“กองทัพบก” ฝึกกรม ร.ผสมพร้อมรบเต็มรูปแบบ

“……ประชุมผบ.เหล่าทัพนำเสนอผลงาน กองทัพไทยเสนอแนวทางการพัฒนาการปฏิบัติการพิเศษร่วม เพื่อรับมือภัยคุกคามที่มีขอบเขตมากขึ้น…” 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 19 เม.ย.68 หลังจากที่รัฐบาลประกาศวันหยุดเพื่อให้ประชาชนได้กลับไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ หรือ “วันปีใหม่ไทย” เป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ามาทำงานตามปกติ  

@@@…….กองบัญชาการกองทัพเรือ จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 โดยมี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวขอบคุณเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจในการสนับสนุนรัฐบาลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข็มแข็งในงานด้านความมั่นคงตลอดห้วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งการดูแลความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ชุมชน การอำนวยความสะดวกในการสัญจร ตลอดจนเฝ้าระวังป้องกันยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และความสงเรียบร้อยโดยรอบบริเวณชายแดน รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่าง ๆ อาทิ การนำกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าช่วย ณ อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เขตจตุจักร และประเทศเพื่อนบ้านที่เสียหายจากภัยพิบัติ 

@@@…….ที่ประชุมฯได้รับทราบแนวทางการพัฒนาการปฏิบัติการพิเศษร่วมกันทุกเหล่าทัพ โดยมีสาระสำคัญดังนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย นำเสนอแนวทางการพัฒนาการปฏิบัติการพิเศษร่วม โดยได้เตรียมความพร้อมหน่วยปฏิบัติการพิเศษของทุกเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สามารถรับมือภัยคุกคามที่มีขอบเขต เพิ่มมากขึ้น ทั้งมิติการรบและมิใช่การรบ โดยพัฒนาให้มีความทันสมัยและมีความพร้อมตั้งแต่ภาวะปกติ และสามารถยกระดับการปฏิบัติการเมื่อเข้าสู่ภาวะสงคราม ตลอดจนมีความพร้อมในการสนับสนุนภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ในบทบาทสำคัญในหลายภารกิจ อาทิ การอพยพประชาชนจากต่างประเทศ การแก้ไขสถานการณ์การก่อเหตุร้าย การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติการพิเศษร่วม โดยมีการดำเนินการที่สำคัญ ประกอบด้วย การเตรียมกำลัง เตรียมความพร้อมการปฏิบัติภารกิจของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ โดยจัดทำบัญชีพร้อมเรียกปฏิบัติงาน (On Call List) ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษของทั้งเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรองรับสถานการณ์การก่อเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา 

@@@…….รวมถึงเตรียมการพัฒนาศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล สู่การเป็นสถาบันป้องกันและตอบโต้สถานการณ์วิกฤตนานาชาติ (International Crisis Prevention and Response Academy: ICPRA) ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมความรู้และเป็นสายวิทยาการด้านการต่อต้านการก่อการร้ายของไทย รวมถึงสร้างความร่วมมือทางวิชาการในการฝึกอบรมกับมิตรประเทศให้สอดคล้องตามนโยบายการปฏิบัติการพิเศษร่วม ตลอดจนพัฒนาหน่วยไปสู่ความทันสมัย สามารถตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ระดับชาติ มุ่งเน้นการบูรณาการกำลังระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคง การพัฒนาด้านการฝึกศึกษา การพัฒนาระบบสนับสนุนการฝึกอบรม เพื่อรองรับการเป็นหน่วยสายวิทยาการด้านการรับมือสถานการณ์วิกฤต สร้างภูมิคุ้มกันในการรับมือการก่อการร้าย และสถานการณ์วิกฤตอื่น ๆ

@@@…….การใช้กำลังในการป้องกันประเทศดำเนินการตามแผนป้องกันประเทศ โดยบูรณาการกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เป็นหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษร่วม หรือ ฉก.ปพ.ร่วม ในขั้นตอบโต้ โดยมีหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) เป็นหน่วยหลักในการจัดตั้ง ร่วมด้วย กำลังจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (นสร.กร.) กรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน (กรม ปพ.อย.) และตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เพื่อบูรณาการการปฏิบัติการพิเศษตั้งแต่ภาวะปกติ และพร้อมสำหรับภาวะฉุกเฉิน รวมถึงภาวะสงคราม ในการพัฒนาขีดความสามารถร่วมของกองทัพไทย  

