วันเสาร์, มีนาคม 15, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTS“ผบ.ทหารสูงสุด”แนะไทยใช้“จุดแข็ง” สร้าง“ความมั่นคงรูปแบบใหม่”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ผบ.ทหารสูงสุด”แนะไทยใช้“จุดแข็ง” สร้าง“ความมั่นคงรูปแบบใหม่”

“…..การเผชิญหน้ากับพลวัตความมั่นคงเจำเป็นต้องอาศัยแนวคิดใหม่ที่เปลี่ยนจาก “เส้นทาง” ไปสู่ “การเชื่อมโยง” โดยประเทศไทยจะใช้จุดแข็งของตน ในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงโดยมีแนวทางสำคัญเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงระดับภูมิภาค…” 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 15 มี.ค.68 ประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับรายชื่อโยกย้ายนายทหารกลางปี 306 นาย ขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับการแต่งตั้งในปีนี้ 

@@@…….ช่วงที่ผ่านมา พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “จากเส้นทางสู่การเชื่อมโยง : แนวทางของประเทศไทยต่อพลวัตความมั่นคงรูปแบบใหม่” ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งการบรรยายพิเศษในครั้งนี้ มุ่งเน้นถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความร่วมมือและความมั่นคงระดับภูมิภาคผ่านแนวคิด “The interior line of connectivity” ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อน โดยมีความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจ ความท้าทายด้านความมั่นคงที่เกิดจากเทคโนโลยี ความขัดแย้งในภูมิภาค รวมถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ที่ช่วยเชื่อมโยงและประสานงานในระดับภูมิภาค 

@@@…….โดย พล.อ.ทรงวิทย์ ได้กล่าวถึงการเผชิญหน้ากับพลวัตความมั่นคงเหล่านี้ จำเป็นต้องอาศัยแนวคิดใหม่ที่เปลี่ยนจาก “เส้นทาง” ไปสู่ “การเชื่อมโยง” โดยประเทศไทยจะใช้จุดแข็งของตน ได้แก่ ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลาง ความเป็นกลางทางการเมือง ความร่วมมือในระดับนานาชาติ และประวัติศาสตร์ของการเคารพกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ ในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงโดยมีแนวทางสำคัญเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงระดับภูมิภาค ประกอบด้วย

@@@…….1.การเชื่อมโยงผ่านกองกำลังป้องกันประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการ “เชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง” ผ่านความร่วมมือทางทหาร เช่น การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM) ซึ่งส่งเสริมการฝึกซ้อมและการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านความมั่นคง, การฝึกคอบร้าโกลด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในการฝึกทางทหารที่สำคัญของภูมิภาค โดยมีการเชิญผู้แทนด้านการเมือง สื่อมวลชน นักธุรกิจสายเทคโนโลยี และนักศึกษาในแขนงวิชาที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมสังเกตการณ์เป็นครั้งแรก คณะกรรมการชายแดน ที่ช่วยส่งเสริมความร่วมมือในการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาชายแดน นอกจากนี้ ในเดือนสิงหาคม 2568 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัด “การประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอินโด-แปซิฟิก” และ “การสัมมนาสงครามไม่ปกติอินโด-แปซิฟิก ครั้งที่ 2” ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และกระชับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์

@@@…….2.การเชื่อมโยงผ่านความพยายามของรัฐบาลทั้งหมด ประเทศไทยยึดแนวทาง #TeamThailand โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ตัวอย่างสำคัญ ได้แก่ การอพยพพลเมืองไทยจากฉนวนกาซา ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานด้านความมั่นคง และประเทศพันธมิตร,  การรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย ที่ใช้เครือข่ายความร่วมมือทั้งทางการและไม่เป็นทางการเพื่ออำนวยความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

@@@…….3.การเชื่อมโยงผ่านกรอบพหุภาคีที่มีอยู่ ซึ่งอาเซียนเป็นกลไกสำคัญของความมั่นคงระดับภูมิภาค และประเทศไทยยังคงสนับสนุน “ศูนย์กลางความมั่นคงที่ยั่งยืน” ผ่านกรอบความร่วมมือของอาเซียน เพื่อให้เกิดความมั่นคงและเสถียรภาพบนพื้นฐานของกฎเกณฑ์ที่เป็นธรรม จะทำอย่างไร ให้ประเทศไทยเป็นผู้เชื่อมโยงแห่งภูมิภาค? แนวคิด “The interior line of connectivity” นั้น ไม่เพียงช่วยให้ประเทศไทยรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคง แต่ยังช่วยสร้างบทบาทของไทยในฐานะผู้เอื้ออำนวยและตัวเร่งปฏิกิริยาของความร่วมมือระดับภูมิภาค พลเอก ทรงวิทย์ ฯ ได้กล่าวปิดท้ายว่า “If you want to go fast, go alone, if you want to go far, go together”

