วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS‘ประวัติศาสตร์’มีไว้ศึกษา-แก้ไขในสิ่งไม่ดี ไม่ได้ใช้ปลุกระดมความคิด
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ประวัติศาสตร์’มีไว้ศึกษา-แก้ไขในสิ่งไม่ดี ไม่ได้ใช้ปลุกระดมความคิด

กองทัพไทยยุคใหม่ เปิดโอกาสให้ทหารหญิงได้ศึกษาหลักสูตรส่งทางอากาศ เพื่อแสดงความสามารถ ทดสอบสภาวะทางจิตใจที่เข้มแข็งและแข็งแกร่ง ทัดเทียมกับนายทหารชาย 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.67 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เชิญวิทยากรครูทหารจากโครงการจิตอาสาพระราชทาน ไปบรรยายเทคนิคการสอนประวัติศาสตร์ให้เป็นเรื่องน่าสนใจแก่ครูประวัติศาสตร์ของ สพฐ. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายนั้น ฝ่ายความมั่นคงมองว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่เหตุใดจึงมีฝ่ายการเมืองบางกลุ่ม มองเป็นการจัดการศึกษาแบบยัดเยียดท่องจำ ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้ว มันมิได้เป็นเช่นนั้น 

@@@…….อย่างไรก็ตาม ฝ่ายทหารให้ความสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ มานมนานแล้ว และมั่นใจว่า ประเด็นการศึกษาประวัติศาสตร์นั้น สำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ รวมทั้งการดำรงอยู่ของประเทศชาติ ประชาชน และเผ่าพันธุ์ ซึ่งมิใช่การตรวจสอบว่าใครในประวัติศาสตร์ได้ตัดสินตกลงใจผิดพลาดอย่างไร แต่เป็นการเรียนรู้ให้ได้ตรรกะที่ถ่องแท้ว่า ผู้คนในประวัติศาสตร์ขณะนั้น ได้ตัดสินตกลงใจเช่นนั้นเพราะเหตุใด…เพียงการศึกษาประวัติศาสตร์เท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับทักษะของผู้สอนเป็นอย่างมากด้วย ย่อมเพียงพอให้ผู้ยังไม่สันทัดต่อการตัดสินตกลงใจในสถานการณ์วิกฤติ ได้เกิดความคิดแจ่มแจ้งขึ้น และมองเห็นบรรดาอุปสรรคต่างๆ ที่จะต้องแก้ไขได้ชัดเจน 

@@@……ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงเชื่อมั่นว่า ประโยชน์ของการศึกษาประวัติศาสตร์จะช่วยให้มนุษยชาติทุกหมู่เหล่า เกิดสำนึกในการค้นคว้า และสืบค้นข้อมูลที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน อันสร้างความภูมิใจและกระตุ้นความรู้สึกนิยมในชาติหรือเผ่าพันธุ์ ตลอดจนตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษสั่งสมไว้, ประวัติศาสตร์ช่วยให้เกิดการเรียนรู้จากอดีตเพื่อเป็นบทเรียนสำหรับปัจจุบัน องค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาประวัติศาสตร์จะทำให้เข้าใจถึงปัญหา สาเหตุของปัญหา และผลกระทบจากปัญหา, การศึกษาประวัติศาสตร์ก่อให้เกิดองค์ความรู้ที่หลากหลาย ซึ่งสามารถนำความรู้เหล่านั้น ไปกำหนดยุทธศาสตร์ในการดำเนินนโยบายให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติทั้งปัจจุบัน และอนาคต

@@@……. วิธีการทางประวัติศาสตร์ทำให้ผู้ศึกษาสั่งสมประสบการณ์ และทักษะในการวิเคราะห์ ไต่สวน และแก้ปัญหา ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการศึกษาศาสตร์แขนงอื่นๆ คุณสมบัตินี้นับเป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาคุณภาพประชากรในสังคมที่เจริญก้าวหน้า และมีพัฒนาการสูง ..ดังนั้น ความจริงเรื่องทั้งหมดจากการศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์นี้นั้น จึงมิใช่อะไรอื่น นอกจากเป็นผลแห่งความคิดใคร่ครวญถึงมวลสถานการณ์ที่เราอาจต้องเผชิญในอนาคตโดยนัยอันชอบด้วยเหตุผลนั่นเอง ซึ่งเราควรหมั่นทำตัวให้คุ้นเข้าไว้ และด้วยประการฉะนี้ เราจึงจะสามารถตัดสินตกลงใจได้เยี่ยงวีรบุรุษตามแนวทางแห่งเหตุผลโดยไม่มีผู้ใดตำหนิได้

@@@…….นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธานในการจัดกิจกรรมมอบสัญญาเช่า โครงการบริหารจัดการที่ดินในความครอบครองของกองทัพเรือให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า ณ สนามกีฬากลางเทศบาลตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการที่ดินกองทัพเรือ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ และมีกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการความเป็นมาของป้อมพระจุลจอมเกล้า, นิทรรศการนวัตกรรมโกงกางเทียมซีออส, การแสดงดนตรี, การให้บริการตรวจสุขภาพ แพทย์แผนจีน แพทย์แผนไทย โดยหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกองทัพเรือ และการประกอบเลี้ยงแจกจ่ายประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม จากรถครัวสนามของกองทัพเรือ​​ 