@@@…….กองทัพเรือ บรรยายสรุปในหัวข้อ “การปฏิบัติการพิเศษของกองทัพเรือ” โดยในปัจจุบันมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการพิเศษร่วม คือ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือ นสร.กร. ทำหน้าที่จัดและเตรียมกำลังสำหรับปฏิบัติการสงครามพิเศษทางเรือ การปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือจากสงคราม และปฏิบัติกิจพิเศษที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งการฝึกและศึกษาเกี่ยวกับสงครามพิเศษทางเรือ โดยมีขีดความสามารถที่สำคัญประกอบด้วย การปฏิบัติการโดยตรง การลาดตระเวนพิเศษ ปฏิบัติการกองโจร การปราบปรามการก่อการร้าย ตลอดจนการปฏิบัติการพิเศษอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย อาทิ การถวายความปลอดภัยทางน้ำ และการช่วยเหลือผู้ประสบภัย การใช้กำลังของหน่วยในภาวะปกติ มีการจัดชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือ ชปพ. ออกปฏิบัติราชการ ในหน่วยเฉพาะกิจต่าง ๆ ของกองทัพเรือ

@@@…….กองทัพอากาศ นำเสนอการปฏิบัติการพิเศษร่วม ครอบคลุมใน 2 หัวข้อ ได้แก่ การเตรียมกำลังและใช้กำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ โดยมีกรมปฏิบัติการพิเศษ จำนวน 3 กองพัน ซึ่งมีหน้าที่และความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน ขึ้นตรงการปฏิบัติกับหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ซึ่งมีหน้าที่เตรียมกำลังปฏิบัติการพิเศษ และปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบตามอำนาจหน้าที่ของกองทัพอากาศ ภายใต้การบังคับบัญชาของ ผู้บังคับการกรมปฏิบัติการพิเศษ ประกอบด้วย กองพันปฏิบัติการพิเศษ 1 บรรจุเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด มีภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย การรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ การการรักษาความปลอดภัยบนอากาศยานขณะทำการบิน

@@@…….กองพันปฏิบัติการพิเศษ 2 บรรจุเจ้าหน้าที่ค้นหาและช่วยชีวิต หรือ PJ มีภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอากาศยาน อุบัติเหตุหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน การค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบและการช่วยเหลือประชาชนและกองพันปฏิบัติการพิเศษ 3 บรรจุเจ้าหน้าที่ควบคุมการรบ หรือ CCT มีภารกิจ ควบคุมการโจมตีทางอากาศในพื้นที่การรบ และสนับสนุนการปฏิบัติการลำเลียงทางอากาศยุทธวิธี โดยในปัจจุบันกองทัพอากาศได้จัดกำลังปฏิบัติการพิเศษร่วมกองทัพไทย จำนวน 2 หน่วย ได้แก่ กองพันปฏิบัติการพิเศษ 1 ในการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด ในภารกิจปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ระวัง และกองพันปฏิบัติการพิเศษ 2 ในภารกิจสนับสนุนการช่วยเหลือประเทศเมียนมา

@@@…….การบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยปฏิบัติการพิเศษ  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการพิเศษร่วมในการประสานการดำเนินงานของกองกำลังทางอากาศ ทางบก ทางทะเล อวกาศ มิติไซเบอร์และหน่วยปฏิบัติการพิเศษอย่างประสานสอดคล้อง ซึ่งจะสามารถบรรลุภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีคุณภาพกว่าการทำงานแบบแยกส่วน อันจะนำไปสู่ความพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามทุกมิติที่จะเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน และความมั่นคงของราชอาณาจักร ระงับยับยั้ง แก้ไข คลี่คลายสถานการณ์การก่อความไม่สงบภายในประเทศ ตามอำนาจหน้าที่รวมทั้งสนับสนุนหน่วยงานอื่น ๆ ที่รัฐบาลให้อำนาจตามที่มีกฎหมายบัญญัติ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยภายในประเทศและเกิดความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน จึงได้ดำเนินการพัฒนาขีดความสามารถในหัวข้อเรื่อง “การปฏิบัติการพิเศษร่วมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” 

@@@…….โดยมี หน่วยปฏิบัติการพิเศษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่น หน่วยคอมมานโด (Commando) หน่วยหนุมาน กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้ายอรินทราช 26  ทำหน้าที่หลักในการเป็นชุดจู่โจม ปิดล้อมตรวจค้น และการปฏิบัติการพิเศษร่วมในเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะตำรวจพลร่มชุดกู้ภัย จากกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้ร่วมกับหน่วยกู้ภัยจากทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่ของหน่วยราชการและอาสาสมัคร เดินหน้าปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอาคารถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว (อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน : สตง.) เขตจตุจักร สำหรับการเข้าทดสอบขีดความสามารถของหน่วยที่ผ่านมา ได้ส่งทีมปฏิบัติการพิเศษเข้าร่วมการแข่งขัน UAE SWAT CHALLENGE ชิงความเป็นสุดยอดทีมหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยปฏิบัติการพิเศษในการคลี่คลายสถานการณ์ อาชญากรรมที่มความรุนแรง ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพล โดยการนำองค์ความรู้ใหม่ ๆ มาปรับใช้ในการฝึกหลักสูตรต่าง ๆ นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อลดการสูญเสียของกำลังพล และเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ ต่อไป 

