“….กองทัพร่วมกับหน่วยงานต่างๆจัดตั้งจุดบริการประชาชนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สัญจรและเดินทางกลับภูมิลำเนาตามเส้นทางหลัก และเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยงหรือพบอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เม.ย.68 ตลอด 24 ชั่วโมง รวม 70 จุด ทั่วประเทศ…”
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 12 เม.ย.68 ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาและเที่ยวต่างจังหวัด ก็ขอให้ขับรถอย่างระมัดระวัง และเดินทางปลอดภัยช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์
@@@…….กองทัพบก… โดย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้สั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศบูรณาการร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา และสาธารณสุขในพื้นที่ จัดตั้งจุดบริการประชาชนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สัญจรและเดินทางกลับภูมิลำเนาตามเส้นทางหลัก และเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยงหรือพบอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เม.ย.68 ตลอด 24 ชั่วโมง ในพื้นที่ กรุงเทพและปริมณฑล 7 จุด ภาคเหนือ 11 จุด ภาคกลาง 15 จุด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จุด ภาคตะวันออก 7 จุด ภาคตะวันตก 13 จุด และภาคใต้ 4 จุด รวม 70 จุด ทั่วประเทศ
@@@…….สำหรับจุดบริการประชาชนของกองทัพบกนั้น ให้บริการประชาชนแบบครบวงจร โดยจัดตั้งเป็นจุดพักรถ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อาทิ น้ำดื่ม, ผ้าเย็น, กาแฟ, อุปกรณ์ช่าง, อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์ และห้องสุขา เพื่อให้ประชาชนผู้สัญจรไปมาได้หยุดแวะพัก คลายความเหนื่อยล้าระหว่างการเดินทาง ขณะเดียวกันได้มีการจัดเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยแนะนำเส้นทาง เจ้าหน้าที่เสนารักษ์ช่วยดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้น กำลังพลจิตอาสาที่พร้อมให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยในภาพรวม นอกจากนี้ ยังจัดตั้งเป็น “จุดรับแจ้งเหตุ” เพื่อรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย และให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที สงกรานต์ปีนี้ เดินทางปลอดภัย สุขใจตลอดทุกเส้นทาง กองทัพบกพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชน
@@@…….ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ จัดกิจกรรม “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ร่วมกับจังหวัดปทุมธานี โดยมี นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีเปิดฯ และ พลอากาศตรี อภิรัตน์ รังสิมาการ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ผู้แทนกองทัพอากาศร่วมพิธีเปิดฯ ณ จุดบริการประชาชนบริเวณท่าจอดรถขาออกต่างจังหวัด (ตรงข้ามศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต) อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้ประสานการปฏิบัติงานร่วมกับจังหวัดปทุมธานี ตั้งจุดบริการประชาชน โดยจัดให้มีการบริการตรวจสอบสภาพรถยนต์ เครื่องยนต์และแก้ไขปัญหาเบื้องต้น การให้บริการห้องสุขาและรถสุขาเคลื่อนที่ การให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม ของขบเคี้ยว และผ้าเย็น การให้บริการสอบถามเส้นทาง การให้บริการด้านการแพทย์ และการให้บริการชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น
@@@…….กองบัญชาการกองทัพไทย….พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการกำหนดนโยบายการพัฒนากำลังพลด้านการศึกษาอบรมและการฝึกของกระทรวงกลาโหม ครั้งที่ 2/2568 ณ ห้องประชุมกองบัญชาการกองทัพไทย โดยมีผู้แทนจากเหล่าทัพ หน่วยงานด้านการศึกษา และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อวางแผนขับเคลื่อนนโยบายภาพรวมการศึกษาอบรมและการฝึกของกระทรวงกลาโหมสู่การพัฒนากำลังพลของกองทัพอย่างเป็นรูปธรรม ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง เชื่อมโยงทั้งการพัฒนากำลังพลด้านการศึกษาวิชาทหาร และความมั่นคงทั้งในประเทศและต่างประเทศ การฝึกอบรมหลักสูตรตามแนวทางรับราชการหลักสูตรทางทหาร และหลักสูตรความมั่นคงอื่นๆ ตลอดจนนโยบายที่เกี่ยวกับการพัฒนากำลังพลด้านการฝึก การฝึกร่วม การฝึกร่วม/ผสม การพัฒนาการปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพในหลายมิติ (Multi- Domain Operations) การปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือจากสงคราม และการปฏิบัติทางทหารอื่น ๆ ตลอดจนการรองรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางไซเบอร์ การใช้เทคโนโลยีไร้คนขับ (UAS) และการฝึกร่วมกับมิตรประเทศ
