“…..สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีการโจมตีด้วยการใช้อุปกรณ์สื่อสารที่น่าตื่นตะลึงเป็นอาวุธฯเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของเลบานอนระบุว่าเครื่องเพจเจอร์สื่อสารของสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องในเลบานอนและซีเรียทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คนและบาดเจ็บกว่า 2,750 คน…”
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 28 ก.ย.67 สถานการณ์ในตะวันออกกลาง เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา มีการโจมตีด้วยการใช้อุปกรณ์สื่อสารที่น่าตื่นตะลึงเป็นอาวุธฯ ซึ่งเชื่อกันว่า หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องมือสื่อสารระเบิด เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2567 โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของเลบานอน ระบุว่า เครื่องเพจเจอร์สื่อสารของสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องในเลบานอน และซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บกว่า 2,750 คน คาดว่า หน่วยข่าวกรองของอิสราเอล Mossad อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว
@@@…….แต่ในความเป็นจริงแล้ว หน่วยงานที่ปฏิบัติตัวจริงเสียงจริงนั้น น่าจะเป็นฝีมือของหน่วยข่าวกรองทางสัญญาณ Signals Intelligence: SigInt หนึ่งในประชาคมข่าวกรองของกองทัพอิสราเอล Unit 8200 ซึ่งสามารถเข้าถึงเครื่องเพจเจอร์ในขั้นตอนการผลิต และ/หรือ การขนส่ง ด้วยการฝังวัตถุระเบิดขนาดเล็กในอุปกรณ์ที่สามารถจุดชนวนด้วยการเข้ารหัสและทำให้ระเบิดทำงานพร้อมกัน ขณะที่บริษัท Gold Apollo ของไต้หวัน ปฏิเสธการผลิตเครื่องเพจเจอร์โดยอ้างว่า บริษัทแห่งหนึ่งในยุโรปเป็นผู้ผลิต และออกแบบอุปกรณ์โดยขออนุญาตใช้เครื่องหมายการค้าของบริษัท โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ได้สั่งซื้อเครื่องเพจเจอร์ AR-924 มากกว่า 5,000 เครื่อง จากบริษัท Gold Apollo และจัดสรรให้สมาชิกในกลุ่มใช้รับ-ส่งข้อความแบบไร้สาย ตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมา เพื่อป้องกันการดักฟัง และหลีกเลี่ยงการติดตามตำแหน่งในโทรศัพท์มือถือจากหน่วยข่าวกรองอิสราเอล
@@@…….ทั้งนี้ อุปกรณ์สื่อสารระเบิดระลอกที่ 2 เมื่อวันที่ 18 ก.ย.67 เกิดเหตุอุปกรณ์สื่อสารแบบไร้สายระเบิดขึ้นอีกในหลายพื้นที่ทั่วเลบานอน รวมถึงในฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทางตอนใต้ และทางตะวันออกของกรุงเบรุต ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และบาดเจ็บกว่า 450 คน มีสาเหตุจากวิทยุสื่อสารของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งคาดว่าเป็นวอล์คกี้ทอล์คกี้รุ่น IC-V82 ผลิตโดยบริษัท ICOM ของญี่ปุ่น รวมทั้งมีรายงานเหตุระเบิดจากอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และแบตเตอรี่รถยนต์ในหลายพื้นที่มาพร้อมด้วยเช่นกัน
@@@…….อย่างไรก็ตาม Unit 8200 คือ หน่วยข่าวกรองทางทหารของกองทัพอิสราเอล Israel Defense Forces : IDFs ซึ่งรับผิดชอบการปฏิบัติการลับ การรวบรวมข่าวกรองทางสัญญาณ Signals Intelligence : SigInt และการถอดรหัส Code Decryption, การต่อต้านข่าวกรอง Counterintelligence, สงครามไซเบอร์ Cyberwarfare, ข่าวกรองทางทหาร Military Intelligence และการติดตามเฝ้าระวัง surveillance .. สิ่งพิมพ์ทางทหาร มีการอ้างอิงถึง Unit 8200 ในฐานะหน่วยรวบรวมข่าวกรองกลางของหน่วยข่าวกรอง และบางครั้งเรียกว่า หน่วยงานข่าวกรองสัญญาณแห่งชาติ Israeli SIGINT National Unit ISNU
