“….ฝ่ายความมั่นคง ติดตามสถานการณ์ในยุโรป และตะวันออกกลาง คาดว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปลายปีนี้ จะส่งผลสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค และระดับโลก หมายถึง การดำเนินนโยบายต่างประเทศในเวทีการเมืองระหว่างประเทศของไทยจะต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวังรอบด้าน …”
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 21 ก.ย.67 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซีย ได้มีการอนุมัติ และสั่งการให้ขยายอัตราบรรจุกำลังพลทหารประจำการ Active-Duty Personnel เพิ่มอีก 180,000 คน เป็นกำลังประจำการพร้อมรบ Combat Ready Active Personnel Force ทั้งสิ้น 1.5 ล้านคน และเมื่อผนวกทหารกองหนุน มากกว่า 2 ล้านคนด้วยแล้ว รวมเป็นกำลังพลที่อาจมีจำนวนมากถึงประมาณ 2.38 ล้านคน ซึ่งจะทำให้กองทัพรัสเซียเป็นกองทัพที่ใหญ่ เป็นอันดับสองของโลก รองจากจีน
@@@…….โดยคำสั่งนี้เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้สั่งเพิ่มกำลังพล รวม 2.38 ล้านคน ทั้งนี้ยังไม่นับรวมการเรียกระดมสรรพกำลังกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนด้วยซ้ำไป ซึ่งแต่เดิมอยู่ในแผนพัฒนากองทัพในปี 2569 โดยการขยายกำลังพลครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองต่อความท้าทายทางการทหารที่รัสเซียกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะในการสู้รบกับยูเครน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือน ก.พ.2565 แม้ว่ารัสเซียจะมีประชากรมากกว่ายูเครนถึง 3 เท่า และสามารถสรรหาทหารเพิ่มได้ แต่กองทัพรัสเซียก็ประสบกับความสูญเสียหลายครั้งในการสู้รบ รวมถึงไม่มีสัญญาณว่าสงครามจะสิ้นสุดลงในเร็ววันนี้
@@@…….โดยทั่วไป ในภาพรวมนั้น กองทัพรัสเซียมีคลังอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีเรือดำน้ำขีปนาวุธพิสัยไกลมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นหนึ่งในกองทัพแห่งชาติเพียง 3 แห่ง นอกเหนือจากกองทัพสหรัฐฯ และจีน ที่มีเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ .. กฎหมายของรัสเซียกำหนดให้พลเมืองชายทุกคนที่มีอายุระหว่าง 18 – 27 ปี ต้องเข้ารับราชการทหาร 1 ปี โดยมีข้อยกเว้นบางประการ ในปี 2566 .. รัสเซียมีค่าใช้จ่ายทางทหารสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยอยู่ที่ประมาณ 86,400-109,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 6% GDP
@@@…….จากกรณีที่ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ปธน.รัสเซีย สั่งเพิ่มกำลังพลทหารประจำการ Active-Duty Personnel ในครั้งนี้นั้น ฝ่ายความมั่นคง มองว่า นี่คือสัญญาณสำคัญทางยุทธศาสตร์ของรัสเซียในการกระชับความเป็นมหาอำนาจ 1 ใน 3 ของโลก ซึ่งคาดว่า มีเป้าหมายเพื่อรองรับสถานการณ์ความขัดแย้ง และการแข่งขันด้านอำนาจในภูมิภาค และระดับโลก .. นอกจากนี้ รัสเซียอาจมองว่าการเสริมสร้างกองทัพจะช่วยเพิ่มศักยภาพการต่อสู้ในกรณีที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามทั้งในประเทศ และนอกประเทศ โดยเฉพาะในบริบทของสถานการณ์การสู้รบกับยูเครน และความขัดแย้งกับชาติตะวันตก ซึ่งขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้ง ยังเป็นการแสดงอำนาจ และอิทธิพลในภาคพื้นยุโรป ตะวันออกกลางที่ยังมีความขัดแย้งในประเด็นอื่นๆ โดยการเพิ่มกำลังดังกล่าวนั้น ส่งผลให้รัสเซียกลายเป็นหนึ่งในประเทศ ที่มีจำนวนทหารประจำการมากที่สุดในโลก รองจากจีน และแซงหน้าสหรัฐฯ กับ อินเดีย
@@@…….อย่างไรก็ตาม การที่รัสเซียเพิ่มกำลังพลประจำการพร้อมรบ Combat Ready Active-Duty Personnel อาจแสดงถึงศักยภาพในการรักษาสถานะเป็นหนึ่งในมหาอำนาจทางทหารของโลก แต่เมื่อพิจารณาคุณภาพของกำลังพล และเทคโนโลยีทางการทหารที่รัสเซียมี เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น เช่น สหรัฐฯ แม้ว่าจะมีจำนวนทหารที่น้อยกว่า แต่กลับมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากกว่า ทั้งนี้ ข้อพิจารณาประการหนึ่ง ได้แก่ การเพิ่มจำนวนทหาร อาจจะส่งผลดี ต่อการสร้างเสถียรภาพ และความมั่นคงก็ตาม แต่แนวโน้มก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากการจัดหาทรัพยากรที่ใช้ในการฝึก และบำรุงรักษากองทัพที่ใหญ่ขึ้น อาจก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณของประเทศ นอกจากนี้การเรียกระดมทหารอาจสร้างความไม่พอใจในบางภาคส่วนของสังคม โดยเฉพาะหากเป็นการเกณฑ์ จะทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจขึ้นได้เช่นกัน .
