ฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่าความช่วยเหลือจากจีน และท่าทีที่อ่อนลงของรัฐบาลเมียนมา น่าจะส่งผลให้สถานการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมาลดความรุนแรงลง และการเลือกตั้งก็อาจจะเกิดขึ้นได้สำเร็จ
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 17 ส.ค.67 หลังจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงนั้น ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ “เห็นชอบ” ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เป็นที่เรียบร้อย
@@@…….มาดูเรื่องของประเทศเพื่อนบ้าน…เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ให้การต้อนรับ และพบหารือกับ นายหวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศของจีน ที่กรุงเนปิดอว์ ซึ่งนับเป็นการพบหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรกของทั้ง 2 คน นับตั้งแต่เมียนมาเกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 โดยมีแถลงการณ์ระบุเกี่ยวกับการหารือเพียงว่า พล.อ.มิน อ่อง หล่าย และหวัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ “สถานการณ์ด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศ” ซึ่งหมายถึง การสู้รบในรัฐฉานตอนเหนือ และตอนใต้ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา และมีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนนั้น สถานการณ์ไม่สู้ดี และข่อนข้างรุนแรง รวมทั้งเข้าเยี่ยมเยือนอดีตผู้นำ “ตาน ฉ่วย” ที่เปิดบ้านในเนปีดอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมยืนยัน จีนยังคงเชื่อมั่นรัฐบาลทหารเมียนมา ที่กำลังเผชิญแรงกดดันจากการแทรกแซงอย่างหนักจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้ง 2 คนหารือ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ “การจัดเตรียมการเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมา ที่ต้องยุติธรรม และเปิดกว้าง” แต่ยังไม่มีการระบุกรอบเวลาที่แน่ชัด
@@@…….ทั้งนี้ รัฐบาลทหารเมียนมา ได้เลื่อนกําหนดการเลือกตั้งมาหลายครั้ง และเมื่อปี 2566 ได้สั่งยุบพรรค สันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย NLD ของ นางออง ซาน ซูจี ซึ่งเป็นพรรคที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และล่าสุดเพิ่งประกาศขยายเวลาภาวะฉุกเฉินต่ออีก 6 เดือน พร้อมเลื่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ ที่สัญญาว่าจะจัดขึ้น ออกไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากยังมีภารกิจพัวพันในการต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านการรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม จีนเ ป็นทั้ง พันธมิตร และผู้สนับสนุนอาวุธให้กับคณะทหาร แต่บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า จีนยังคงรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่ม ชาติพันธุ์ติดอาวุธที่ต่อสู้กับกองทัพเมียนมา ในรัฐฉานตอนเหนือของเมียนมาไปพร้อมด้วย
@@@…….ก่อนหน้านี้ หลังมีข่าวลือสะพัดว่าทางการเมียนมาได้สอบปากคํา ดําเนินคดีผู้ต้องขังชาวไทยที่ถูกทางการเมียนมาเข้าจับกุมระหว่างปฏิบัติการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ – บ่อนพนันออนไลน์ ในท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่เมื่อเดือน ก.พ.2567 รวม 148 คน และอาจจะมีการปล่อยตัวกลับประเทศไทยในวันเดียวกันนี้ ทําให้ชาวไทย ประมาณกว่า 100 คน ทําเอกสารที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย – เมียนมา ข้ามแม่น้ําสายแห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อข้ามไปยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา อย่างไรก็ตาม คนไทยกลุ่มดังกล่าว ซึ่งล้วนเป็นญาติ ผู้ต้องขัง กลับได้รับคําตอบจากเจ้าหน้าที่เมียนมาว่า ยังไม่มีกําหนดจะปล่อยตัวผู้ต้องขังคนไทยทั้งหมด ขณะที่เจ้าหน้าที่เมียนมาระบุว่าปัจจุบัน ชาวไทยทั้ง 148 คนได้ถูกสอบปากคําในขั้นตอนของตํารวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจ สํานวนของศาลท่าขี้เหล็ก ซึ่งหลายคนถูกดําเนินคดีข้อหาเดียว เช่น หลบหนีเข้าเมือง และทํางานในบ่อนการพนัน ออนไลน์ ซึ่งจะมีโทษจําคุก 6 เดือน แต่ถ้าถูกลงโทษ 2 คดีจะถูกจําคุกอย่างน้อย 1 ปี โดยจะมีผลเมื่อศาล มีคําพิพากษาแล้ว ซึ่งฝ่ายความมั่นคง ยังคงติดตามในประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด
@@@…….อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การสู้รบเมียนมาตอนเหนือภายในพื้นที่เมืองล่าเสี้ยว รัฐฉาน ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา MNDAA ที่สามารถเข้ายึดครอง เมืองล่าเสี้ยวได้สําเร็จ เมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน MNDAA ได้มีการติดตั้งธงของสหภาพเขตปกครอง ตนเองที่ 1 ตามสถานที่สําคัญ อาทิ สนามบิน และสํานักงานกรมการปกครองทั่วเมืองล่าเสี้ยว เพื่อประกาศแสดงถึงการเข้าควบคุมเมืองล่าเสี้ยว และได้ผนวกเมืองล่าเสี้ยว เข้ามารวมอยู่ในเขตปกครองตนเอง MNDAA ได้ทั้งเมืองแล้ว ซึ่งสถานการร์การสู้รบปัจจุบัน ยังดำเนินต่อไป และทหารพม่า ได้สูญเสียพื้นที่ควบคุมไปในหลายพื้นที่
@@@……ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง มองว่า การที่นายหวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน เดินทางเยือนกรุงเนปีดอ ประเทศเมียนมา และพบปะหารือกับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ประธาน SAC / ผบ.ทสส. และรักษาการ ประธานาธิบดี เมียนมานั้น การพบกันของบุคคลทั้งสอง เป็นผลมาจากการที่เมียนมา ร้องขอให้กัมพูชาช่วยประสานกับจีน เพื่อให้จีน เป็นตัวกลางผลักดันให้เกิดการพูดคุยกัน เพื่อมุ่งเน้นไปที่เรื่องเสถียรภาพของพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะหวังให้การสู้รบในพื้นที่พรมแดนติดกับมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน คลี่คลายลง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วไปแบบหลายพรรคที่เสรี และยุติธรรมในเมียนมา ซึ่งเมียนมา ได้ตอบสนองความต้องการของจีนในการปราบปรามยาเสพติด และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ท่าขี้เหล็กตามที่จีนต้องการแล้ว คาดว่า นายหวัง อี้ รมว.การต่างประเทศจีน จะมาเยือนไทย เป็นประเทศต่อไปในเร็ววันนี้เพื่อหารือในเรื่องเดียวกันนี้ ซึ่งฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่า ด้วยความช่วยเหลือจากจีน และท่าทีที่อ่อนลงของรัฐบาลเมียนมา น่าจะส่งผลให้สถานการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมา อาจจะลดความรุนแรงลง และการเลือกตั้งก็อาจจะเกิดขึ้นได้สำเร็จในที่สุด รวมทั้งฝ่ายความมั่นคง ยังคงยืนยันท่าทีของไทยในกรอบการปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรม สนับสนุนกระบวนการปรองดอง เฝ้าติดตาม และกระชับความมั่นคงตามแนวชายแดน กับไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศเมียนมาต่อเนื่องต่อไป
@@@…….ที่กองบัญชาการกองทัพไทย…พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานใน พิธีมอบรางวัลการประกวดผลงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กองทัพไทย และการประกวดสื่อและกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ประจำปี 2567 ประเภทวาดภาพระบายสี หัวข้อ “72 พรรษา ทศมราชา เพื่ออาณาราษฎรเป็นสุข” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567 จัดโดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567
@@@…….การประกวดผลงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กองทัพไทย ประจำปี 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการทหาร ตำรวจ ครอบครัว และประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมในการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้แก่ประชาชนชาวไทยและส่งเสริมยกย่องและเชิดชูเกียรติข้าราชการทหาร ตำรวจ ครอบครัว และประชาชนทั่วไป ที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานและการดำเนินชีวิต จนประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม สามารถเผยแพร่ขยายผลเป็นต้นแบบไปสู่บุคคล ชุมชนในพื้นที่ได้ โดยแบ่งผลงานออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้ ประเภท ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของหน่วยทหารหรือตำรวจ ประเภท หน่วยงานต้นแบบที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ในการปฏิบัติงาน ประเภท ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง (ผลงานของชุมชนบริเวณบ้านพักในหน่วยทหารหรือตำรวจ) ประเภท ครอบครัวข้าราชการที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปดำเนินชีวิต ประเภท หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยเท้าพ่อ (หมู่บ้านนอกหน่วยทหารหรือตำรวจ) และ ประเภท ประชาชนทั่วไป (ทุกสาขาอาชีพ) ที่ได้รับการส่งเสริมจากหน่วยทหารหรือตำรวจ
@@@…….การจัดการประกวดวาดภาพระบายสีหัวข้อ “72 พรรษา ทศมราชา เพื่ออาณาราษฎรเป็นสุข” ภายใต้โครงการประกวดสื่อและกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานความช่วยเหลือและบรรเทาความทุกข์ยากของพสกนิกรชาวไทย และยังแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทยอีกด้วย แบ่งการประกวดออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประถมศึกษาตอนปลาย (ป.4-ป.6) มัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.3) และมัธยมศึกษา ตอนปลาย (ม.4-ม.6) อาชีวศึกษาหรือเทียบเท่า เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2567 และสิ้นสุดส่งผลงานเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 มีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดรวมทั้งสิ้น 742 ผลงาน
@@@…….กองทัพเรือ….พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค. 2567 โดยได้เข้าเยี่ยมคำนับพล.ร.ต. Sean Wat ผู้บัญชาการทหารเรือสิงคโปร์ และ พล.ร.ท. Aaron Beng ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสิงคโปร์ ณ อาคารกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ ก่อนเข้าเยี่ยมคำนับ ดอกเตอร์ อึ้ง เอ็ง เฮ็น รมว.กลาโหมสิงคโปร์ ได้มอบเครื่องอิสริยาภรณ์สิงคโปร์ เชิดชูเกียรติทางทหาร The Maritorious Service Middle (MSL) ที่ทาง ประธานาธิบดี Tharman Shanmugaratnam ของสิงคโปร์ได้มอบให้แก่ ผู้บัญชาการทหารเรือ สำหรับเครื่องอิสริยาภรณ์ชื่อชูเกียรติทางทหาร The Maritorious Service Middle หรือเรียกโดยย่อว่า MSL Military เป็นเครื่องอิสริยาภรณ์เชิดชูเกียรติทางทหารในส่วนของทหารต่างชาติ ซึ่งทางการสิงคโปร์จะมอบให้แก่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพของมิตรประเทศ ซึ่งการมอบให้แด่ผู้บัญชาการทางเรือในครั้งนี้ เพื่อยกย่องผลงานของในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านกลาโหมแบบทวิภาคีระหว่างกองทัพเรือและกองทัพเรือสาธารณรัฐสิงคโปร
@@@……ทั้งนี้ ประเทศไทยและสิงคโปร์ มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ดำรงความร่วมมือระหว่างกันมาอย่างยาวนานทั้งระดับชาติและระดับกองทัพ โดยกองทัพของทั้งสองชาติมีการติดต่อและแลกเปลี่ยนการเยี่ยมเยือนระหว่างกันอยู่เสมอ ในส่วนของกองทัพเรือ ได้มีการฝึกร่วมทางทะเล และการลาดตระเวนร่วมกันในการต่อต้านโจรสลัดในช่องแคบมะละกา โดยในปี 2567 กองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสิงคโปร์ได้มีการฝึกผสมร่วมกันอย่างต่อเนื่องอาทิการศึกผสม Singsiam 21/2024 ระหว่างวันที่ 8-15 ก.ค. 2561 ในพื้นที่ฐานทัพเรือสัตหีบและอ่าวไทยตอนบน การฝึกผสม Multilateral CARAT 24 ระหว่างวันที่ 15-25 ก.ค. 2567 รวมถึง การเสริมสร้างความร่วมมือด้านกลาโหมทวิภาคีผ่านการแลกเปลี่ยนเยี่ยมเยือนระหว่างกำลังพลทั้งสองฝ่ายในทุกระดับเป็นประจํา การเข้าร่วมหลักสูตรทางทหาร การแลกเปลี่ยนทางวิชาชีพ อันเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือและความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างกองทัพเรือทั้งสองประเทศ
…………..
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย.. “รหัสมอร์ส”