“….เครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ JAS 39 Gripen E/F มีขีดความสามารถที่ตอบสนองความต้องการทางยุทธการตามหลักนิยมและยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศ ทั้งยังมีอิสระในการใช้งาน และสามารถพัฒนาต่อยอดนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติการร่วมหลายมิติ…”
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.67 ได้มีพระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นที่เรียบร้อย สำหรับ ตำแหน่ง รมว.กลาโหม ไม่พลิกโผ เป็น นายภูมิธรรรม เวชยชัย นอกจากนั่งรองนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ด้วย โดยมี “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็น รมช.กลาโหม
@@@…….ปลายเดือนที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ได้เปิดเผย และยืนยันว่า กองทัพอากาศได้พิจาณาเลือกเครื่องบินชับไล่โจมตีแบบ JAS 39 Gripen E/F ให้เข้าบรรจุประจำการใหม่ในโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนระยะที่ 1 ในปีงบประมาณ 2588 – 2572 เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่ 19/ก หรือ F-16 A/B ณ ฝูงบิน 102 กองบิน 1 ซึ่งบรรจุประจำการ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 เป็นเวลามากกว่า 36 ปีแล้วนั้น รวมทั้งชี้ให้เห็นว่า ข้อเสนอของประเทศสวีเดน ให้อิสระในการใช้งาน Data link และ Offset Policy พร้อมตอบสนองความต้องการทางยุทธการ หลักนิยม และยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศมากสุด สามารถพัฒนาต่อยอด Multi – Domain Operations ทั้งนี้ กองทัพอากาศ ให้ความมั่นใจด้วยว่า กองทัพอากาศจะใช้ภาษีของประชาชน อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อความมั่นคงด้านป้องกันประเทศของชาติ
@@@…….โครงการจัดหาฯ ดังกล่าวเป็นโครงการที่กองทัพอากาศให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยได้กำหนดไว้ในสมุดปกขาวกองทัพอากาศ พ.ศ. 2567 หรือ RTAF Whitepaper 2024 เนื่องจากเป็นโครงการที่ต้องใช้งบประมาณสูงจากภาษีของพี่น้องประชาชน ดังนั้นคณะกรรมการพิจารณาเลือกแบบ และกำหนดวิธีการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนของกองทัพอากาศ อย่างรอบคอบระมัดระวัง และตระหนักดีว่า การพิจารณาดำเนินโครงการดังกล่าว จะต้องดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีในการปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศไปอีกอย่างน้อย 30 ปี .. สรุปได้ว่า เครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ JAS 39 Gripen E/F มีขีดความสามารถที่ตอบสนองความต้องการทางยุทธการตามหลักนิยมและยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศ ทั้งยังมีอิสระในการใช้งาน และสามารถพัฒนาต่อยอดนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติการร่วมหลายมิติ Multi-Domain Operations ระหว่างกองทัพอากาศ ร่วมกับกองทัพอากาศมิตรประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และหน่วยงานความมั่นคงต่าง ๆ ภายใต้แนวความคิดการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต
@@@…….ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง มั่นใจว่า ข้อไขการพิจารณาบรรจุประจำการเครื่องบินชับไล่โจมตีแบบ JAS 39 Gripen E/F ทดแทนอากาศยานรบที่เก่าล้าสมัยใกล้สิ้นสภาพจำนวนมาก ด้วยเครื่องบินชับไล่โจมตีสมรรถนะสูงเหนือชั้นจำนวนน้อยครั้งนี้นั้น สอดคล้องกับกรอบงบประมาณที่กองทัพอากาศได้รับการจัดสรร ตลอดจนมีข้อเสนอตามนโยบายชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ทั้งทางตรงในการสร้างโอกาสการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศนำไปสู่การพึ่งพาตนเอง เพื่อยกระดับมาตรฐานเข้าสู่ในระดับสากล และการชดเชยทางอ้อมในการให้ทุนการศึกษาแก่บุคลากรในต่างประเทศทั้งภายในกองทัพอากาศ และประชาชนทั่วไปให้มีความรู้และทักษะความชำนาญขั้นสูง รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีในด้านสิ่งแวดล้อมและด้านเกษตรกรรม ตลอดจนการสร้างศูนย์นวัตกรรมที่นำไปสู่การเสริมสร้างผลผลิตในการสร้างรายได้ และรวมถึงการดำเนินการตาม Offset Policy ที่สวีเดนจะเข้ามาลงทุนร่วมกับเอกชนของไทยในประเทศ เช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Green Technologies เป็นต้นนั้น จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศไทย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ในระยะยาวให้สำเร็จได้ในที่สุดต่อไป
@@@……พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ เดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียน ครั้งที่ 21 (The 21st ASEAN Chiefs of Defence Forces Meeting : ACDFM-21) ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 4-6 ก.ย. 2567 โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้แทนจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วม รวมทั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุดสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ด้วย โดยการประชุมฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีการหารือของผู้นำทางทหารของอาเซียน เกี่ยวกับประเด็นการรักษาความมั่นคง เสถียรภาพ และความร่วมมือในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในภูมิภาค โดยแต่ละประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพตามวงรอบการเป็นประธานอาเซียนในแต่ละปี
@@@…….ทั้งนี้ ในปี พ.ศ.2567 สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นเจ้าภาพ จัดภายใต้หัวข้อการประชุม “ ASEAN : Together for Peace, Security and Resilience” โดยในที่ประชุมฯ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารในการรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค เพื่อรองรับต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน และเตรียมความพร้อมเพื่อเผชิญกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ อาทิ ความท้าทายด้านเทคโนโลยีอุบัติใหม่ การเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศ ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และความมั่นคงทางทะเล โดยในการนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เน้นย้ำถึงจุดยืนของประเทศไทยในการประสานประโยชน์ ส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และให้ความร่วมมือในทุกมิติกับกลุ่มประเทศอาเซียน
