“……..การประชุม GBC ไทย-ลาว ครั้งที่ 29 ร่วมมือในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทั้งสองฝ่ายจะประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการแก้ไขปัญหาต่อไป…..”
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 22 ก.พ.68 หลังจากที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้หารือกับ นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมผู้ช่วยทูตทหารของจีน ทูตทหารจีน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งหมด 6 คน ที่ กระทรวงกลาโหม โดยนายหลิว จงอี้ ยืนยันว่า การทำงานของตนในประเทศไทย เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ พร้อมย้ำว่าเคารพในอธิปไตยของไทยและกฎหมายท้องถิ่นของไทย พร้อมกล่าวขอโทษคนไทย ที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ที่ดูเหมือนว่า เข้ามารุกล้ำอธิปไตยตามที่วิพากษ์วิจารณ์กัน และอยากให้ไทยชี้แจงประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ

@@@…….นอกจากนี้ นายหลิว จงอี้ ชื่นชมมาตรการตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต และตัดน้ำมัน ของรัฐบาลไทย ในส่วนของฝ่ายจีน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นายหลี่เฉียง นายกฯจีน ได้ชื่นชม พร้อมทั้งขอบคุณผ่านนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และร่วมกันทำงานจนได้ผล ซึ่งนานาประเทศก็ชื่นชมในการทำงานครั้งนี้ ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา

@@@…….กระทรวงกลาโหม…..นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ให้การต้อนรับ พล.ท.คำเลียง อุทะไกสอน รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) GBC ไทย-ลาว ครั้งที่ 29 โดยได้มีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศที่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน โดยเฉพาะด้านความมั่นคงที่ได้มีการพัฒนามาเป็นลำดับ สามารถที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆได้ จากกลไกความร่วมมือ ตั้งแต่ระดับรัฐบาล จนถึงระดับพื้นที่ระหว่างจังหวัด และแขวงชายแดน ทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความสงบสุข ไว้เนื้อเชื่อใจกัน ดั่งญาติสนิท
@@@…….จากนั้นทั้งสองได้เข้าร่วมการประชุม GBC ไทย-ลาว ครั้งที่ 29 ณ โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการดำเนินการตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กำหนดจัดประชุมปีละ 1 ครั้ง ผลัดกันเป็นเจ้าภาพโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประธานร่วม สำหรับการประชุมครั้งที่ 29 ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ ที่ประชุมได้แสดงความยินดีต่อผลสำเร็จของการปฏิบัติงานในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังคงปฏิบัติตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย – ลาว ฉบับลงวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2566 อย่างเคร่งครัด

@@@…….ทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะดำรงและเพิ่มความร่วมมือที่มีอยู่ให้มากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาความมั่นคงที่ไม่สามารถแก้ไขได้โดยประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา อาทิ การแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยจะขับเคลื่อนการดำเนินงานตามกรอบแนวทางการยกระดับความร่วมมือเชิงรุกในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามชายแดน ไทย-ลาว ได้แก่ การประสานงานด้านข้อมูลการข่าว การเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการสืบสวน การสกัดกั้น และการขยายผลการจับกุม การเสริมสร้างความสามารถแก้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายลาว
@@@…….การแก้ไขปัญหาระยะยาวส่งเสริมการพัฒนาอาชีพและความเป็นอยู่ให้ประชาชนห่างไกลยาเสพติด การแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ได้ร่วมมือกันดำเนินการตามโครงการจัดตั้งระบบติดตามและการพยากรณ์การเกิดหมอกควัน โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการป้องกันและควบคุมไฟป่า และโครงการการจัดการและลดมลพิษหมอกควันข้ามแดน ตามยุทธศาสตร์ฟ้าใส (Clear Sky Strategy) สำหรับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทั้งสองฝ่ายจะประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการแก้ไขปัญหาต่อไป อย่างไรก็ตามจะมีการจัดตั้งกลไกการทำงานให้เป็นรูปธรรมต่อไป

@@@…….กองบัญชาการกองทัพไทย….พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการดำเนินงานของ หน่วยบัญชาการไซเบอร์ทหาร (นซบ.ทหาร) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อรองรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับฟังบรรยายสรุป ความคืบหน้าการจัดตั้งหน่วยงาน การพัฒนากำลังพล การจัดทำหลักนิยม และการจัดหาอุปกรณ์ที่ทันสมัยสำหรับการปฏิบัติการไซเบอร์
@@@…….ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติ 1.เร่งจัดทำ อัตราการจัดของหน่วย/หลักนิยมในการปฏิบัติการร่วมทางด้านไซเบอร์/การบรรจุบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ 2.จัดทำแผนปฏิบัติการด้านไซเบอร์ประกอบ แผนป้องกันประเทศ 3.ทำแผนการพัฒนาหน่วย RTARF Cyber Command White Paper 4.สร้างกิจกรรมที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจทางด้านนี้ เช่น การเปิดรับสมัครนักเรียนมัธยมเข้าร่วม Cyber Boot Camp ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนี้ (ในปัจจุบันมี นักเรียนสมัครแล้ว 560 นาย จะคัดให้เหลือ 60 นาย) เพื่อเข้ารับการฝึกแบบ on site 5.เปิดรับนักศึกษาฝึกงานที่หน่วย Cyber Internship Program เพื่อจูงใจให้นักศึกษาสมัครใจและมีทักษะทางด้ายไซเบอร์ เข้ารับราชการในหน่วยนี้ต่อไป

