“….การลักลอบนําเข้ายาบ้าเข้าฝั่งไทยจะยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่า ปริมาณการนําเข้า จะมีเพิ่มขึ้น อีกทั้งการผลิตก็จะเพิ่มขึ้น….”
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 29 ธ.ค.67 เป็นสัปดาห์สุดท้ายก่อนจะเข้าสู่ปีใหม่ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบการลักลอบลําเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก เช่น กรณีเจ้าหน้าที่ บก.สกัดกั้นที่ 4 นบ.ยส.35 ร่วมกับ บก.ปส.3 บช.ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนธิกําลังปฏิบัติภารกิจ ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณถนนสาธารณะ บ.ราษฎร์ภักดี ม.10 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย สามารถตรวจยึดยาบ้า จํานวน 6,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระสอบ และรถยนต์กระบะ จอดทิ้งไว้บริเวณบ่อขยะ บ.ต้นผึ้ง ต.ป่าสัก อ.ภูซาง จ.พะเยา ห่างจากจุดทิ้งยาบ้า ประมาณ 20 กม. จํานวน 1 คัน โดยผู้กระทําความผิดหลบหนีไปได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นําของกลางทั้งหมดส่ง บก.สกัดกั้นที่ 4 พร้อมเตรียม ขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มขบวนการฯ มาดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ยังมีกรณ๊ลักษณะนี้ เกิดขึ้นในความถี่สูงอย่างมีนัยสำคัญ
@@@…….ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง มองว่า จากกรณีการตรวจยึดยาบ้า จํานวน 6,000,000 เม็ด ในพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งการตรวจยึดได้เป็นจํานวนมากในครั้งนี้ อาจเป็นไปได้ว่า กลุ่มขบวนการลักลอบนําเข้ายาเสพติดกําลังปฏิบัติการ “ซ่อมงาน” หรือการเร่งนําเข้ายาบ้าทดแทนของกลางที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไปก่อนหน้านี้ เพื่อเร่งนําส่งให้กับผู้ค้ายาเสพติดให้ทันช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งการซ่อมงานในครั้งนี้ กลุ่มขบวนการฯได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางเพื่อดํารงความอยู่รอด เนื่องจากบริเวณชายแดนด้านพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน และจ.เชียงใหม่ กำลังทหารฝ่ายไทย ได้วางกําลังป้องกันชายแดน เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ข้อพิพาทเขตแดน การลาดตระเวนเขต และลาดตระเวนเส้นทางของฝ่ายไทย เป็นไปอย่างเข้มงวด ทําให้กลุ่มลําเลียงฯ ต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางในการลักลอบนํายาเสพติดเข้าสู่ไทย ทางทิศตะวันออก ชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้านจ.เชียงราย เพิ่มมากขึ้น
@@@……จากข้อมูลข่าวสารการข่าวกรองของกองทัพเกี่ยวกับเส้นทางเคลื่อนย้ายยาบ้า ทำให้ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยเกี่ยวข้อง ทราบว่า มีการลักลอบนําเข้ายาบ้าดังกล่าวที่บริเวณ พื้นที่ ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และจะนําไปพักคอย ในพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา เพื่อรอหัวหน้ากลุ่มขบวนการฯ สั่งการให้นําส่งไปตามจุดต่าง ๆ ต่อไป รวมทั้งมีแนวโน้ม เป็นไปได้ว่า การลักลอบนําเข้ายาบ้าเข้าฝั่งไทยจะยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่า ปริมาณการนําเข้า จะมีเพิ่มขึ้น อีกทั้งการผลิตก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย สาเหตุเนื่องมาจากกองกำลังชนกลุ่มน้อย ได้เร่งผลิตยาบ้าเพื่อหาเงินทุนใช้ ในการบริหารกองทัพ ประกอบกับเข้าสู่ห้วงฤดูกาลท่องเที่ยว และเทศกาลปีใหม่ ส่งผลให้ความต้องการของ ตลาดยาบ้ามีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในช่วงนี้จนถึงต้นปี 2568 ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้กระชับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น รวมทั้งสนธิกำลัง และการวางกำลังไว้ ณ จุดสำคัญต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่า ยาบ้า และยาเสพติดจะทะลักเข้ามาในช่วงเทศกาลนี้ให้น้อยที่สุด ตลอดจนจัดการต่อกลุ่มขบวนการลักลอบนําเข้ายาเสพติด ด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาดต่อไป

@@@……กระทรวงกลาโหม…. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 11/2567 โดยนายภูมิธรรมได้สั่งการและมอบนโยบายเป็นแนวทางการปฏิบัติงานในที่ประชุมในหลายประเด็น ได้แก่ การรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ บูรณาการและประสานการปฏิบัติกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ในการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนทั้งทางบกและทางทะเล มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ให้ครอบคลุมทุกด้าน อาทิ การลักลอบค้ายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การหลบหนีเข้าเมืองและการค้ามนุษย์ รวมทั้งการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU Fishing) โดยให้ดำเนินการทั้งในด้านมาตรการป้องกันและปราบปราม ควบคู่ไปกับการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายต่อกลุ่มผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด ต่อเนื่อง และจริงจัง ทั้งนี้ ให้ระมัดระวังในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นสำคัญ
@@@……โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม และการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทหาร ขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพเพิ่มการประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนให้การปรับลดกำลังพลในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิ นายทหารปฏิบัติการและประจำหน่วย เป็นไปตามแผนการบริหารจัดการกำลังพลของกระทรวงกลาโหมโดยเร็ว สอดคล้องตามนโยบายและเจตนารมณ์ของรัฐบาล รวมถึงแนวทางการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทหารให้สอดรับตามมติของการประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 67 ในการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ และการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ กรมเสมียนตรา ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและส่งให้สำนักงาน ก.พ. พิจารณาความสอดคล้องกับหลักการตาม มติ ครม. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

@@@……ส่วนแนวทางการดำเนินการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2568 ในกรณีสมัครใจสามารถเลือกเหล่าทัพ (ทั้ง กองทัพบก, กองทัพเรือ, และ กองทัพอากาศ) เลือกพื้นที่ และเลือกหน่วยทหารที่ต้องการได้เป็นอันดับแรก สำหรับผู้ที่จับได้สลากแดงจะเป็นลำดับรองลงมา พร้อมกับมีโครงการนำร่องให้ กองทัพเรือ และ กองทัพอากาศ มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการตรวจเลือกฯ สำหรับ กองทัพเรือ ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และ กองทัพอากาศ ในพื้นที่เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยให้ประสานกับหน่วยสัสดีในพื้นที่ดำเนินการ สำรวจการแสดงความจำนง ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ทหารกองเกินสมัครเข้ารับราชการทหารกองประจำการ และการจัดกรรมการนายทหารสัญญาบัตร กรรมการแพทย์ ในคณะกรรมการตรวจเลือกฯ
@@@……นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมเน้นย้ำการปฏิบัติการข่าวสารในสื่อออนไลน์ สกัดข่าวเท็จเพื่อความมั่นคงขององค์กรและสังคม กระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการติดตาม ตรวจสอบ และป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความเสียหายที่อาจส่งผล กระทบต่อองค์กรและสังคมในวงกว้าง มีแนวทางการปฏิบัติสำคัญ ได้แก่ 1.เพิ่มการเฝ้าระวังและตรวจสอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับคำสั่งให้เพิ่มการติดตามข่าวสารในสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะข่าวที่มีลักษณะ บิดเบือนข้อเท็จจริงหรืออาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม 2.ปฏิบัติการชี้แจงข้อเท็จจริง หากพบข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือบิดเบือน กระทรวงกลาโหมจะเร่งชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับ ทราบอย่างรวดเร็วและชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และ 3. ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ที่ปล่อยข่าวหรือข้อมูลเท็จที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติหรือสร้างความเสียหายต่อบุคคลและ สังคม จะถูกติดตามและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจัง ความสำคัญของการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง

@@@……ที่หอประชุมกองทัพบก…..พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 3/2568 (วาระพิเศษ) เพื่อมอบนโยบายต่อผู้บังคับหน่วยและสั่งการตามพันธกิจ 5 ประการของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ถึงระดับผู้บังคับกองพันหรือเทียบเท่าขึ้นไป โดย กรมยุทธการทหารบกได้จัดแสดงนิทรรศการระบบอากาศยานไร้คนขับ ที่มีการนำมาใช้ในประเทศไทยและในกองทัพบก เพื่อให้ผู้บังคับหน่วยได้ศึกษาเรียนรู้ และสามารถนำไปถ่ายทอดให้กับกำลังพลภายในหน่วยได้รับทราบถึงวิวัฒนาการ, ขีดความสามารถด้านการใช้อากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ที่ปัจจุบันกองทัพบกอยู่ในระหว่างการพัฒนาหลักนิยมการปฏิบัติการของอากาศยานไร้คนขับ รวมถึงมีการร่วมกับภาคเอกชนในการศึกษาวิจัย พัฒนาขีดความสามารถ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติภารกิจทางทหารและการช่วยเหลือประชาชน

@@@……ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ขอบคุณทุกหน่วยที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจในห้วงที่ผ่านมาอย่างทุ่มเทและเสียสละ พร้อมนำข้อสั่งการของที่ประชุมสภากลาโหมมาถ่ายทอดให้กับผู้บังคับหน่วยได้รับทราบ ในเรื่องของการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ทั้งในด้านการป้องกันประเทศและการช่วยเหลือประชาชน โดยขอให้เน้นการบูรณาการร่วมกัน ทั้งในส่วนของกองทัพบก, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และกำชับให้หน่วยดำเนินการตามนโยบายที่ได้เคยมอบไว้ ทั้งในเรื่องของการรับสมัครทหารออนไลน์, การฝึกทหารใหม่, การฝึกตามวงรอบประจำปี ซึ่งทุกการฝึก ถือว่ามีความสำคัญ ในการเตรียมกำลังให้มีความพร้อมต่อการปฏิบัติทุกภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการปฏิบัติของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ในการป้องกันชายแดน และการประสานข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคต่างๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

@@@……ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการลดอุบัติเหตุจากการถนน โดยร่วมบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 นั้น กองทัพไทย โดย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ร่วมจัดตั้งจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ถึง วันที่ 5 ม.ค. 2568 ภายใต้แนวคิด “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ด้วยการจัดตั้งจุดบริการประชาชนในห้วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 จำนวนทั้งสิ้น 209 จุด ทั่วประเทศ ประกอบด้วย กองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 38 จุด กองทัพบก จำนวน 79 จุด

@@@……กองทัพเรือ จำนวน 76 จุด กองทัพอากาศ จำนวน 13 จุด และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จำนวน 3 จุด โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ, ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ในการให้บริการจุดพักรถ การให้คำแนะนำการใช้เส้นทาง การบริการเครื่องดื่ม การบริการตรวจสภาพและซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ การบริการสุขา การบริการทางการแพทย์ การจำหน่ายสินค้าราคาถูก การบริการนวดผ่อนคลาย เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 เพื่อให้เทศกาลปีใหม่นี้เป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัย และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
………………
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย.. “รหัสมอร์ส”