วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS“บิ๊กทหาร”ยัน“งบกองทัพ”มีความจำเป็นด้านป้องกันประเทศ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“บิ๊กทหาร”ยัน“งบกองทัพ”มีความจำเป็นด้านป้องกันประเทศ

“บิ๊กตู่” แจงสภาฯ งบกองทัพมีความจำเป็นในการจัดหาอาวุธ ยุทโธปกรณ์ ด้าน “บิ๊กช้าง” ยันเรื่องของยุทโธปกรณ์มีความจำเป็นต่อทุกเหล่าทัพ  

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 4 มิ.ย. 2565 เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก็เข้าสู่กลางปีแล้ว ช่วงนี้เป็นเรื่องของการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.185  ล้านล้านบาท วาระแรก โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯถึงความจำเป็นในการจัดงบซื้อยุทโธปกรณ์ สำหรับกองทัพ

นายกฯร่วมการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 66

@@@…….พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า มีความจำเป็นต้องจัดหาจัดซื้อตามความจำเป็น โดย 2 ปีที่ผ่านมา ลดงบประมาณไปมาก แต่ขอให้เห็นใจว่าทำในเรื่องเหล่านี้ต้องวางแผนล่วงหน้า เตรียมงบประมาณ ฝึก ใช้ เพราะไม่สามารถรอให้ยุทโธปกรณ์หมดอายุถึงจัดหาได้ เพราะต้องใช้เวลา วันนี้ผมไม่อาจพูดได้ว่า ประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มยุทโธปกรณ์มากน้อยแค่ไหน หากตามดูจะรู้  ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใคร ต้องพึ่งตนเอง หากไม่  ซื้อจะอยู่อย่างไร

@@@…….ขณะที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงที่ประชุมสภาเช่นเดียวกันว่า การดำเนินการจัดทำงบกระทรวงกลาโหม ยึดถือเป้าหมายที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และแผนปฏิบัติการของกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะต้องมีการเตรียมกำลังไว้ให้พร้อม กำลังพล หลักนิยม เรื่องการปฏิบัติ การฝึกศึกษายุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอในการใช้กำลงปฏิบัติภารกิจของประเทศรักษาความมั่นคง และผลประโยชน์ของชาติ และงบของกระทรวงฯตั้งแต่ปี 63,64 จนถึงปัจจุบัน กระทรวงฯได้รับการจัดสรรงบประมาณลดลงทุกปี และงบปี66 กระทรวงฯได้รับการจัดสรรงบ 197,292 ล้านบาท ลดลงจากปี 65 จำนวน 4,373 ล้านบาท

@@@…….เรื่องของยุทโธปกรณ์ ความต้องการเครื่องบินขับไล่โจมตี โดยแบบได้มีคณะกรรมการคัดเลือก ก่อนที่จะจัดหายุทโธปกรณ์ ทุกเหล่าทัพจะต้องตั้งคณะกรรมการคัดเลือกแบบให้ตรงกับความต้องการในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพมากที่สุด เหตุผลที่จัดหาเพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่โจมตีที่ใช้มานาน และเก่ามาก บางเครื่องอายุ 41 ปี เฉลี่ยที่มีอยู่อายุ 28 ปี เริ่มมีการปลดประจำการตั้งแต่ปี 64 และจะปลดประจำการไปเรื่อย ๆ จนถึงปี 74 ทำให้กองทัพอากาศเหลือเครื่องบินขับไล่โจมตีอยู่ 1 ใน 3 ของอัตราทำให้ประเทศมีความเสี่ยงในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และปกป้องน่านฟ้า และแบบที่คัดเลือกมาใหม่งบปฏิบัติการใกล้เคียงกับแบบที่กองทัพอากาศมีอยู่ในปัจจุบันโดยระบบอาวุธของเครื่องบินขับไล่โจมตีที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถใช้กับแบบเครื่องบินที่จะจัดหาใหม่ได้ เพราะเป็นเครื่องบินในลักษณะตระกูลเดียวกัน

@@@…….สำหรับโครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับประจำฐานบินชายฝั่งกองทัพเรือทางกองทัพเรือได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดซื้อกำหนดคุณลักษณะเฉพาะตามความต้องการของทางยุทธการ เรื่องการลาดตระเวนในน่านน้ำ การป้องกันภัยพิบัติในทะเลโครงการนี้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมการจัดทำข้อตกลงคุณธรรมประจำงบประมาณ 2565 โดยคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต ได้จัดคณะผู้สังเกตการจากองค์กรต่อต้านการทุจริต เข้าร่วมตั้งแต่เริ่มจนสิ้นโครงการ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ 

@@@…….ส่วนการจัดหาเรือดำน้ำ ของกองทัพเรือนั้น เป็นการดำเนินการโดยรัฐบาลต่อรัฐบาล ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับทางราชการและมติ ครม.ที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีที่จีนไม่สามารถจัดหาเครื่องยนต์ MTU ตามที่กำหนดไว้ในสัญญานั้น กองทัพเรือไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้ได้ประสาน และเชิญผู้แทนหรือเจ้าของบริษัทผู้ผลิตมาร่วมหาทางออกในการแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว ซึ่งกองทัพเรือยืนยันว่าจะต้องดำเนินการไปตามสัญญาและข้อตกลง รวมทั้งระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ คิดว่าในเดือนนี้ทางบริษัทผู้ผลิตจะจัดส่งเจ้าหน้าที่มาประสานงานกับทางกองทัพเรือ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเตรียมกำลังพลเพื่อรักษาความมั่นคงและรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ได้เตรียมไว้รบกับใคร

@@@…….อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง มองว่า การประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566  พรรคร่วมฝ่ายค้านยังคงอภิปรายแสดงความคิดเห็นต่อร่างพ.ร.บ.ฯดังกล่าว ด้วยทัศนคติเชิงลบในทุกมิติ ด้วยวาทกรรมรุนแรง เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ การจัดทำร่างพ.ร.บ.ฯฉบับนี้ ของรัฐบาล โดยพยายามสะท้อนให้เห็นว่าไม่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และประเทศชาติ ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าการอภิปรายของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านมีท่าทีไม่ต่างไปจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการมุ่งให้ร้ายโจมตี และสร้างความเกลียดชังให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นสำคัญ โดยจะเห็นได้จากการอภิปรายของส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เชื่อมโยงโจมตีนายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหม ผ่านการวิพากษ์วิจารณ์การจัดสรรงบประมาณ ในส่วนของกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพ 

@@@…….ทั้งนี้ ความมั่นคงด้านการป้องกันประเทศ เป็นเรื่องสำคัญยิ่งของชาติ การใช้งบประมาณสำหรับความมั่นคงด้านป้องกันประเทศเพียง 1.5% GDP นั้น ถือว่าน้อยมาก และไม่ได้มากเกินความจำเป็นตามที่อภิปรายกันแต่อย่างไร รวมทั้งในทางทหารแล้ว ด้วยวงเงินงบลงทุนด้านการป้องกันประเทศจำนวนที่เสนอนั้น อาจถือได้ว่า ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ไม่ใส่ใจเรื่องความมั่นคงด้วยซ้ำไป ทั้งที่ มีการใช้กำลังทหารขนาดใหญ่ที่รุนแรงอย่างจงใจระหว่างประเทศปะทุขึ้นให้เห็นอยู่กับตาในยุโรปโดยไม่คาดฝัน 

@@@…….ขณะที่ ฝ่ายการเมืองบางกลุ่มนำเสนอวิธีการบริหารจัดการ ด้านการเงินการคลังโดยยกตัวอย่างต่างประเทศนำมาเทียบเคียงกับการบริหารงบประมาณของรัฐบาล ทั้งที่บริบททางการเมืองและทางสังคมมีความแตกต่างกัน ขณะเดียวกัน ทางด้านกลุ่มพรรคขนาดเล็ก ยังคงเคลื่อนไหว แสดงท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ต่อการลงมติร่างพ.ร.บ.ฯอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องสามารถตอบปัญหาได้ค่อนข้างชัดเจนครอบคลุม รวมทั้ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล อภิปรายสนับสนุนที่ดูเป็นเหตุเป็นผล จึงเชื่อได้ว่า จะทำให้ประชาชนผู้ติดตามการอภิปรายเข้าใจเจตนารมณ์ที่แท้จริงของการจัดทำร่างพ.ร.บ.ฯของรัฐบาล ภายใต้ข้อจำกัดของสถานการณ์ฯ ในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งมีแนวโน้มว่า สุดท้ายแล้ว เชื่อว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2566 จะผ่านการพิจารณาวาระ 3 ไปด้วยเสียงข้างมากในที่สุด 

@@@…….ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4 ประจําปีงบประมาณ  พ.ศ.2565 โดยมี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และเสนาธิการทหารอากาศ เข้าร่วมการประชุมฯ โดยกองบัญชาการกองทัพไทย และ เหล่าทัพ รายงานผลการดำเนินงานดังนี้

@@@…….กองบัญชาการกองทัพไทย ได้นําเสนอการจัดการฝึกร่วมกองทัพไทย 2565 ซึ่งเป็นการฝึกร่วมตามแผนป้องกันประเทศ โดยบูรณาการการอํานวยการยุทธร่วมด้วยการใช้กําลังทหารขนาดใหญ่ของกองทัพไทย รวมถึงบูร ณาการการปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพและพลเรือน อันเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมของกองทัพไทยให้มีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ รวมถึงรักษาความมั่นคงของรัฐ   เพื่อเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงให้กับประเทศชาติและความสงบสุขของประชาชน

@@@…….กองทัพบก ได้รายงานผลการปฏิบัติงานที่สําคัญให้ที่ประชุมได้รับทราบ จํานวน 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 การจัดการฝึกทหารใหม่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่ กรรมวิธีการรับทหารใหม่ การเคลื่อนย้ายจนถึงหน่วยฝึกทหารใหม่ การกักตัวครูฝึก ผู้ช่วยครูฝึก และทหารใหม่ ภายใต้มาตรการ Bubble & Sealed และ เรื่องที่ 2 การปฏิบัติภารกิจของอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป แบบ 145 (ฮ.ท.145) ในการลําเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินร่วมกับทีมแพทย์ของโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบกในพื้นที่ และทีมแพทย์สกายดอกเตอร์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ซึ่งสามารถให้การช่วยเหลือผู้ป่วยอาการวิกฤตให้รอดชีวิต ได้รับการตอบรับจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดียิ่ง

@@@…….กองทัพเรือ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ได้เตรียมความพร้อมในการรองรับสงครามอาวุธที่มีอานุภาพ ทําลายล้างสูง ได้แก่ อาวุธเคมี ชีวะ รังสี และนิวเคลียร์(คชรน.) ในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านองค์บุคคลระดับนานาชาติ  ด้านองค์วัตถุ ด้านองค์ยุทธวิธี โดยผลงานสําคัญที่ผ่านมา ได้แก่ การสนับสนุนความปลอดภัยของนักดําน้ําโดยการตรวจสอบปริมาณก๊าซพิษและก๊าชออกซิเจนในภารกิจค้นหาและกู้ภัยถ้ำหลวงเพื่อช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่า การนําขีดความสามารถด้านการป้องกันอาวุธชีวภาพมาใช้ในการควบคุมการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ อาคารรับรองสัตหีบ ซึ่งเป็นสถานที่กักตัวของรัฐ และการนําเครื่องตรวจวิเคราะห์สารพิษ เทคโนโลยีสูงมาตรวจการปนเปื้อนของสารพิษในสิ่งแวดล้อม และสามารถรายงานผลได้อย่างแม่นยํา รวดเร็ว แบบ Real Time

@@@…….กองทัพอากาศ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงการพัฒนาขีดความสามารถด้านการข่าวกรองการเฝ้าตรวจ และการลาดตระเวน (ISR) โดยการพัฒนาระบบงานและคุณภาพบุคลากร การพัฒนาด้านยุทโธปกรณ์ การจัดหาอากาศยานไร้คนขับ(Dominator) การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบ GEOINT PORTAL เพื่อพัฒนาศักยภาพ และขีดความสามารถด้านการข่าวกรองการเฝ้าตรวจและการลาดตระเวนสู่การมีข้อมูลและการข่าวที่มีคุณภาพ (Superior ISR)

@@@…….ทั้งนี้ ผบ.ทหารสูงสุด ได้กล่าวเน้นย้ำให้เหล่าทัพปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท และเสียสละ เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งให้ติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเน้นย้ำให้กองกําลังตามแนวชายแดนเพิ่มความ   เข้มงวดในการคัดกรอง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด และสินค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดนทั้งทางบกและทางน้ํา ตลอดจนให้เข้มงวด กวดขัน กําลังพล ในสังกัดให้ประพฤติปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับรวมทั้งข้อควรระวังต่าง ๆ ทั้งในและนอกเวลาราชการ พร้อมปลูกฝังและเสริมสร้างอุดมการณ์ทางทหาร ความจงรักภักดีต่อสถาบัน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานทั้งต่อตนเอง หน่วยงาน และประเทศชาติต่อไป

……………

คอลัมน์ : “Military Key”

โดย “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img