@@@…….6.การฝึกกับต่างชาติ (ทั้งในและนอกประเทศ) ผู้เข้ารับการฝึกทุกนาย จะต้องขวนขวายหาความรู้และสร้างเครือข่ายเพื่อการติดต่อในอนาคต (ปี 68 จะเป็นครั้งแรกที่ กองทัพไทยจะได้เข้าร่วมฝึก Cyber Flag(USA) และ Talisman Sabre(AUS)) 7.งบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์จะต้องคุ้มค่าที่สุดเพราะอุปกรณ์ด้านไซเบอร์มีราคาสูงและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว 8.การปรับปรุงอาคารเพื่อรองรับ Cyber Academy จะต้องแล้วเสร็จในเดือนกรกฏาคม โดยมีเป้าหมายในการผลิต นักรบไซเบอร์ ในปี 68 จำนวน 250-300นาย (ทุกเหล่าทัพและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง) 9.ให้ศึกษาแนวทางการจ้างที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการเสริมสร้างหน่วยไซเบอร์แล้วร่วมวางแผนการพัฒนาหน่วยในอนาคต (Cyber Enterprise Consultant)

@@@…….กองทัพบก….พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา เดินทางไปยังค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหาร เขาชนไก่ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ตรวจเยี่ยมการฝึกภาคสนามของนักศึกษาวิชาทหาร ประจำปีการศึกษา 2567 ที่มีหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนเป็นหน่วยรับผิดชอบในการดำเนินการ เพื่อผลิตนักศึกษาวิชาทหารให้เป็นกำลังสำรองที่มีคุณภาพของกองทัพ โดยหลังจากที่ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังบรรยายสรุปการจัดการฝึกแล้ว ได้เดินทางไปเยี่ยมชมระบบการสนับสนุนและมาตรการรักษาความปลอดภัยในการฝึก ทั้งในเรื่องการบริการทางการแพทย์, เครื่องช่วยฝึก, สุขอนามัย, การประกอบเลี้ยง และการเคลื่อนย้ายนักศึกษาวิชาทหาร พร้อมตรวจเยี่ยมการฝึกตามสถานีต่าง ๆ อาทิ สถานีการทดสอบกำลังใจกระโดดหอสูง 34 ฟุต, การฝึกบุคคลทำการรบ, การฝึกดำรงชีพในป่า, สถานีการฝึกไต่หน้าผาและลงทางดิ่ง, สถานีบรรเทาสาธารณภัย, สถานีฝึกช่วยฟื้นคืนชีพ เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้ตรวจเยี่ยมที่พักแรมและการรับประทานอาหารกลางวันของนักศึกษาวิชาทหารอีกด้วย

@@@…….ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการตรวจเยี่ยมการฝึกภาคสนามของนักศึกษาวิชาทหารที่ เขาชนไก่ พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคตะวันตก (นบ.ยส.17) และ กองกำลังสุรสีห์ ณ มณฑลทหารบกที่ 17 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1/ผบ.นบ.ยส.17, พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์, พล.ต.ชนมากรณ์ ภิบาลชนม์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17 และส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วม โดยในการบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน นบ.ยส.17 ได้ระบุว่าปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติดได้ขยายเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดมาทางภาคตะวันตกในพื้นที่ชายแดน จ.กาญจนบุรี ยาเสพติดที่ปรากฏในพื้นที่ส่วนใหญ่ ได้แก่ ยาบ้า เฮโรอีน และไอซ์ ซึ่งมีการลำเลียงมาทั้งทางบกและทางน้ำ จากสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดน จ.กาญจนบุรี ในปี 2567 ประกอบด้วย อ.เมืองกาญจนบุรี, อ.ไทรโยค, อ.ด่านมะขามเตี้ย, อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี พบว่าจำนวนคดีและปริมาณของกลางที่จับได้มีมากขึ้น

