ไทยเจอฝนถล่ม ผบ.เหล่าทัพ สั่งกำลังพล พร้อมยานพาหนะ และยุทโธปกรณ์ ให้การช่วยเหลือประชาชนทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 20 ส.ค. 2565 ช่วงนี้ประเทศไทยเจอทั้งมรสุมส่งผลให้ฝนตกหนักบางพื้นที่ ทางเหล่าทัพเร่งระดมกำลังพลลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยทุกรูปแบบ โดยจะใช้ทุกศักยภาพที่มีในการดูแลประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
@@@……ทางกองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกำลังพลชุดเคลื่อนที่เร็ว พร้อมยุทโธปกรณ์ และผลิตน้ำดื่มสะอาดเข้าช่วยเหลือและดูแลประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาภาค 1 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมกำลังพลจิตอาสา รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก รถยนต์บรรทุกน้ำ ขนาด 6,000 ลิตร ออกให้ความช่วยเหลือฟื้นฟู บริเวณหน้าวัดศรีฐาน ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังเกิดเหตุการณ์น้ำป่าจากเทือกเขาภูทับเบิกไหลหลากลงสู่ลำห้วยวังบาลผ่านบ้านเรือนประชาชน นอกจากนี้ยังได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมยานพาหนะ เข้าประสานการปฏิบัติกับ ส่วนราชการในพื้นที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำเอ่อล้นที่เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยได้จัดเตรียมกำลังพล ยานพาหนะ และยุทโธปกรณ์ พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์
@@@……สำนักงานพัฒนาภาค 2 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก เข้าติดตามช่วยเหลือและประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ทางหลวงหมายเลข 2 ตำบลบ้านแฮด อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น โดยจากการตรวจสอบและประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพบว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักในห้วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณน้ำในแม่น้ำลำคลองเพิ่มสูงขึ้นและไหลเข้าท่วมเส้นทางสัญจร และหากยังคงมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่องอาจทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นได้อีก จึงยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วต่อไป สำนักงานพัฒนาภาค 3 จัดกำลังพลชุดช่วยเหลือประชาชน พร้อมรถยนต์ตรวจการณ์ เข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเหตุอุทกภัยที่ประสบเหตุการณ์ฝนตกติดต่อกันหลายชั่วโมงทำให้การระบายน้ำไหลไม่ทัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือด ร้อนจากน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ จังหวัดพิจิตร และ จังหวัดตาก
@@@……ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ ว่า ในการป้องกันเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ มีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก เมื่อมีเหตุการณ์ ได้รับการประสานกับทางจังหวัดให้เข้าไปช่วยดำเนินการ เราช่วยให้ประชาชนมีความสุข ปลอดภัย การช่วยเหลือทุกอย่างมีระบบอยู่แล้ว กำลังทหารพร้อมและปฏิบัติงานทุกวัน โดยกองทัพบกเข้าไปช่วยน้ำท่วมในทุกเขต ตามสั่งการของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้ปฏิบัติตามแผนบรรเทาสาธารณภัยของกระทรวงกลาโหม ซึ่งสอดคล้องกับแผนใหญ่ของรัฐบาล สำหรับทในทุกเขตมีทหารอยู่ประจำ และประสานงานกับผู้ว่าราชการ กทม. อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีฝ่ายเสนาธิการประจำอยู่ที่สำนักการระบายน้ำของ กทม. ตลอด 24 ชม.
