“กองทัพไทย”ผนึกกำลังช่วยเหลือผู้ติดค้างจากแผ่นดินไหว

“…กองทัพไทยทุกเหล่าทัพ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ติดค้างใต้ซากอาคาร พร้อมระดมสรรพกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ลงพื้นที่ปฏิบัติการเข้าถึงพื้นที่อย่างรวดเร็ว และยืนเคียงข้างประชาชน…” 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 29 มี.ค.68 สถานการณ์การเมืองในเวลานี้ คงร้อนแรงไม่เท่ากับเรื่องของภัยธรรมชาติที่เกิดแผ่นดินไหว วัดขนาดได้ 8.2 บริเวณใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า แรงสั่นสะเทือนมาถึงประเทศไทยทางภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร 

@@@…….นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เข้าตรวจพื้นที่ตึกถล่ม ย่านจตุจักร จากเหตุแผ่นดินไหว โดยได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิกู้ภัย เจ้าหน้าที่ทหาร วิศวกรโครงการ และหัวหน้าคนงาน ร่วมกันหารือ เพื่อเช็กจำนวนคนที่เข้าไปทำงานในอาคารดังกล่าว ก่อนวางแผนในการกู้ภัยช่วยเหลือ ผู้ที่ติดอยู่ในซากอาคาร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าพื้นที่เด็ดขาด พร้อมสั่งให้มีการจัดเตรียมรถพยาบาลและหน่วยกู้ชีพหากได้คนเจ็บมาแล้ว จะได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันที และประสานโรงพยาบาลใกล้เคียงให้เตรียมรับเคสฉุกเฉิน

@@@…….นายภูมิธรรม ได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด แต่ก็ต้องดูแลความปลอดภัยของตัวเองด้วย และยังได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ เร่งสำรวจความเสียหายภายในอาคาร และที่พักในหน่วยทหาร พร้อมทั้งจัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เข้าให้การช่วยเหลือโดยทันที รวมทั้งเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลทหาร ในการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยประสานงานกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

@@@…….กองบัญชาการกองทัพไทย….พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้สั่งการโดยตรงถึง พล.อ.นพดล ปิ่นทอง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ให้ระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สำหรับการจัดกำลังเบื้องต้นประกอบด้วย สำนักพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สนภ.1 นทพ.) ส่วนสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สสน.นทพ.) ศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ศฝภ.นทพ.) โดยอยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ที่จำเป็น อาทิ รถเจาะกระแทก รถตรวจการณ์ รถกู้ภัยขนาดใหญ่ รถอัดอากาศ รถตู้สำหรับเคลื่อนย้ายกำลังพล ชุดอุปกรณ์ทำระบบเชือกและรอก เครื่องค้นหาผู้ประสบภัยด้วยเสียง บอลลูนไลท์ ค้อนปอนด์ ไฟส่องสว่าง รถสุขาเคลื่อนที่ กองบัญชาการกองทัพไทยยืนยันความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจเพื่อประชาชนในทุกสถานการณ์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ประสบภัย และการเข้าถึงพื้นที่อย่างรวดเร็ว พร้อมยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในยามวิกฤต กองทัพไทยพร้อมเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส

@@@…….กองทัพบก…พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้ยกเลิกภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) และเดินทางกลับมายังกองบัญชาการกองทัพบกโดยด่วน พร้อมทั้งเรียกประชุมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกเป็นการเร่งด่วน เพื่อรับทราบสถานการณ์และสั่งการให้กำลังพลออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ร่วมกับทุกภาคส่วน ผ่านกลไกของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก และศูนย์ประสานโครงการจิตอาสาพระราชทานกองทัพบก ระดมกำลังพล และเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงความพร้อมด้านการแพทย์จากโรงพยาบาลทหารของกองทัพบก เข้าช่วยเหลือประชาชนในทันที 

@@@…….นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือกำลังพลรวมทั้งครอบครัวควบคู่กันไปด้วย ล่าสุดกองทัพบกโดย กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ได้จัดกำลังช่วยเหลือในการอพยพประชาชนจากอาคารและ โรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมเปิดพื้นที่หน่วยรองรับผู้อพยพที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเป็นจุดรวมพล อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในบริเวณใกล้เคียง ได้มาใช้เป็นจุดพักคอยเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเป็นที่โล่งแจ้ง ห่างจากอาคารสูง โดยพื้นที่ดังกล่าว สามารถรองรับประชาชนได้มากถึง 5,000 คน ขณะที่ กองทัพเรือ….ผู้บัญชาการทหารเรือ สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ และหน่วยที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ให้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวทันที หากได้รับการแจ้งเหตุ โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ โทร. 1696

@@@….…กองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้จัดพิธีเปิดการฝึกผสม Blue Strike 2025 ณ ท่าเทียบเรือ Maxie เมืองจ้านเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีรองผู้บัญชาการทหารเรือ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประธานฝ่ายกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน และ พล.ร.ท.กรวิทย์ ฉายะรถี รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนกองทัพเรือ เป็น ประธานฝ่ายกองทัพเรือไทย พร้อมด้วย พลเรือตรี อารยะ สิงหเสมานนท์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบก และยุทธบริการ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม Blue Strike 2025 และกำลังพลหมู่เรือฝึกผสม Blue Strike 2025 รวมทั้งนักเรียนนายเรือได้เข้าร่วมพิธีเปิดการฝึก สำหรับการฝึกในครั้งนี้เป็นการฝึกผสมระดับทวิภาคี ระหว่างกองทัพเรือไทย กับ กองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ในด้านการฝึกการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HADR) และการปฏิบัติการทางเรือ รวมทั้งการฝึกทางยุทธวิธีของนาวิกโยธินในระดับหน่วยทหารขนาดเล็ก ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกองทัพเรือทั้ง 2 ชาติ

@@@…….ทั้งนี้ พล.ร.ท.กรวิทย์ ฉายะรถี รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนกองทัพเรือ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา เดินทางตรวจเยี่ยมหมู่เรือฝึกผสม Blue Strike 2025 บนเรือหลวงอ่างทอง บริเวณท่าเทียบเรือ Maxie เมืองจ้านเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี พล.ร.ต.อารยะ สิงหเสมานนท์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม Blue Strike 2025 และกำลังพลหมู่เรือฝึกผสม Blue Strike 2025 พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา และกำลังพลหมู่เรือฝึกผสม Blue Strike 2025 รวมทั้งนักเรียนนายเรือ ให้การต้อนรับ ในการนี้ ได้กล่าวให้โอวาทและมอบของที่ระลึกให้กับกำลังพล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึก

@@@……..ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (คณะกรรมการ ปชด.) เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา ณ กองบัญชาการกองทัพไทย โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ได้มีมติเห็นชอบให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจรับผิดชอบการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามเฉพาะด้าน ได้แก่ ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจด้านยาเสพติดทางบก ทางทะเล และทางท่าอากาศยานและคลังสินค้า (ฉก.331, ฉก.332 และ ฉก.333)

@@@…….ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2568 พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้ลงนามคำสั่งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามฯ ที่ 3/2568 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจสนับสนุนการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามฯ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

@@@…….กองบัญชาการกองทัพบก…. พล.อ.พนา แคล้วปลดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการประสานงานข่าวกับผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รุ่นที่ 9 ประจำปี 2568 โดยโรงเรียนข่าวทหารบก กรมข่าวทหารบก มีผู้สำเร็จการฝึกอบรม จำนวนทั้งสิ้น 86 คน ประกอบด้วย ข้าราชการทหาร-ตำรวจ, ข้าราชการพลเรือนและพนักงานรัฐวิสาหกิจ, สื่อมวลชนและภาคเอกชน โดย ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้เข้ารับการอบรม และได้กล่าวถึงสถานการณ์ของประเทศที่ต้องเผชิญกับความท้าทายกับความมั่นคงในหลายรูปแบบ จึงจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมงานด้านการข่าวของกองทัพให้มีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสถานการณ์ด้านความมั่นคงได้อย่างยั่งยืน และเชื่อมั่นว่าผู้ที่สำเร็จการฝึกอบรมในหลักสูตร จะเป็นส่วนสำคัญในงานด้านความมั่นคงของไทยเป็นพลังของสังคมและช่วยสนับสนุนการดำเนินงาน ของส่วนราชการทหารต่อไป ทั้งนี้ กองทัพบกได้เห็นความสำคัญจัดให้มีการฝึกอบรมหลักสูตรนี้อย่างต่อเนื่อง เข้าสู่ปีที่ 9 ซึ่งได้รับความสนใจจากภาครัฐและเอกชนเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกัน เกี่ยวกับงานข่าวกรองในทุกระดับ นำไปสู่การบูรณาการเครือข่ายด้านความมั่นคงที่ยึดมั่นต่อสถาบันหลักของชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

…………..

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส”