“…ฝ่ายความมั่นคง มองว่า เหตุยิง M79 ถล่มแคมป์คนงาน อ.เทพา จ.สงขลา ชนวนเหตุโดยรวมที่ตั้งไว้ ได้แก่ ประเด็นความมั่นคง การสาธิตการแสดงกำลัง การสร้างความหวาดกลัว และผูกโยงกับความขัดแย้งในพื้นที่ เนื่องเพราะมีใบปลิวข่มขู่มาพร้อมด้วย…”
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 23 พ.ย.67 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในแคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิมใน อ.เทพา จ.สงขลา มีคนงานได้รับบาดเจ็บ 3 คน มีเด็กหญิง 9 ขวบ บาดเจ็บบริเวณศีรษะ และคอรวมอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบใบปลิวข่มขู่คนงาน โดยในเบื้องต้น หลังจากที่ตำรวจ สภ.เทพา ชุดความมั่นคงตำบลเกาะสะบ้า และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ นอกจากจะพบชิ้นส่วนลูกระเบิดกระจายอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว ยังพบกระดาษใบปลิวเขียนข้อความข่มขู่เป็นภาษาไทยและภาษาพม่าว่า “ถ้าใครที่ทำงานในโครงการนี้ที่นี่และในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เราขอเตือนจงหยุด ไม่งั้นเราจะไม่รับรองชีวิตของท่าน” มาพร้อมด้วย จากการตรวจสอบ และข้อมูลของคนงานที่อยู่ในแคมป์ แจ้งว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดจำนวน 2 ลูกดังขึ้น และมีรายงานว่าจากเสียงระเบิดนั้น อาจเป็นการยิงด้วย M 79 หรือไม่ก็เป็น ค.120 ซึ่งถือเป็นเหตุก่อความไม่สงบที่ร้ายแรง ตามมาด้วยการวางระเบิดอีก 2 ครั้ง ในเวลาต่อมา
@@@…….ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมดังกล่าว เป็นโครงการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยเป็นโครงการของบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่จะเข้ามาดำเนินการโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ ที่จะมีการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 และนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่ก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิมดังกล่าว โดยโครงการเมืองต้นแบบนี้ ถูกต่อต้านจากคนในพื้นที่บางส่วน และอยู่ในขั้นตอนการทำ SEA รวมทั้งก่อนหน้าที่มีการเสนอโครงการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิมนี้ ได้มีเสียงคัดค้านจากคนในพื้นที่โดยเฉพาะชาวไทยมุสลิมใน อ.เทพา จ.สงขลา ราว 4,000 คน ออกมารวมตัวกันละหมาดฮายัตเพื่อคัดค้านสร้างเจ้าแม่กวนอิมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบครั้งนี้ น่าจะเป็นกลุ่มคนจากนอกพื้นที่
@@@…….ปัจจุบัน ใน ต.สะกอม อ.เทพา สงขลา ยังมีเจดีย์ในพุทธศาสนาอยู่ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งชาวไทยพุทธ และไทยมุสลิมได้อาศัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่นี้มาช้านานแล้ว ไม่มีใครถือว่าเป็นเจ้าของพื้นที่โดยตรง ขณะเดียวกัน การก่อสร้างนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของชุมชน และไม่ใช่กิจกรรมเผยแพร่ศาสนานอกอิสลามแต่อย่างใด ..นอกเหนือจากเหตุยิงเอ็ม 79 ถล่มแคมป์คนงานก่อสร้างโครงการรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมใหญ่ที่สุดในโลก ที่ริมหาดบ้านปากบางสะกอม อ.เทพา จ.สงขลา รอยต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จนมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย พร้อมใบปลิวข่มขู่แล้ว ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ยังมีเหตุการณ์ในลักษณะก่อกวนสร้างความปั่นป่วนด้วยการลอบวางเพลิงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี กับ ยะลา อีก 10 เหตุการณ์ รวม17 จุด
@@@…….อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง มองว่า ชนวนเหตุโดยรวมที่ตั้งไว้ ได้แก่ ประเด็นความมั่นคง การสาธิตการแสดงกำลัง การสร้างความหวาดกลัว และผูกโยงกับความขัดแย้งในพื้นที่ เป็นต้น เนื่องเพราะมีใบปลิวข่มขู่มาพร้อมด้วย ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังมิได้ตัดประเด็นใดทิ้งไป และอยู่ระหว่างการสอบสวน และดูรายละเอียดวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ และสอบสวนผู้บาดเจ็บไปพร้อมด้วย พื้นที่เกิดเหตุทั้งหมด อยู่ในเขตความมั่นคง 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ซึ่งที่ผ่านมามีเหตุก่อความไม่สงบเกิดขึ้นไม่มากนัก แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นสถานการณ์ร้ายแรง โดยฝ่ายความมั่นคง ทหารตำรวจในพื้นที่ และฝ่ายปกครอง รวมทั้งหน่วยงานข่าวกรองในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง จะได้กระชับมาตรการรักษาความปลอดภัย และการรวบรวมข่าวสารการข่าวกรองอย่างเข้มข้นเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่า ความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนคนในพื้นที่ ได้รับการประกันให้สำเร็จได้ในที่สุด