@@@……กองทัพบก….พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก / ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา ได้เดินทางไปยังหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัตนรังสรรค์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง และ หน่วยเฉพาะกิจสงขลา 40 อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังเทพสตรี เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทหารและชุดคุ้มครองตำบลเปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยมี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้การต้อนรับ สำหรับภารกิจของหน่วยเฉพาะกิจสงขลา 40 นั้นมีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ จังหวัดสงขลา 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.จะนะ ,อ.นาทวี, อ.เทพา และ อ.สะบ้าย้อย เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถดำเนินชีวิตในพื้นที่ได้ตามปกติ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้อย่างมั่นคง ในส่วนของชุดคุ้มครองตำบลเปียน ทำหน้าที่สนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ โดยมุ่งรักษาความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ และร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ เนื่องจากตำบลเปียน อ.สะบ้าย้อย ยังคงมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่เหมาะแก่การมาเที่ยวชมอีกด้วย
@@@……ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้รับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ จากนั้นได้สอบถามปัญหา ความเป็นอยู่ ทั้งการป้องกันตนเอง การป้องกันฐานปฏิบัติการ และการช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งหารือแนวทางการปฏิบัติงานของกำลังพล ตลอดจนหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา จากนั้นได้มอบเครื่องอุปโภค บริโภค และกล่าวขอบคุณกำลังพล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนในความมุ่งมั่นตั้งใจ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนและเสียสละเพื่อส่วนรวม ขอให้ดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและความสงบสุขของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ
@@@……กองทัพเรือ…พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ประธานกรรมการอำนวยการโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เป็นประธานประกอบพิธีนำเรือ ต.94 และเรือ ต.95 ไปจัดวางเป็นอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล บริเวณทิศตะวันออกของเกาะจวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย คณะกรรมการอำนวยการโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้แทนหน่วยงานสนองพระดำริ ตลอดจนกำลังพลกองทัพเรือ หน่วยงานสนองพระดำริ ประชาชน นักเรียนจากโรงเรียนในพื้นที่กว่า 300 คน ร่วมในพิธีดังกล่าว
@@@……กองทัพเรือได้ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จึงได้จัดทำโครงการนำเรือ ต.94 และเรือ ต.95 ไปจัดวางเป็นอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล ณ บริเวณทิศตะวันออกของเกาะจวง ภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อสนองพระดำริที่ทรงมีเจตนารมณ์ที่จะอนุรักษ์แนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย โดยทรงห่วงใยปัญหาเรื่องความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล การทำร้ายสัตว์ทะเลด้วยน้ำมือมนุษย์โดยตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นแหล่งฝึกศึกษาให้กับนักเรียนฝึกดำน้ำ เป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลแห่งใหม่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นการลดผลกระทบจากการท่องเที่ยวดำน้ำในแนวปะการังตามธรรมชาติ และเปิดโอกาสในการพักฟื้นตัวของแหล่งท่องเที่ยวแนวปะการังธรรมชาติให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีต่อไป
@@@…..เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.94 และ ต.95 เป็นเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.91 ซึ่งประกอบด้วยเรือ ต.91, เรือ ต.92, เรือ ต.93, เรือ ต.94, เรือ ต.95, เรือ ต.96, เรือ ต.97, เรือ ต.98 และเรือ ต.99 รวมทั้งสิ้น 9 ลำ สร้างโดยกรมอู่ทหารเรือ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 – 2530 นับเป็นเรือตรวจการณ์สมัยใหม่ชุดแรก ที่กองทัพเรือไทยสร้างเองในประเทศ ตามพระราชดำริ และพระบรมราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่กองทัพเรือไทยเป็นล้นพ้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงมีพระราชดำริว่า กองทัพเรือเราควรต่อเรือประเภทนี้ไว้ใช้เองบ้าง
@@@…..ทั้งนี้ ด้วยเรือยนต์รักษาฝั่งมีบทบาทสำคัญ เช่น ในการปราบปราม และป้องกันการลักลอบลำเลียงอาวุธ และกำลังคนของฝ่ายก่อการร้ายเข้ามาในน่านน้ำอาณาเขตของประเทศเรา ในระหว่างการต่อเรือ ต.91 กองทัพเรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์โดยทรงให้สถาบันวิจัยและทดสอบ แบบเรือของต่างประเทศช่วยทดสอบแบบเรือลำนี้ทางเทคนิคต่าง ๆ ให้ และได้พระราชทานคำแนะนำจนถึงทรงร่วมทดลองเรือในทะเลด้วยพระองค์เองกองทัพเรือยังคงสานต่อพระราชปณิธานอย่างต่อเนื่องสืบมา ในการปรับปรุงแบบเรือและสร้างเพิ่มเติม เช่น เรือ ต.92, ต.93, ต.94, ต.95, ต.96, ต.97, ต.98,ต.99, ต.991, ต.994 ซึ่งทำให้กองทัพเรือสามารถสร้างเรือรบเองได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างรั้วทางทะเลให้เข้มแข็งทั้งยังทำให้องค์บุคคลของกองทัพเรือได้มีการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และก้าวไปสู่การต่อเรือขนาดใหญ่ต่อไป
……………
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย….. “รหัสมอร์ส”