@@@…….ลงพื้นที่….พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.)/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน (ผอ.ศอ.ปชด.) พร้อมคณะ เดินทาง ไปยังกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา โดยได้มีการประชุมในนาม ศอ.ปชด. ร่วมกับ ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจังหวัดกาญจนบุรี (ศส.ชท.จว.ก.จ.) ณ ห้องประชุมกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 โดยมี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1/ผู้อำนวยการ ศส.ชท.ทภ.1 กล่าวต้อนรับ และ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการ ศส.ชท.จว.ก.จ. รายงานภาพรวมการดำเนินงานของหน่วยงานในพื้นที่ชายแดน

@@@……การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ของผู้บัญชาการทหารสูงสุดในครั้งนี้ แสดงถึงความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ กองทัพ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และภาคประชาชน ในการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาสำคัญเร่งด่วนของชาติ โดยเฉพาะการป้องกันอาชญากรรม การค้ามนุษย์ และยาเสพติด ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะความสำคัญของการทำงานเชิงรุกและการบูรณาการทุกมาตรการอย่างเป็นระบบ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ดูแลพี่น้องประชาชน และสร้างเสถียรภาพให้กับพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาให้เป็นเขตปลอดภัยและมั่นคง พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

@@@…….กองทัพบก….พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งระดมกำลังทหารเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในอาคารของโรงพยาบาลรามาธิบดี เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีรองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ควบคุมกำลัง ประกอบด้วย กองพันทหารสื่อสารที่ 12, กองร้อยทหารสารวัตร กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และกองพันทหารสารวัตรที่ 11 พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสาพระราชทานกองทัพบก เข้าช่วยเหลือตามการประสานงานจากโรงพยาบาลรามาธิบดีโดยเร่งด่วน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากควันไฟ อำนวยความสะดวกในการจราจร และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างปลอดภัย

@@@…….กองทัพอากาศ….พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่ และความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Solar Floating) ที่สวนสุขภาพกองทัพอากาศ (ศูนย์กีฬา-สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี) โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ คณะผู้บริหารบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการพลังงานทดแทนกองทัพอากาศ ร่วมในพิธี ณ อาคารกีฬาสวนสุขภาพกองทัพอากาศ (ศูนย์กีฬา-สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี)

@@@…….สำหรับโครงการดังกล่าว ได้มีการลงนามความร่วมมือ (MOA) ว่าด้วยโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Solar Floating) ที่สวนสุขภาพกองทัพอากาศ (ศูนย์กีฬา-สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี) เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 โดยมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 1 เมกะวัตต์ ซึ่งจะจ่ายไฟเข้าระบบเดิมภายในกองบัญชาการกองทัพอากาศ ทำให้กองทัพอากาศสามารถประหยัดค่าพลังงานไฟฟ้าได้ ประมาน 1.08 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นมูลค่าตลอดอายุสัญญา 25 ปี ประมาณ 25.7 ล้านบาท โดยติดตั้งในพื้นที่บริเวณทิศเหนือของสระน้ำ ภายในสวนสุขภาพ กองทัพอากาศ 

@@@……. นอกจากระบบ Solar Floating แล้ว บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ยังได้มีการติดตั้งกังหันน้ำเติมอากาศพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน และเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ หรือ AC สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ติดตั้งบริเวณลานจอดรถหน้าอาคารสวนเฉลิมพระเกียรติฯ กองทัพอากาศ อีกทั้งยังได้ร่วมกันในการศึกษาโอกาสการขยายผลโครงการในลักษณะเดียวกัน เช่น Solar Floating, Solar Rooftop และผลิตภัณฑ์ด้าน Smart Energy ในพื้นที่อื่น ๆ ของฐานทัพอากาศดอนเมือง สำหรับโครงการนี้ ถือเป็นการร่วมมือร่วมใจกัน ระหว่างกองทัพอากาศ และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมกันสร้างพลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน

…………..

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img