@@@……ช่วงที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ลอบวางเพลิง และระเบิดหลายจุด มุ่งทำลายเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จชต.หลายจุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แสดงความห่วงใยถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ 3 จชต. ได้สั่งการให้ กอ.รมน.โดย กอ.รมน.ภาค 4 ( ส่วนหน้า ) เข้าตรวจสอบทุกจุดเกิดเหตุ โดยกำชับเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง อดทนอดกลั้น รอบคอบและไม่ประมาท ในการเข้าควบคุมทุกพื้นที่เกิดเหตุ โดยเน้น ปฏิบัติการเชิงรุกด้านการข่าว และการดำเนินการตามกฎหมายกับทุกกลุ่มเป้าหมาย ที่มีความเชื่อมโยงกันในทุกประเด็น สำหรับพื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่สาธารณะ ขอให้เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวัง โดยเชื่อมโยงเทคโนโลยีให้ครอบคลุมกับการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ มุ่งดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในภาพรวม
@@@……ด้าน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ใน 17 จุด ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นการสอบสวนและติดตามของหน่วยในพื้นที่ สำหรับสาเหตุของเหตุการณ์ต้องรอผลการสอบสวน เจ้าหน้าที่ทุกนายปฎิบัติงานด้วยความระมัดระวังอยู่แล้ว และได้กำชับให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ลักษณะการก่อเหตุเป็นแบบเดิม ขณะนี้สถานการณ์ภาพรวมดีขึ้นจากที่ผ่านมา การเกิดเหตุจะเห็นว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับวาระของรัฐบาล แต่อยู่ที่จังหวะและสถานการณ์ คนที่ตั้งใจจะก่อเหตุก็หาจังหวะ แต่เราก็ป้องกันและเฝ้าระวังเหตุการณ์ต่าง ๆ ถึงดีขึ้น
@@@……สถานการณ์การปฏิบัติการป่วนใต้ของกลุ่มก่อความไม่สงบด้วยความรุนแรง เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2565 เป็นการแสดงกำลัง ขีดความสามารถ และการดำรงอยู่ของกองกำลังที่พร้อมจะสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่เขตเมืองได้ตลอดเวลา โดยการเลือกเป้าหมายอ่อนแอที่เป็นร้านสะดวกซื้อ, ปั้มน้ำมัน, เสาสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งอาจมีความมุ่งหมายหลาย ๆ ประเด็นพร้อมกันไป ทั้งเรื่องความขัดแย้งภายในองค์กรของตนเอง รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการโจมตี การฝึกความชำนาญ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับบรรดานักรบในพื้นที่ .. พฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อการเท่าที่มีการตรวจสอบพบว่า ส่วนใหญ่แต่งกายคล้ายผู้หญิงออกมาก่อเหตุ โดยใช้ยานพาหนะที่เป็นรถจักรยานยนต์ ทั้งการลอบวางระเบิด และการขว้างระเบิดเข้าไปในจุดเป้าหมาย โดยคนร้ายยังคงใช้รูปแบบเดิมที่ทำมาตลอด 18 ปี คือ การทำร้ายชีวิตผู้บริสุทธิ์ และทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจของจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการทำลายระบบสาธารณูปโภค ..
@@@……ฝ่ายความมั่นคง คาดว่า การปฏิบัติการขนาดใหญ่แบบพร้อมพรึบนี้ หวังผลเพื่อกดดันให้คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฝ่ายรัฐบาลไทย ลงนามในเอกสารข้อเสนอที่เป็นกรอบการพูดคุย หรือที่เรียกว่า “TOR” ซึ่งยังตกลงกันไม่ได้ในการพูดคุยหลายครั้งที่ผ่านมา ขณะที่การพูดคุยฯ รอบล่าสุด ฝ่าย BRN ก็ไม่ได้คุยข้อเสนอ “เข้าพรรษาสันติ” ยุติความรุนแรง 3 เดือน จากกลุ่มไทยพุทธในพื้นที่ ซึ่งคณะพูดคุยฯ ในฝ่ายภาครัฐนำเข้าไปหารือด้วยเช่นกัน .. ขณะที่ BRN ต้องการให้รัฐบาลไทยยอมรับเรื่องยุติปฏิบัติการทางทหารอย่างเป็นทางการ โดยหวังผลให้รัฐบาลยกเลิกการตั้งด่านตรวจ การลาดตระเวน และการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ ในพื้นที่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่รัฐบาลไทยยังยอมรับไม่ได้ คาดหมายว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังมีแนวโน้มปฏิบัติการต่อไป เพื่อกดดันรัฐบาลไทย และคณะพูดคุยฯ ให้ยอมรับข้อเสนอของ BRN ต่อไป
@@@……ทั้งนี้ เชื่อว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นฝีมือ แกนนำผู้ก่อความไม่สงบบางกลุ่มที่นิยมความรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่ม พูโล G5 ที่มีการจับกุมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง จะได้เร่งจับกุม และสลายกลุ่มที่นิยมความรุนแรงโดยเร็ว และให้ความสำคัญต่อการเจรจากับ BRN ต่อเนื่องต่อไปเพื่อให้สถานการณ์ไปสู่ความสงบสันติให้จงได้ ซึ่งหากไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ ฝ่ายความมั่นคงของภาครัฐ ก็พร้อมจะค่อย ๆ ทะยอยลดปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ลง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้แสดงให้ทุกฝ่ายได้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วมาโดยตลอด แต่จะยอมให้มีการใช้ความรุนแรงที่กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่นั้นไม่ได้ ทั้งนี้ ความจริงใจบนโต๊ะเจรจาของทุกฝ่าย ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของประชาชนคนในพื้นที่ให้สำเร็จได้ในที่สุด
