้ช่วยผลักดันให้มีการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent : LOI) ว่าด้วยความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมทหารระหว่างศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (ศอพท.) กับ Direction Générale de l’Armement (DGA) โดยมี พล.อ.จิรวิทย์ เดชจรัสศรี ผู้อำนวยการศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร เป็นผู้ลงนาม และร่วมถ่ายภาพหมู่กับผู้นำประเทศของทั้งสองฝ่าย 

@@@…….จากนั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เข้าเยี่ยมคำนับ พล.ร.อ.Pierre Vandier (ปิแยร์ วองดิเยร์) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางทหารที่มีร่วมกันมาอย่างยาวนาน ผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน การฝึก การศึกษาต่างๆ โดย รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดสาธารณรัฐฝรั่งเศส มีความประสงค์จะส่งกำลังพลเข้าร่วมการฝึกต่างๆ ของไทยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ชื่นชมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของสาธารณรัฐฝรั่งเศสว่า มีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ 

@@@…….พล.อ.โดมศักดิ์ คำใสแสง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะฯ เข้าตรวจเยี่ยมกรมกิจการพลเรือนทหาร เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานในห้วงครึ่งปีแรก และรับฟังแผนการปฏิบัติงานในห้วงครึ่งปีหลัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของกรมกิจการพลเรือนทหาร โดยมี พล.ท.ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร ให้การต้อนรับ ซึ่งรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและคณะ ได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานของกรมกิจการพลเรือนทหาร ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประกอบด้วย การปฏิบัติงานด้านการพิทักษ์รักษา ปกป้อง เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ (Duty First), การให้ความสำคัญกับประชาชน กำลังพลและครอบครัว (People First)

@@@…….ความทันสมัยของหน่วย (Modernization), การสนับสนุนรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม (Support to MOD/GOV) เป็นต้น ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้มอบนโยบายในการปฏิบัติงาน โดยเน้นความสำคัญของงานด้านการประชาสัมพันธ์และการช่วยเหลือประชาชนของกองบัญชาการกองทัพไทยในการบูรณาการร่วมกับเหล่าทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความเข้าใจระหว่างกองทัพไทยและประชาชน อันจะนำไปสู่ความร่วมมืออันดีต่อกันในอนาคต เพื่อเป็น oneteamทัพไทย ที่แข็งแกร่ง พร้อมเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้ในทุกโอกาส

@@@…….ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม….นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปราชการเพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกทหารใหม่ ผลัดที่ 1/67 ณ พัน.มทบ.15 (ค่ายเพชรบุรีราชสิรินธร) โดยรับชมการสาธิตการช่วยกู้ชีพขั้นพื้นฐาน (Cardiopulmonaryresuscitaiton : CPR) การใช้เครื่องกระตุกหัวใจ (Automated External Defibrillator: AED) การสาธิตการป้องกันระวังโรคลมร้อน (Heatstroke) ของ รพ.ค่ายรามราชนิเวศน์ และการสาธิตการฝึกโดยทหารใหม่ ซึ่ง รมว.กลาโหมได้กล่าวให้โอวาทกับกำลังพล และเน้นย้ำให้ผู้ฝึก ผู้ช่วยผู้ฝึก และครูนายสิบ ดูแลน้องทหารใหม่เสมือนคนในครอบครัว เพราะเขาคือ น้องเล็กของกองทัพบก 

@@@…….ต่อมา รมว.กลาโหมและคณะ ได้เข้าเยี่ยมชมโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดําริ พร้อมกับพบปะกำลังพลของหน่วย มทบ.15 ที่เข้ามาหมุนเวียนในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รวมถึงการนำโครงการ ไข่ไก่อารมณ์ดี (ไข่ไก่ออร์แกนิค) มาขยายผลดำเนินการอื่นๆ ต่อไป จากนั้นได้เดินทางไป จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดน ณ บก.ฉก.จงอางศึก (ร.19) และเยี่ยมจุดตรวจช่องสิงขร โดยสมทบร่วมกับ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.กระทรวงต่างประเทศ ในการมอบของสิ่งของบำรุงขวัญพร้อมให้กำลังใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าว

@@@……กรณีกัมพูชาสร้างเขื่อนกันคลื่น ที่กองทัพเรือ ได้แจ้งกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือประท้วงกัมพูชา โดยได้หยุดการก่อสร้างไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2541 นั้น พล.ร.ต.วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ภารกิจหน้าที่ของกองทัพเรือ ที่สำคัญคือ การรักษาสิทธิและอธิปไตยตามแนวเขตแดน ตามการกำหนดเขตแดน โดยกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ในกรณีที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลว่า ฝ่ายกัมพูชาได้มีการสร้างเขื่อนกันคลื่น ซึ่งอาจส่งผลให้กัมพูชาอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับอาณาเขตทางทะเลของไทย นั้น การสร้างเขื่อนกันคลื่นของฝ่ายกัมพูชา ได้มีการเริ่มก่อสร้างจากพื้นที่ฝั่งด้านกัมพูชา ในช่วงปี พ.ศ.2540-2541 โดยหน่วยงานของกองทัพเรือในพื้นที่ ได้มีการตรวจพบและรายงานขึ้นมา 

@@@……ทางกองทัพเรือ จึงได้ให้หน่วยเทคนิคคือ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ตรวจสอบ พบว่ามีการสร้างเขื่อนกันคลื่นจริง จึงได้แจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ และ กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการยื่นบันทึกช่วยจำ และหนังสือประท้วงฝ่ายกัมพูชา และขอให้รื้อถอนเขื่อนกันคลื่นดังกล่าวออกไป โดยได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการออกไปแล้วจำนวน 3 ครั้ง เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2541 วันที่ 30 พ.ย.2541 และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2564 ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 ที่ กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือทักท้วงกรณีดังกล่าวไป ทางกัมพูชาได้หยุดการก่อสร้าง และไม่มีการสร้างเพิ่มเติมแต่อย่างใด ยืนยันว่า กองทัพเรือยังคงดำรงภารกิจในการรักษาสิทธิ อำนาจอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดเรือและอากาศยาน ลาดตระเวน เฝ้าตรวจ และแสดงกำลังเหนือพื้นที่ทางทะเลที่อ้างสิทธิ์ มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของชาติ และความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศ 

 ………………………………….

 คอลัมน์ : “Military Key”

 โดย… “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img