@@@…….สำหรับการดำเนินงานของ นบ.ยส.17 มีการจัดกำลังร่วม 3 ฝ่าย ได้แก่ 1.พลเรือน จัดจาก ฝ่ายปกครอง (ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และนายอำเภอชายแดนทั้ง 5 อำเภอ) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 7 2.ตำรวจ จัดจาก กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 และ 3.ทหาร จัดจาก กองทัพภาคที่ 1 เป็นหลัก ซึ่งการปฏิบัติงานของ นบ.ยส.17 ในการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่และกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก (กองกำลังสุรสีห์) ตามมาตรการ Seal ชายแดน 6 มาตรการ ได้แก่ การสกัดกั้น, การปราบปราม, การป้องกัน, การบำบัดรักษา, การบูรณาการ และการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน
@@@…….ในส่วนของกองกำลังสุรสีห์ได้ชี้แจงผลการดำเนินการตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติในการระงับไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่เมียนมา ซึ่งกองกำลังสุรสีห์ได้ดำเนินการร่วมกับศูนย์สั่งการชายแดนฯ จังหวัดกาญจนบุรีอย่างใกล้ชิด สถานการณ์ทั่วไปในปัจจุบันยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การนำเข้า – ส่งออกสินค้าอื่น ๆ ผ่านช่องทางยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ส่วนสถานการณ์ใน อ.พญาตองซู เมียนมา หลังจากมีการตัดกระแสไฟ ได้ส่งผลให้น้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มขาดแคลนและมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกองกำลังสุรสีห์จะได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
@@@…….การตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำให้ นบ.ยส.17 และกองกำลังสุรสีห์ได้ติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้เพ่งเล็งการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยโดยเฉพาะการใช้อากาศยานไร้คนขับของกลุ่มขบวนการในการทำผิดกฎหมายต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานและกวดขันระเบียบวินัยของกำลังพลมิให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายต่าง ๆ รวมถึงให้กองกำลังสุรสีห์พิจารณาใช้กำลัง 1 หมวดที่ได้รับสนับสนุนเพิ่มเติมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาความสงบและสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน

@@@…….กองทัพเรือ…..พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้การต้อนรับ พล.ร.อ.Stephen Koehler ผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐ ภาคพื้นแปซิฟิก (U.S. Pacific Fleet Command) โดยนำตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ลงนามในสมุดเยี่ยม และหารือระหว่างกัน ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม โดยมีสาระสำคัญจากการหารือประกอบด้วย ทั้งสองฝ่ายได้ให้ความสำคัญและยืนยันต่อมิตรภาพที่มีมายาวนานกว่า 190 ปี และ ผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐฯ ขอบคุณที่กองทัพเรือไทยให้การสนับสนุนเรือรบของสหรัฐฯ เข้าใช้เมืองท่าในประเทศไทยมาโดยตลอด และได้แสดงความยินดีกับการเดินทางเยือนสหรัฐฯของ ผู้บัญชาการทหารเรือ อย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพเรือสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2568 พร้อมกับให้คำมั่นที่จะนำผลการหารือไปสู่การปฎิบัติ ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะดำเนินความสัมพันธ์และเยี่ยมเยือนระหว่างกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

@@@……. กองทัพบก…พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ลงนามในคำสั่งกองทัพบก แต่งตั้ง พล.ต.วินธัย สุวารี เป็น โฆษกกองทัพบก เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ของกองทัพบก ให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมประสานร่วมกับทีมโฆษกเหล่าทัพ ในการสื่อสารข้อเท็จจริงต่อสังคมอย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยทีมโฆษกกองทัพบกในปัจจุบัน นำโดย พล.ต.วินธัย สุวารี เป็น โฆษกกองทัพบก พร้อมด้วย พ.อ.ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ และ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ เป็น รองโฆษกกองทัพบก รวมทั้งผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก ได้แก่ พ.ท.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม, พ.ท.หญิง ญดา โชติชูตระกูล, พ.ต.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล และ พ.ต.หญิง จุฑาพัชร เปรมบัญญัติ ทั้งนี้ ทีมโฆษกกองทัพบก พร้อมประสานงานร่วมกับทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสื่อมวลชน และภาคประชาชน ในการรับฟังและให้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสังคมในการดำเนินการต่างๆของกองทัพบก
@@@…….ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้มีการจัดตั้งทีมโฆษก กอ.รมน. เพื่อทำหน้าที่ชประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ภารกิจของ กอ.รมน. ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสังคมได้รับทราบ ในการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง โดยมี พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ เป็นโฆษก กอ.รมน. พ.อ.บรรจบ แข็งขัน เป็นรองโฆษก กอ.รมน. พ.อ.หญิง นุชระวี แจ่มจำรัส เป็นรองโฆษก กอ.รมน. นางทศยาพร ดิเรกวุฒิ เป็นผู้ช่วยโฆษก กอ.รมน. ร.ท.หญิง ณัฐสินี จิตรกรปัญญา เป็นผู้ช่วยโฆษก กอ.รมน. ทั้งนี้เพื่อพัฒนาและยกระดับการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของ กอ.รมน. ให้มีความถูกต้อง รวดเร็ว มุ่งเน้นการสื่อสารเชิงรุกเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สังคม และเข้าถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่การสื่อสารมีบทบาทสำคัญต่อการรับรู้ของสังคม
…………..
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย.. “รหัสมอร์ส”