@@@…….คณะกรรมการที่ดินกองทัพเรือ ได้รวบรวมข้อมูลทุกด้านพิจารณาแนวทางในบริหารจัดการที่ดินในความครอบครองของกองทัพเรือให้ประชาชนใช้ประโยชน์ตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ โดยเห็นชอบให้พื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า ดำเนินโครงการบริหารจัดการที่ดินในความครอบครองของกองทัพเรือให้ประชาชนใช้ประโยชน์ สอดรับนโยบายของ รมว.กลาโหม ในการนำที่ดินที่อยู่ในการดูแลของหน่วยทหาร เช่น ที่ราชพัสดุ และที่หมดความจำเป็นต่อการใช้งานทางทหาร โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ การพัฒนาทางเศรษฐกิจ และการสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ อาทิ การใช้เพื่อการเกษตร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภค การพัฒนาระบบนิเวศน์ และการสร้างแหล่งเรียนรู้เพื่อสร้างรายได้ นั้น ผู้บัญชาการทหารเรือได้สั่งการให้คณะกรรมการที่ดินกองทัพเรือ ดำเนินโครงการบริหารจัดการที่ดินของกองทัพเรือให้ประชาชนใช้ประโยชน์รองรับนโยบายรัฐบาลด้วยการนำพื้นที่บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ เนื้อที่ประมาณ 3,918 ไร่ มาดำเนินโครงการ 

@@@…….ทั้งนี้ การดำเนินโครงการเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธนารักษ์ 6 ขั้นตอน ประกอบด้วย การประชุมทำความเข้าใจ, การตรวจสอบ รังวัด จัดทำแผนที่, การสอบสวนสิทธิการครอบครอง, การรับคำร้องของผู้เช่าที่ราชพัสดุ, การพิจารณาจัดให้เช่าที่ราชพัสดุ และการกิจกรรมมอบสัญญาเช่า ในระหว่างการดำเนินโครงการ กองทัพเรือได้จัดกำลังพลของป้อมพระจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนราษฎรผู้เช่าที่ดินราชพัสดุพื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า และรวบรวมข้อมูลราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนกรณีพื้นที่กัดเซาะชายฝั่งบริเวณบ้านแหลมสิงห์ โดยผู้บัญชาการทหารเรือ ได้อนุมัติให้ดำเนินการโครงการติดตั้งโกงกางเทียมในพื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าแล้ว ปัจจุบันได้ดำเนินการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้ช่วยป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลในพื้นที่ดังกล่าว และการก่อสร้างถนนคู่ขนาน ยกระดับเข้าออกหมู่บ้านกองดินขนาดกว้าง 1.4 เมตร สูง 1 เมตร ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรในช่วงน้ำท่วมถนน อันเนื่องมาจากน้ำทะเลหนุน 

@@@…….กองบัญชาการทหารสูงสุด….พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางไปพบปะให้กำลังใจกำลังพล สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ที่เข้ารับการฝึกหลักสูตรส่งทางอากาศรุ่นที่ 351 ของโรงเรียนสงครามพิเศษ โดยมี พล.ต.เดชา ศรีมงคล ผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ/ผู้บัญชาการโรงเรียนสงครามพิเศษ ให้การต้อนรับ ณ สนามกระโดดร่มบ้านท่าเดื่อ จังหวัดลพบุรี โดยเป็นการกระโดดร่มตามแผนการปฏิบัติ 3 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องบินลำเลียงแบบ บล.295 ในระดับความสูง 1,250 Feet ซึ่งในหลักสูตรนี้มีนายทหารหญิงสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทยเข้าร่วมการฝึก จำนวน 4 นาย โดยทั้งนี้กองทัพไทยได้เปิดโอกาสให้ทหารหญิงได้เข้าศึกษาหลักสูตรส่งทางอากาศ เพื่อแสดงความสามารถ ทดสอบสภาวะทางจิตใจที่เข้มแข็งและแข็งแกร่ง ในหลักสูตรที่มีความยากลำบาก ต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งได้สะท้อนให้เห็นว่า ทหารหญิงมีจิตใจที่หนักแน่น สามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดเดี่ยว ในสถานการณ์ที่คับขัน ได้ทัดเทียมกับนายทหารชาย 

@@@…….ภายหลังจบการฝึก ผู้บัญชาการทหารสูงสด ได้พบปะพูดคุยและให้กำลังใจกับกำลังพลอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ผู้เข้ารับการฝึกได้นำเอาประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกมาพัฒนาตนเอง พร้อมทั้งขอบคุณกำลังพลทุกนายที่เป็นตัวแทนกองบัญชาการกองทัพไทยเข้ารับการฝึกในครั้งนี้ อีกทั้งเป็นตัวอย่างให้แก่กำลังพลรุ่นต่อไป ในการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้พร้อมกับการปฏิบัติหน้าที่ในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมาย สำหรับ หลักสูตรส่งทางอากาศ เป็นหลักสูตรของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยทหารใช้ร่มของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และเป็นหลักสูตรหลักของนายทหารที่จะเติบโตเป็นผู้บังคับหน่วยรบในอนาคต โดยต้องผ่านการเข้ารับการฝึกตามมาตรฐานของทหารพลร่ม เพื่อแสดงให้เห็นถึงสภาวะของความเป็นผู้นำ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้าเผชิญในสิ่งที่กลัวภายในจิตใจ ตลอดจนสร้างความเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วง และเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อประเทศชาติต่อไป