@@@……ซึ่งหน่วยงานนี้ขึ้นตรงต่อหน่วยข่าวกรองทางทหารของกองทัพ ประกอบไปด้วยคนในช่วงวัย 18-21 ปี เป็นหลัก เนื่องจากทหารในหน่วยมีความเยาว์วัย และมีระยะเวลาการรับราชการสั้น หน่วยจึงต้องอาศัยการคัดเลือกทหารใหม่ที่มีความสามารถในการปรับตัว และเรียนรู้ได้รวดเร็ว โดยใช้โปรแกรมหลังเลิกเรียนสำหรับเยาวชนอายุ 16-18 ปี ซึ่งสอนทักษะการเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ และการแฮ็ก ยังทำหน้าที่เป็นโปรแกรมป้อนให้กับหน่วยอีกด้วย อดีตทหารจาก Unit 8200 ได้ก่อตั้ง และครองตำแหน่งสูงสุดบริษัท Corsight AI รวมทั้งในบริษัทไอทีระดับนานาชาติอีกหลายแห่ง และในซิลิคอนวัลเลย์หลังจากเสร็จสิ้นการรับราชการทหารไปพร้อมด้วยนั่นเอง ทำให้ Unit 8200 ถือเป็นหนึ่งในหน่วยข่าวกรองเฉพาะทางที่มีศักยภาพสูงในประชาคมข่าวกรองอิสราเอล
@@@…….จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ฝ่ายความมั่นคง คาดว่า จะมีข้อวิพากษ์เกี่ยวกับความเหมาะสมในการใช้อุปกรณ์สื่อสารสาธารณะมาเป็นระบบอาวุธฯ ในความขัดแย้ง หรือสงคราม ซึ่งอาจทำให้พลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นวงกว้าง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางเทคโนโลยีทางทหารของอิสราเอล เนื่องจากรูปแบบการโจมตีลักษณะนี้ ไม่เคยได้เกิดขึ้นมาก่อน รวมทั้งถือเป็นปฏิบัติการแก้ตัว หลังจาก Unit 8200 ถูกตำหนิอย่างรุนแรงมาก่อนหน้านี้กรณีการประเมินขีดความสามารถข้าศึกต่ำไป ทำให้การแจ้งเตือนว่า นักรบฮามาส กำลังเดินแผนบุกข้ามพรมแดนเข้าโจมตีอิสราเอลในพื้นที่เกษตรกรรมทางตอนใต้ของอิสราเอลนั้น มีน้ำหนักน้อย จนทำให้อิสราเอลได้รับความเสียหายหนัก เมื่อเดือน ต.ค.66 จนทำให้การสู้รบ และความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ขยายตัวขึ้น และยังไม่มีแนวโน้มจะสิ้นสุดได้ในเร็ววัน ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงร่วมกับหน่วยเกี่ยวข้อง จะได้ติดตามสถานการณ์การสู้รบในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด และอย่างระมัดระวังต่อเนื่องต่อไป
@@@…….ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาและกำลังพลในกองบัญชาการกองทัพบกร่วมกิจกรรมเนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 28 กันยายน ของทุกปีเป็นวันครบรอบในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย การกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของธงชาติไทยในแต่ละยุคสมัย พร้อมทั้งร่วมกันเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย โดยหลังจากที่ผู้บัญชาการทหารบกได้ร่วมเคารพธงชาติแล้ว ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลที่ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อกองทัพบกร่วมกันมาตลอดระยะเวลา 1 ปี ด้วยความมีเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นทหาร ขอให้กำลังพลดำรงตนรักษาความดีปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยยึดมั่นอุดมการณ์ของกองทัพบกเป็นสำคัญ
@@@…….นอกจากที่กองบัญชาการกองทัพบกแล้ว หน่วยขึ้นตรงกองทัพบกทุกหน่วยได้ร่วมใจกันจัดกิจกรรมเนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทยแสดงสัญลักษณ์เพื่อรำลึกถึงความสำคัญของธงชาติไทยอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ โดยการประดับธงชาติไทยตามอาคารสถานที่ จัดกิจกรรมเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย เพื่อเตือนใจให้อนุชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงการเสียสละเลือดเนื้อของบรรพบุรุษเพื่อรักษาไว้ซึ่งแผ่นดิน ร้อยเรียงดวงใจคนทั้งชาติให้เป็นหนึ่ง หล่อหลอมความรักความสามัคคีก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ในการพัฒนาประเทศและธำรงไว้ซึ่งความเป็นปึกแผ่นของชาติไทยให้ยั่งยืนตลอดไป