@@@…….นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และคณะ ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา หรือ ADMM-Plus ครั้งที่ 11 ซึ่งเป็นเป็นกลไกการหารือที่สำคัญของรัฐมนตรีกลาโหมประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศกับประเทศคู่เจรจาอีก 8 ประเทศ ได้แก่ 1) เครือรัฐออสเตรเลีย 2) สาธารณรัฐประชาชนจีน 3) สาธารณรัฐอินเดีย 4) ญี่ปุ่น 5) นิวซีแลนด์ 6) สาธารณรัฐเกาหลี 7) สหพันธรัฐรัสเซีย และ 8) สหรัฐอเมริกา ซึ่งต่างเป็นประเทศที่มีบทบาทนำทางการเมืองระหว่างประเทศและมีศักยภาพทางการทหารสูง จึงเป็นกลไกที่มีบทบาทสำคัญ ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา และระหว่างประเทศคู่เจรจาด้วยกันเอง ซึ่งภายใต้บริบทการแข่งขันทางยุทธศาสตร์ในปัจจุบัน การดำรงช่องทางการติดต่อสื่อสารและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างมหาอำนาจ เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อเสถียรภาพ ความมั่นคง การอยู่ดีกินดีและการสร้างความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและประชาชนในภูมิภาค
@@@…….โดยในห้วงการประชุมฯ ประเทศสมาชิกได้หารือแลกเปลี่ยนมุมมองต่อสถานการณ์ความมั่นคงของภูมิภาคและระดับโลก โดยต่างตระหนักถึงความท้าทายที่มีทั้งในปัจจุบันและอนาคต ภายใต้บริบทของการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันของประเทศมหาอำนาจ และภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ ระบบห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนความมั่นคง ปลอดภัย และการอยู่ดีกินดีของประชาชน ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการะทรวงกลาโหม ได้ร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และผลักดันความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจา รวมทั้งการมีปฏิสัมพันธ์กับภาคีภายนอกภูมิภาคอย่างครอบคลุม และสมดุล เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่น และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนได้ให้การรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุม ADMM-Plus ครั้งที่ ๑๑ ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ประเทศสมาชิก ADMM-Plus จึงเห็นร่วมกันที่จะใช้กลไกความร่วมมือที่มีอยู่ในการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น
@@@…….กองทัพบก….เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวนาปีของเกษตรกรไทย ซึ่งต้องใช้แรงงานทั้งกำลังคน เครื่องมือและยุทโธปกรณ์ รวมถึงพื้นที่ในกระบวนการผลิตก่อนนำไปเข้าโรงสีเพื่อจำหน่ายให้ประชาชน โดย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกร มอบหมายหน่วยทหารทั่วประเทศ นำศักยภาพของทรัพยากรภายในหน่วยร่วมดูแลช่วยเหลือเกษตรกร โดยปัจจุบันหน่วยทหารของกองทัพบกได้เปิดพื้นที่ของหน่วยให้ชาวนาสามารถใช้เป็นลานตากข้าวในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ลดความเสี่ยงจากสภาพอากาศ และเพิ่มความปลอดภัยจากการใช้พื้นที่ที่ไม่เหมาะสม ในหลายพื้นที่ได้แก่ จ.ร้อยเอ็ด : ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช อ.ศรีสมเด็จ จ.สกลนคร : กรมทหารราบที่ 3 ค่ายกฤษณ์สีวะรา อ.เมือง จ.พะเยา : สนามบินเก่า ค่ายขุนจอมธรรม กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 17 อ.เชียงคำ ทั้งนี้ หากพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ใด ต้องการขอรับการสนับสนุนในด้านต่างๆ สามารถติดต่อหน่วยทหารในพื้นที่ได้ตลอดเวลา โดยกองทัพบกพร้อมให้การดูแลช่วยเหลือ และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในทุกโอกาส
@@@…….กองทัพอากาศ…..พล.อ.อ.เสกสรร คันธา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะประธานอนุกรรมการโครงการสร้างพระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ มอบหมายให้ พล.อ.อ.ทวีศักดิ์ เผ่าวิจารณ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพอากาศ เป็นผู้แทนกองทัพอากาศ พร้อมด้วย พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี รองเสนาธิการทหารอากาศ และพลอากาศโท ทินกร อินทร์ทอง เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารอากาศ รวมทั้งคณะทำงานจาก กรมส่งกำลังบำรุงทหารอากาศ, กรมช่างโยธาทหารอากาศ, กรมยุทธการทหารอากาศ และกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนผู้แทนจากกรมศิลปากรและที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุมกับ คณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เรื่อง โครงการสร้างพระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ ทั้งนี้ โครงการสร้างพระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเพื่อสร้างปูชนียสถานและปูชนียวัตถุสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตลอดจนเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเขตอุทยานแห่งชาติ
………………….
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย.. “รหัสมอร์ส”