@@@…….พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมชี้แจง (ร่าง) สมุดปกขาว (White Paper) ของกองบัญชาการกองทัพไทย โดยมี หัวหน้าส่วนราชการกองบัญชาการกองทัพไทยและคณะทำงานเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม กองบัญชาการกองทัพไทย โดย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ติดตามการดำเนินงานของส่วนราชการและคณะทำงาน ของกองบัญชาการกองทัพไทย ในการจัดทำแผนการปฏิบัติสมุดปกขาว (White Paper) ของหน่วย ให้มีความทันสมัย โปร่งใส มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนปฏิบัติราชการกระทรวงกลาโหมและแผนปฏิบัติราชการกองบัญชาการกองทัพไทย

@@@…….ทั้งนี้ การจัดทำ เอกสารสมุดปกขาว (White Paper) เพื่อเป็นกรอบความคิดในการพัฒนาขีดความสามารถของกองบัญชาการกองทัพไทยในระยะยาวอย่างเป็นระบบ และสอดคล้องกับบริบทความมั่นคงระดับโลก ระดับภูมิภาค สภาพแวดล้อมภายในประเทศ ก้าวทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีขีดความสามารถการปฏิบัติการทางทหารและการปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือสงครามอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสามารถบูรณาการการปฏิบัติในภาพรวมของกองทัพไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสม เพื่อเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงที่พร้อมรับมือภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

@@@…….กองทัพอากาศ…พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) “ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการบินและอวกาศ” โดยมี นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทมหาชนจํากัด ไทยคม ร่วมลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการบินและอวกาศ” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีการบินและอวกาศ และพัฒนาเทคโนโลยีในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการทำภารกิจต่าง ๆ และการรักษาน่านฟ้าและห้วงอวกาศไทย ให้แก่กองทัพอากาศ ตลอดจนส่งเสริมและผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้เกิดการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน 

@@@……ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า กองทัพอากาศ มีแผนพัฒนาโครงการต่าง ๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์ Unbeatable Air Force โดยมุ่งเน้นให้กองทัพอากาศจัดหายุทโธปกรณ์จากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งเป็น New S-Curve ตัวที่ 12 ของประเทศ และเป็นอีกความหวังใหม่ในการยกระดับเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมทั้งยังเป็นการลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ ตลอดจนเป็นฐานการวิจัยและพัฒนายุทโธปกรณ์เพื่อการสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับประเทศชาติในระยะยาว ดังนั้น การร่วมมือกับไทยคมจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะมาช่วยเสริมทัพความแข็งแกร่งให้แก่กองทัพอากาศ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพและขยายขีดความสามารถด้านการบินและอวกาศ ตามยุทธศาสตร์กองทัพอากาศ 20 ปี ด้านการพัฒนาศักยภาพของประเทศให้พร้อมเผชิญกับภัยคุกคามต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ประเทศชาติเกิดการพึ่งพาตนเองได้อย่างวัฒนาถาวร” 

@@@…….นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยคม (มหาชน) จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่ ไทยคม เป็นผู้ให้บริการธุรกิจดาวเทียมชั้นนำของประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากกองทัพอากาศ ในการร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีด้านการบินและอวกาศ โดยไทยคมจะนำความเชี่ยวชาญในด้านดาวเทียมสื่อสารและเทคโนโลยีอวกาศ มาบูรณาการร่วมกันกับกองทัพอากาศ เพื่อศึกษา วิจัย และพัฒนาให้เกิดเป็นเทคโนโลยีการบินและอวกาศล้ำสมัย ตอบโจทย์การปฏิบัติภารกิจในด้านต่าง ๆ ของกองทัพอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวต่อไป

@@@…….ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมมือกันศึกษา วิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีการบินและอวกาศเพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถทั้งทางด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีการบินและอวกาศล้ำสมัย ภายใต้ข้อตกลง 3 มิติหลัก ได้แก่ 1.การวิจัยและพัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับที่จะปฏิบัติการควบคู่ไปกับเทคโนโลยีอวกาศเพื่อขยายศักยภาพด้านการบินให้ครอบคลุมอาณาบริเวณดูแลของกองทัพมากยิ่งขึ้น 2.การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมขนาดเล็กล้ำสมัยที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านปฏิบัติการทางการทหารของ ทอ. ด้วยการใช้ประโยชน์จากห้วงอวกาศ และ 3.การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านจรวดนำส่งดาวเทียมและปูทางไปสู่การพัฒนาท่าอวกาศยานทหารเพื่อความมั่นคงในอนาคต

 ………………………………….

 คอลัมน์ :  “Military Key”

 โดย… “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img