@@@…….กองทัพเรือ…พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดอนุสรณ์ “เรือของพ่อ เรือ ต.99” เพื่อน้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ บริเวณประตูทางเข้ากองเรือยุทธการ ถนนสุขุมวิท อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สำหรับเรือ ต.99 เป็นเรือที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการพระราชทานพระราชดำริ และพระบรมราชวินิจฉัยเกี่ยวกับการต่อเรือ ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักการพึ่งพาตนเอง โดยเมื่อครั้งเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการต่อเรือยนต์รักษาฝั่ง ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในปี พ.ศ.2503 จึงทำให้กองทัพเรือ โดยกรมอู่ทหารเรือ รับสนองพระราชดำริ โดยการต่อเรือในชุดเรือ ต.91 (เรือ ต.91-เรือ ต.99) ในระหว่างการดำเนินการนั้น โดยพระองค์ทรงพระราชทานคำแนะนำ ตลอดจนแก้ปัญหาต่าง ๆ อันเกิดจากกระบวนการต่อเรือ รวมถึงทรงเป็นธุระติดต่อกับสถาบันวิจัย และทดลองแบบเรือแห่งชาติของประเทศอังกฤษ ให้ทำการทดสอบแบบของเรือ ต.91 แม้แต่การทดสอบเรือในทะเล พระองค์ทรงเสด็จไปร่วมทดสอบด้วยพระองค์เอง ทั้งยังทรงตรวจแก้ข้อผิดพลาดต่าง ๆ จนทำให้การต่อเรือสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
@@@…….ในส่วนของเรือ ต.99 นั้นเป็นเรือที่ประจำการอยู่ในสังกัดกองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ ปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนรักษาอธิปไตยของชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เป็นระยะเวลายาวนานถึง 34 ปี และได้ปลดระวางเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 เพื่อเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีคุณูปการต่อกองทัพเรือเป็นอเนกอนันต์ กองทัพเรือจึงได้พิจารณานำ เรือ ต.99 ซึ่งถือเป็น 1 ใน 9 เรือรบหลวงที่ต่อขึ้นใช้เองในช่วงปี 2511-2530 มาตั้งทดแทนประตูทางเข้ากองเรือยุทธการเดิม เพื่อเป็นสถานที่อนุรักษ์ และเชิดชูชุดเรือหลวงของพ่อที่ทรงมีดำริให้กองทัพเรือต่อเรือใช้เอง สนองโครงการเศรษฐกิจพอเพียงต่อไป
@@@……หลังเข้ารับตำแหน่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 1093/2567 เรื่องแต่งตั้งโฆษกกระทรวงกลาโหม และคณะทำงานโฆษกกระทรวงกลาโหม โดยในคำสั่งระบุว่า เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ การเผยแพร่ภารกิจและการปฏิบัติหน้าที่ราชการของกระทรวงกลาโหม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ ในการสร้างความเข้าใจต่อสังคมและสาธารณชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 เรื่องแต่งตั้งโฆษกกระทรวงกลาโหม และคณะทำงานโฆษกกระทรวงกลาโหม ดังนี้ 1.พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง เป็นโฆษกกระทรวงกลาโหม 2.พล.ต.แรงภูมิ เหมะทัพพะ เป็นหัวหน้าสำนักงานโฆษกกระทรวงกลาโหม 3.พ.อ.อาภากร เผือกสุวรรณ เป็นรองหัวหน้าสำนักงานโฆษกกระทรวงกลาโหม 4.พ.อ.หญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ เป็นรองโฆษกกระทรวงกลาโหม
@@@……5.พ.อ.หญิง นุชระวี แจ่มจำรัส เป็นรองโฆษกกระทรวงกลาโหม 6.ร.อ.หญิง ณัฐจิตรา เทพานวล เป็นผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม 7.ร.อ.หญิง ภัทรวดี บุณยะวุฒิกุล เป็นผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม 8.ร.อ.หญิง ณฐมน กุญชร เป็นผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม 9.ร.ท.สหรัฐ เดชานุบาล เป็นผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม 10.พ.ท.หญิง พิมพ์พันธุ์ พานิชอัตรา เป็นคณะทำงานโฆษกกระทรวงกลาโหม 11.ร.อ.ประวีณ ศรีบริกิจ เป็นคณะทำงานโฆษกกระทรวงกลาโหม 12.ร.ท.สุขเกษม พลเชียงสา เป็นคณะทำงานโฆษกกระทรวงกลาโหม 13.ร.ท.หญิง ณัฐสินี จิตรกรปัญญา เป็นคณะทำงานโฆษกกระทรวงกลาโหม 14.ส.อ.ภัคนิพัทธ์ สุดงาม เป็นคณะทำงานโฆษกกระทรวงกลาโหม 15.ส.อ.หญิง รัชนีกร ป้วนป้อม เป็นคณะทำงานโฆษกกระทรวงกลาโหม โดยทำหน้าที่ดำเนินงานการประชาสัมพันธ์ของรมว.กลาโหม เพื่อมุ่งเน้นสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคง โดยรวดเร็วทั่วถึงและเกิดประสิทธิภาพแก่ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมกับภาครัฐ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่
……………..
คอลัมน์ : Military Key
โดย.. “รหัสมอร์ส”