@@@…….ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงยังคงจะได้ติดตามสถานการณ์ในยุโรป และตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิดต่อไป และคาดว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปลายปีนี้ จะส่งผลสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค และระดับโลกมาพร้อมด้วยเช่นกัน หมายถึงการดำเนินนโยบายต่างประเทศในเวทีการเมืองระหว่างประเทศของไทยนั้น จะต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวังรอบด้าน ทั้งนี้ เพื่อให้ความมั่นคงของไทย ได้รับการประกันให้สำเร็จได้อย่างมั่นใจจากนี้ไป
@@@……ที่ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ และโรงพยาบาลทหารผ่านศึก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะนายกสภาทหารผ่านศึก ได้มาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อมอบนโยบายการดำเนินงานให้แก่องค์การฯ และรับทราบผลการดำเนินงาน ตลอดจนรับฟังปัญหาข้อขัดข้องในการดำเนินงานขององค์การฯ โดยมี พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และคณะผู้บริหารระดับสูงขององค์การฯ ให้การต้อนรับ โดยนายภูมิธรรม ยังได้ตรวจเยี่ยมจุดบริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) และพบปะพูดคุยกับทหารผ่านศึกที่มารับการสงเคราะห์จากองค์การฯ ณ จุดบริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ตึกเฉลิมพระเกียรติ องค์การฯ และได้ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานและปัญหาข้อขัดข้องในการดำเนินงานของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมการสาธิตการทำภาพศิลปประดิษฐ์ไทย-โอชิเอะ และการแกะสลักไม้วิจิตรศิลป์จากฝีมือทหารผ่านศึก พร้อมทั้งเยี่ยมเยียนและมอบเงินบำรุงขวัญให้แก่ทหารผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก
@@@……กองทัพบก….พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีปิดหลักสูตรการบริหารความมั่นคงการทัพบก ชุดที่ 1 พร้อมทั้งมอบโล่รางวัลให้กับนักศึกษาที่มีผลการศึกษาดีเยี่ยมในด้านต่างๆ โดยมี พล.ท.ณรงค์ สวนแก้ว เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และ พล.ต.เจษฎ์ จันทรสนาม ผู้บัญชาการโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ให้การต้อนรับ ณ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก โดยผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมนักศึกษาทุกท่าน ที่ได้มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน ตลอดระยะเวลา 33 สัปดาห์ ที่เข้ารับการฝึกอบรม จนสำเร็จหลักสูตร และมีผลการศึกษาโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดี หวังว่านักศึกษาทุกท่าน ทั้งที่มาจากภาคเอกชน และ กอ.รมน. จะได้เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ ตลอดห้วงของการฝึกอบรม ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เข้ามาเป็นพลังที่สำคัญร่วมกับกองทัพบก ในการพัฒนาประเทศชาติ และการช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความยั่งยืน ในโอกาสนี้ตัวแทนนักศึกษาหลักสูตรการบริหารความมั่นคงการทัพบก ได้มอบโล่ที่ระลึกเพื่อเป็นการแสดงมุทิตาจิตต่อผู้บัญชาการทหารบกอีกด้วย
@@@……กองทัพเรือ….พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อติดตามสถานการณ์และวางแผนในการป้องกันอุทกภัย ในพื้นที่ ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขง เริ่มสูงเข้าขั้นวิกฤต โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการเตรียมการป้องกันอุทกภัยที่กำลังจะเกิด เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากน้ำล้นตลิ่ง และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ซึ่งจะส่งผลให้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานชุดปฏิบัติการหน่วยบรรเทาสาธารณภัย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำแม่น้ำโขง ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
@@@……ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ ได้ร่วมแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับผู้แทนชุมชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน เยี่ยมประชาชนและมอบสิ่งของจำเป็นให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง (ผู้ป่วย) จำนวน 2 ราย พร้อมทั้งพบปะประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ ทั้งนี้ กองทัพเรือ ยังคงเตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่จะให้การสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยเฉพาะกิจช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย กองทัพเรือ พื้นที่หนองคาย โทร.042451075 พื้นที่นครพนม โทร. 042 541205 และพื้นที่อุบลราชธานี โทร. 045 251578 หรือผ่านสายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง
@@@……จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องกว่า 1 เดือน ปัจจุบันสถานการณ์ระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดระดับลงใกล้สู่ภาวะปกติ แต่ยังคงเหลือความเสียหายที่รอการฟื้นฟูในหลายพื้นที่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้สั่งการให้ฝูงบิน 416 เชียงราย จัดโครงการ “416 Back to School ทัพฟ้าพาน้องเข้าเรียน” เพื่อเร่งฟื้นฟูสถานศึกษา ให้กลับมาเปิดการเรียนการสอนโดยเร็วที่สุด โดยฝูงบิน 416 เชียงราย ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ เทศบาลนครเชียงราย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 กองบัญชาการกองทัพไทย นายอำเภอเวียงเชียงรุ้งและคณะ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักงานเจ้าท่าเชียงราย ท่ากาศยานแม่ฟ้าหลวง มูลนิธิสยามรวมใจ พี่น้องชุมนุมนายเรืออากาศ และบริษัทเอกชนอีกหลายหน่วยงาน รวมกว่า 100 คน เร่งฟื้นฟูและทำความสะอาดโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้กลับมาเปิดเรียนได้ภายในวันที่ 23 ก.ย. 2567
…………………………………………..
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย.. “รหัสมอร์ส”