@@@…….กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) เป็นประธานการประชุมเพื่อหารือแนวทางการส่งชาวต่างชาติกลับประเทศต้นทาง ในการประชุมมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ได้แก่ ฝ่ายเลขาฯ ศอ.ปชด., กองกำลังเฉพาะกิจราชมนู, กระทรวงการต่างประเทศ, สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก, ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก และศอ.ปชด.กองทัพภาคที่ 3

@@@……โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงสถานการณ์ และวางแผนประสานงานในการส่งตัวชาวต่างชาติกลับประเทศต้นทาง ที่ประชุมได้เน้นย้ำแนวทางปฏิบัติตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญ อาทิ การควบคุม/จำกัดการเดินทางของชาวต่างชาติในพื้นที่ชายแดนไทย–เมียนมา การประสานกับประเทศต้นทางและองค์กร NGO ให้เป็นไปตามกฎหมาย การจัดทำแผนการเคลื่อนย้ายรายวัน การเฝ้าระวังกรณีมีการหลบหนีข้ามแดน และการควบคุมการส่งสินค้าบางประเภทไปยังพื้นที่เป้าหมาย ภายใต้อำนาจตามพระราชกำหนดนอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนด Timeline สำหรับการประชุมในห้วงถัดไป เพื่อดำเนินการตามมติ สมช. ทั้งในส่วนของการขับเคลื่อนมาตรการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานสากล /ท่าเรือสากล ตลอดจนการประชุมร่วมกับฝ่ายกฎหมายและหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ

@@@…….กองทัพบก พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่มอบให้ทุกหน่วยทหารยึดถือเป็นสำคัญ คือ “การฝึกให้พร้อมต่อทุกภัยคุกคาม” มุ่งเน้นจัดให้มีการฝึกอย่างมีประสิทธิภาพในทุกระดับ โดยเฉพาะการฝึกระดับกรม ล่าสุดในห้วง 15 -22 เม.ย.68 นี้ กองทัพบก โดยกองพลทหารราบที่ 11 (พล.ร.11) ดำเนินการฝึกภาคสนาม ระดับกรมทหารราบผสม (Brigade Combat Team – BCT) ณ สนามยิงปืนบ้านดีลัง จ.ลพบุรี เพื่อพัฒนาขีดความสามารถให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบ และปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศของกองทัพบก โดยมีหน่วยขึ้นตรงของ ทภ.1 ประกอบด้วย ร้อย.ม.ลว.1, ม.พัน.4, ช.พัน.1, พัน.สร.1, กอง.พธ.1, ป.1 พัน.11 รอ., ร้อย.สห.3 พัน.สห.12 และ ร้อย.ลว.ไกล 1 และนขต.ทบ. ประกอบด้วย พัน.บ.ฉก. (ศบบ.), ร้อย.ปตอ. (นปอ.), ร้อย.ขกท. (ขกท.), ร้อย.คปม. (พล.ป.) และ ร้อย.วศ. (วศ.ทบ.) เข้าร่วมในการฝึกครั้งนี้ด้วย  

@@@….…พล.ร.11 ถือเป็นกองพลทหารราบยานเกราะ ที่มีการเสริมสร้างหน่วยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความพร้อมในการป้องกันประเทศและปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ของกองทัพบก ได้อย่างเต็มขีดความสามารถ และยังเป็นหน่วยต้นแบบในการใช้กำลังเข้าทำการรบในรูปแบบของกรม ร.ผสม และสามารถปฏิบัติการทางทหารร่วมกับกองทัพมิตรประเทศ อาทิ การฝึกร่วม/ผสม Cobra Gold 2025 และการฝึกผสม Hanuman Guardian 2025 เป็นต้น ทั้งนี้ ในวันที่ 21 เม.ย.68 กองทัพบกได้เรียนเชิญ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี/ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ร่วมคณะตรวจเยี่ยมและรับชมการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (Live Fire Exercise) สาธิตการบูรณาการกำลังรบจากหน่วยขึ้นตรงจากกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพบก และรับชมปฏิบัติการร่วมในรูปแบบ กรม ร.ผสม ซึ่งถือเป็นการฝึกโครงสร้างหลักของหน่วยรบยานเกราะที่ทันสมัยเต็มรูปแบบ ซึ่งสอดคล้องและเป็นไปตามวิสัยทัศน์ “กองทัพบกที่มีศักยภาพ ทันสมัย เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน และเป็นที่หนึ่งในกองทัพบกชั้นนำในภูมิภาค” ต่อไป

…………..

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส”