วันเสาร์, เมษายน 12, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTS"กองทัพบก" เผย 6 เดือน จับกุมยาเสพติดสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“กองทัพบก” เผย 6 เดือน จับกุมยาเสพติดสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา


ประชาชนทุกกลุ่มคัดค้านกฎหมาย “กาสิโน” ออกมาเคลื่อนไหว ด้าน “แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี บอกไม่รีบ ให้เป็นกระบวนการของสภาฯ

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 5 เม.ย.68 สถานการณ์การเมืองในเวลานี้ไม่มีอะไรจะร้อนไปกว่าการเร่งเอากฎหมายกาสิโนเข้าสภาให้เร็วที่สุด แต่เมื่อเจอประชาชนทุกฝ่าย ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ออกมาคัดค้าน ทางนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกเรื่องนี้ไม่รีบ ให้เป็นกระบวนการของสภาฯไป…ประวัติศาสตร์คงไม่ซ้ำรอย “ไปให้สุดซอย” ถ้าบ้านเมืองวุ่นวาย “ทหาร” พร้อมรักษาความสงบ    

@@@…….เรื่องของการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว…กองทัพอากาศจัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130) เชิญสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประกอบด้วย ยาและเวชภัณฑ์ เต็นท์นอน เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องปั่นไฟ ถุงพระราชทานสำหรับเด็ก และถุงพระราชทานสำหรับผู้ใหญ่ โดยมี นายมงคล วิศิษฏ์สตัมภ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เป็นผู้เชิญสิ่งของบรรเทาทุกข์พระราชทานส่งมอบให้แก่นาย U Soe Kyi รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสวัสดิการสังคม การบรรเทาทุกข์ และการตั้งถิ่นฐานใหม่เมียนมา ในฐานะผู้แทนรัฐบาลเมียนมาเป็นผู้รับมอบ 

@@@…….โดยเมียนมาจะนำไปมอบให้ศูนย์จัดการภัยพิบัติ (Disaster Management Center : DMC) เพื่อกระจายสิ่งของไปยังพื้นที่ต่างๆ และแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา กองทัพอากาศ พร้อมที่จะใช้ขีดความสามารถของกำลังทางอากาศ อาทิ กำลังพล อากาศยาน รวมทั้งยุทโธปกรณ์ในการสนับสนุน ช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย ทั้งในประเทศ และมิตรประเทศ เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขต่อไป

@@@…….กองบัญชาการกองทัพไทย โดยชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน (Medical Emergency Response Team – MERT) ได้ปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมในพื้นที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด โดยจัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อให้บริการตรวจรักษาโรคขั้นพื้นฐาน และสนับสนุนชุดมวลชนสัมพันธ์ในการดูแลประชาชนในพื้นที่ โดยหน่วยเคลื่อนที่เดินทางออกจากที่ตั้งและดำเนินการจัดตั้งคลินิกเคลื่อนที่ (Mobile Clinic)  ณ อาคารโครงเหล็กเบา 1 ชั้น ซึ่งยังคงแข็งแรงปลอดภัยจากแรงสั่นสะเทือน โดยจุดให้บริการตั้งอยู่บริเวณสถานปฏิบัติธรรม พิกัด 193828N 960637E ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

@@@…….ภารกิจครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น แต่ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของ กองทัพไทยในสายตาประชาชนเมียนมา โดยมีรายงานว่าประชาชนรู้สึกไว้วางใจและพึงพอใจในการให้บริการ พร้อมแสดงทัศนคติเชิงบวกต่อเจ้าหน้าที่ไทยอย่างชัดเจน นอกจากนี้ กองทัพไทยยังเตรียมจัดทำแนวทางการปฏิบัติทางการแพทย์ในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อส่งต่อให้เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเสริมความต่อเนื่องของการปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ

@@@…….ที่ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนหน้า (ศอ.ปชด.ส่วนหน้า) ได้ร่วมสังเกตการณ์การส่งกลับบุคคลสัญชาติจีนกลับประเทศต้นทาง โดยการดำเนินงานในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ได้แก่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 (ราชมนู) กองอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 และกองร้อยอาสารักษาดินแดนกองร้อยบังคับการและบริการจังหวัดตาก บุคคลสัญชาติจีนจำนวนทั้งสิ้น 375 คน ถูกส่งกลับผ่านสายการบินพาณิชย์ จำนวน 5 เที่ยวบิน

@@@…….โดยเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันอย่างเข้มงวดในการตรวจสอบประวัติบุคคล เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะนำตัวผู้ถูกผลักดันไปยังสนามบินนานาชาติแม่สอด เพื่อดำเนินการส่งกลับประเทศต้นทางอย่างปลอดภัยและเรียบร้อย ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรักษาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน และเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการจัดการกับปัญหาภัยคุกคามอย่างมีประสิทธิภาพ