@@@…….ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาแนวทางการบูรณาการหลักสูตร “ต้านทุจริตศึกษา” ของสำนักงาน ป.ป.ช. เข้ากับหลักสูตรการฝึกอบรมของกระทรวงกลาโหมในทุกระดับ รวมถึงหารือแนวทางการจัดการศึกษาร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่จะร่วมกันพัฒนาหลักสูตร วิจัย และพัฒนาบุคลากร โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เน้นย้ำให้คณะกรรมการทุกฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการปรับเปลี่ยนทิศทางการพัฒนากำลังพลของกระทรวงกลาโหมให้มีกรอบแนวทางที่ทันสมัย มีความพร้อมในการเผชิญกับทุกมิติด้านความมั่นคง ตามนโยบายการพัฒนากำลังพลด้านการศึกษาอบรมและการฝึกของกระทรวงกลาโหม พร้อมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และการสร้างภูมิคุ้มกันทางปัญญาให้กับกำลังพลทุกระดับ เพื่อให้กองทัพไทยก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการฝึก การศึกษา และการดำรงไว้ซึ่งความเป็นทหารอาชีพ ที่มีศักยภาพของชาติอย่างยั่งยืน
@@@….…สำหรับภารกิจกู้ภัย รื้อถอนซากอาคารถล่ม…..พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจกำลังพลและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ซากอาคาร สตง. ที่ถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 28 มี.ค.68 ที่ผ่านมา โดยกองทัพบกได้ส่งกำลังพล เครื่องมือ และยุทโธปกรณ์อย่างเต็มศักยภาพเข้าสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันเกิดเหตุมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันจัดกำลังพล รวม 185 นาย จากกองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์, กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์, มณฑลทหารบกที่ 11, กองพันทหารสารวัตรที่ 11, กองพันทหารสื่อสารที่ 21 กองทัพภาคที่ 1, กรมการสัตว์ทหารบก, กรมการทหารช่าง และกองร้อยปฏิบัติการจิตวิทยาที่ 1 พร้อมทั้งนำยานพาหนะและยุทโธปกรณ์ จำนวน 31 คัน เข้าสนับสนุนภารกิจกู้ภัย รื้อถอนซากอาคาร และค้นหาผู้รอดชีวิต ร่วมกับสำนักงานเขตจตุจักร, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, อาสากู้ภัย, จิตอาสา และส่วนราชการอื่น ๆ
@@@…….ปัจจุบันในพื้นที่เก็บกู้มีการดำเนินการต่าง ๆ อาทิ การกำจัดซากคอนกรีตอัดแรง ด้วยรถบดหินตัดเหล็กและรถโกยตักทหาร, การลดปริมาณฝุ่นจากการรื้อถอนด้วยการพ่นละอองน้ำ โดยรถดับเพลิงในอาคารด้วยระบบควบคุมระยะไกล (LUF 60) และรถดับเพลิงของกองทัพบก, การขนย้ายเศษซากคอนกรีตและเศษเหล็กไปทิ้งเพื่อเปิดพื้นที่ปฏิบัติงาน โดยใช้รถยนต์บรรทุกสิบตัน, การสนับสนุนชุดช่างซ่อมบำรุงเคลื่อนที่ให้เครื่องมือช่างและเครื่องจักรสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งส่องสว่างพื้นที่ปฏิบัติงานด้วยรถส่องสว่าง, การวางกำลังปิดกั้นพื้นที่โซนสีต่าง ๆ, การจัดชุดเฝ้าระวังการเคลื่อนตัวของซากอาคารที่อาจก่อให้เกิดอันตรายระหว่างการปฏิบัติงานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน, การบริหารจัดการพื้นที่ โดยการจัดเตรียมที่พัก พื้นที่จ่ายอาหารและน้ำดื่ม พื้นที่รักษาพยาบาล และพื้นที่ปฏิบัติการสำหรับหน่วยงานต่าง ๆ, การจัดตั้งโรงครัวพระราชทานแจกจ่ายอาหารแก่ผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่, การจัดเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารอำนวยความสะดวกด้านการจราจรร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการสนับสนุนโดรน และกล้องจับความเคลื่อนไหวค้นหาผู้ประสบภัยและร่างผู้เสียชีวิต
…………..
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย.. “รหัสมอร์ส”