@@@….…ที่กรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย จัดประชุมเพื่อติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจสนับสนุนการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ณ ห้องส่วนสั่งการและควบคุม (CAS) ชั้น 5 กองบัญชาการกองทัพไทย โดยมี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด / ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามชายแดน (ผอ.ศอ.ปชด.) เป็นประธาน การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ภัยคุกคามที่ส่งผลต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการ ปชด. และศูนย์อำนวยการ ปชด. เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนเชิงนโยบาย สู่การปฏิบัติในทุกระดับ โดยมุ่งเน้นให้มีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาหลัก ได้แก่ ปัญหายาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ โดยเน้นการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจน

@@@…….ในการประชุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้แก่ศอ.ปชด., ฉก.331, ฉก.332, ฉก.333 และฉก.88 พร้อมทั้งมีการหารือและเตรียมข้อมูลสำหรับนำเสนอต่อที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) อาทิ มาตรการบริหารจัดการช่องทางอื่นนอกจากที่ได้รับอนุมัติ (ท่าข้าม), การควบคุมการส่งออกสินค้าบางประเภท, การควบคุมการเคลื่อนไหวของชาวต่างชาติในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก, มาตรการระงับสัญญาณโทรคมนาคมผ่านเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optics)

@@@…….โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด/ผอ.ศอ.ปชด. ได้เน้นย้ำให้นำแนวทางนโยบายไปปฏิบัติอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ ฉก.331 : ดำเนินการด้านข่าวกรองร่วมกับ ศรภ. และ ขกท. เฝ้าติดตามและสกัดกั้นขบวนการลำเลียงยาเสพติด พร้อมควบคุมการขนส่งสารตั้งต้นข้ามแดน ฉก.332 : เข้มงวดในการตรวจค้นยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ในท่าเรือและเรือส่งออก ฉก.333 : ใช้โครงสร้างกำกับดูแลทั้ง 15 สนามบิน ตรวจสอบช่องว่างของกฎหมายที่อาจใช้ในการลักลอบในช่องทางของคลังสินค้า ฉก.88 : เสนอแนวทางการบังคับใช้กฏหมายในการลงโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน และการปฏิบัติงานภายใต้คำสั่งของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาภัยคุกคามอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

@@@…….กองทัพบก…พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปร่วมพิธีวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ครบรอบปีที่ 116 โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในพิธี โดยผู้บัญชาการทหารบกได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2567 ที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบกได้พิจารณาคัดสรรศิษย์เก่า ผู้ซึ่งมีความรู้ความสามารถ ทั้งในด้านการปฏิบัติงาน, การบริหารจัดการ และการปกครองบังคับบัญชา สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยในปีนี้มีผู้เข้ารับรางวัลรวม 2 ท่าน ได้แก่ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สำเร็จการศึกษาหลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบกชุดที่ 75 ได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นประจำปี 2566 และ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก สำเร็จการศึกษาหลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบกชุดที่ 77 ได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นประจำปี 2567

@@@…….สำหรับโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2452 โดยมีจอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เป็นผู้ทรงวางรากฐานโดยเป็นสถาบันการศึกษาทางทหารที่ผลิตผู้บังคับบัญชาและฝ่ายเสนาธิการหลักของกองทัพ รวมทั้งสนับสนุนทางวิชาการแก่หน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกกองทัพบก รับผิดชอบการฝึกสอนในหลักสูตรทางทหารที่สำคัญหลายหลักสูตร อาทิ หลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก, หลักสูตรการบริหารความมั่นคงการทัพบก (บมท.), หลักสูตรนายทหารบกอาวุโส (นบส.), หลักสูตรพัฒนาองค์ความรู้การก่อการร้ายและการก่อความไม่สงบสำหรับผู้บริหาร (พรส.) และหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิตด้านความมั่นคง เป็นต้น      

@@@…….ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้เผยข้อมูลการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนของกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ผู้บัญชาการทหารบก มอบให้หน่วยทหารบูรณาการและปฏิบัติร่วมกับส่วนราชการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่รัฐบาลเริ่มเปิดปฏิบัติการ Seal Stop Safe ในพื้นที่ 14 จังหวัด 51 อำเภอชายแดน กองทัพบกในฐานะกำลังหลักในภารกิจการป้องกันชายแดน ได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยที่เกี่ยวข้องผ่านกลไกหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ (นบ.ยส.) และ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) พร้อมจัดกำลังป้องกันชายแดนเพิ่มเติม จำนวน 6 หมวด  (เจ้าหน้าที่ 240 อัตรา) ตามที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงกลาโหม ควบคู่กับการประสานความร่วมมือกับกองทัพประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกคณะกรรมการชายแดนในระดับต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว

@@@…….จากสถิติในห้วง 6 เดือนที่ผ่านมา (1ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568) กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบกสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในคดียาเสพติดได้ 878 ครั้ง ผู้ต้องหา 1,142 คน ยึดยาบ้า 267,242,467 เม็ด, ไอซ์ 14,815 กิโลกรัม, ยาอี 5,163 เม็ด, เฮโรอีน 467 กิโลกรัม, คีตามีน 1,352 กิโลกรัม, ฝิ่น 45 กิโลกรัม และโคเคน 14 กิโลกรัม  ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับสถิติในช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา (1ตุลาคม 2566 – 31 มีนาคม 2567) พบว่ามีการจับกุมเพิ่มขึ้น 83 ครั้ง ตรวจยึดยาบ้ามากขึ้น 113 ล้านเม็ด, ไอซ์กว่า 13,000 กิโลกรัม และพบการลักลอบขนยาอีและคีตามีน มากขึ้นอย่างชัดเจน โดยพบว่ากลุ่มขบวนการใช้การลำเลียงผ่านเส้นทางในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก

@@@…….ในส่วนของสถิติการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา (1ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568) สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมือง รวม 5,420 คน ผู้นำพา 233 คน จากสัญชาติต่างๆ ได้แก่ เมียนมา 2,744 คน, กัมพูชา 1,417 คน, จีน 468 คน, ลาว 315 คน, เอธิโอเปีย 190 คน, อินโดนีเซีย 84 คน, บังกลาเทศ 56 คน เป็นต้น ซึ่งจากการเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาพบว่ามียอดการลักลอบเข้าเมืองใกล้เคียงกัน โดยพบการลักลอบเข้าเมืองจำนวนมากในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

@@@…….กองทัพเรือ….ระหว่างวันที่ 26 มี.ค. – 2 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา กองทัพเรือ และ กองทัพเรือสาธารณประชาชนจีน ได้ดำเนินการฝึกการปฏิบัติการผสมระดับยุทธวิธีทางเรือ และ นาวิกโยธิน ในการฝึกผสม Blue Strike 2025 โดยแบ่งการฝึกออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย 1) การฝึกในท่า (Harbour Phase)  ณ ค่ายหนานถิง และ เกาะหนานซาน เมืองจ้านเจียง สาธารณประชาชนจีน โดยเป็นการฝึกของกองกำลังทางเรือ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนความรู้ของผู้เชี่ยวชาญในสาขาปฏิบัติการทางเรือต่างๆ การแปรรูปกระบวนทางยุทธวิธี การพัฒนาขีดความสามารถในการป้องกันภัยทั้ง 3 มิติ และการบรรเทาสาธารณภัย สำหรับการฝึกของนาวิกโยธิน  ได้แก่ การฝึกยุทธวิธีทหารราบและทหารราบยานเกราะ การป้องกันนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี การค้นหาและการต่อต้านวัตถุระเบิด การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญในการใช้อากาศยานไร้คนขับในการรวบรวมข่าว การต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ และ การใช้และซ่อมบำรุงรถ VN16 

@@@……. 2) การฝึกในทะเล (Sea Phase)   บริเวณทะเลเกาะหนานซาน เมืองจ้านเจียง สาธารณประชาชนจีน โดยเป็นการฝึกของกองกำลังทางเรือ ได้แก่ การฝึกแปรกระบวนและถ่ายภาพทางยุทธวิธี การฝึกป้องกันภัยผิวน้ำ การฝึกกู้ภัยเรือดำน้ำ การฝึกต่อต้านอากาศยาน การฝึกค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย การฝึกปราบเรือดำน้ำ  และการดำน้ำค้นหาและพิสูจน์ทราบวัตถุต้องสงสัยใต้น้ำ สำหรับการฝึกของนาวิกโยธิน  ได้แก่ การฝึกเคลื่อนย้ายกำลังพลสู่ฝั่งในภารกิจบรรเทาสาธารณภัย

@@@…….ทั้งนี้ การฝึกผสมดังกล่าว นับเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้แลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีทางทหาร ตลอดจนยุทธวิธีใหม่ ๆ ซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากองทัพเรือของทั้งสองประเทศในอนาคต ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสาธารณประชาชนจีน ในการปฏิบัติการร่วมกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความมั่นคงในภูมิภาคและภาพลักษณ์ของทั้งสองประเทศในเวทีระหว่างประเทศ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับประชาชน.

…………..

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img