@@@……เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ…..พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ให้การต้อนรับ นางออร์นา ซากิฟ ออท.อิสราเอล/ไทย ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดย รมช. กลาโหม กล่าวต้อนรับและแสดงความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของ ออท.อิสราเอล/ไทย เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับไทยและอาเซียนจากประสบการณ์การดำรงตำแหน่งที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ส่วนความร่วมมือทางการทหารนั้น ไทยกับอิสราเอลก็มีความร่วมมือกันในหลายด้านและมีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน ส่งผลให้มีการขยายขอบเขตความร่วมมือด้านต่างๆ เช่นด้านข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์ทางทหาร อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การส่งกำลังบำรุง การแลกเปลี่ยนการเยือน วัฒนธรรม รวมทั้งการป้องกันประเทศด้วย
@@@……ออท.อิสราเอล/ไทย ได้ขอบคุณในการต้อนรับ และพร้อมที่จะขยายความร่วมมือในระดับทวิภาคี ทางด้านแรงงานก็มีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ที่อิสราเอลจำนวนมากและขอยืนยันในการให้ดูแลแรงงานไทยเป็นอย่างดี และยินดีที่จะแบ่งปันแลกเปลี่ยนประสบการณ์การต่อสู้กับการก่อการร้าย ความสัมพันธ์ระหว่างกลาโหมของทั้ง 2 ประเทศที่ผ่านมานั้นได้มีการหารือทวิภาคีในหลายครั้งและในอนาคตจะได้หารือร่วมกันในด้านป้องกันประเทศในระดับทวิภาคีด้วย และพร้อมที่จะร่วมมือกันในด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพื่อพัฒนาร่วมกัน ส่วนทางด้านความร่วมมือทางด้านไซเบอร์ระหว่างสองประเทศที่เกิดขึ้นแล้วนั้นถือว่าเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาต่อไปในอนาคต โดยอิสราเอลก็พร้อมที่จะสนับสนุนและต่อยอดความร่วมมือทางด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
@@@……ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในการมอบรางวัล “การประกวดขับร้องบทเพลงส่งเสริมความรักความสามัคคี” ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กองทัพบกจัดขึ้น เพื่อสร้างจิตสํานึกที่ดีงาม และความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ที่มีสถาบันหลักของชาติเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ โดยได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนเยาวชนระดับชั้นมัธยมศึกษาผ่านสถาบันการศึกษา 258 แห่งทั่วประเทศ จัดทําคลิปวิดีโอขับร้องเพลงเนื้อหาส่งเสริมความรักสามัคคีและเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ส่งเข้าประกวดในระดับกองทัพภาค ในห้วง ก.พ. – มิ.ย. 65
@@@……จากนั้นโรงเรียนที่ชนะในระดับกองทัพภาคจะร่วมแข่งขันชิงชนะเลิศในระดับกองทัพบก โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านดนตรีจากกรมดุริยางค์ทหารบก และการโหวตให้คะแนนเป็นเกณฑ์การตัดสิน ผลการประกวด ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ บทเพลง “สดุดีมหาราชา” จากโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์เพชราวุธวิทยาในพระอุปถัมภ์ฯ กทม., รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ บทเพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” จากโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตอารีย์ จ.ลําปาง และ รางวัลรองชนะเลิศอันอับสอง จํานวน 2 รางวัล ได้แก่ บทเพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” จากโรงเรียนกุสุมาลย์วิทยาคมจ. สกลนคร และ บทเพลง “สรรเสริญพระบารมี” จากโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ภูเก็ต จ.ภูเก็ต
@@@……ในโอกาสนี้กองทัพบกได้เปิดโลกทัศน์และเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับนักเรียนที่ได้รับรางวัลการประกวดขับร้องเพลงดังกล่าวด้วย โดยได้จัดกิจกรรมทัศนศึกษา เยี่ยมชมความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรมที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานใน กทม. อาทิ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ(Museum Siam), ศูนย์การค้า ICONSIAM, การใช้บริการรถไฟฟ้า MRT พร้อมนำล่องเรือชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ และนิทรรศการจำลองประวัติศาสตร์ เพื่อพัฒนาความรู้และปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและสร้างความสามัคคีในสังคมโดยรวม
@@@……กองทัพเรือ พล.ร.ต.สรวุท ชวนะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นประธานเปิดการฝึกการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยระหว่างหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมกับ พลเรือน กลุ่มอาสาสมัครภาคประชาชน “ใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน” นำโดย ฝันเด่น จรรยาธนากร หัวหน้าคณะภาคพลเรือน ซึ่งได้จัดการฝึกขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนการถ่ายทอดความรู้และทักษะความชำนาญให้กับเจ้าหน้าที่ ที่จะต้องเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆเช่นการค้นหาการช่วยชีวิตการลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บการใช้เครื่องมือต่างๆในการช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย
@@@……การฝึกการค้นหาและช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยในครั้งนี้ทำการฝึกระหว่างวันที่ 12 -14 ส.ค. 2565 มีกำลังพล จากกองฝึกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัยทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยาน และรักษาฝั่ง ร่วมกับ ฝ่ายอาสาสมัครใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ฝ่ายละ 80 นาย ร่วมทำการฝึก โดยการการฝึกในครั้งนี้ ในบางส่วน เป็นการฝึกต่อยอดและนำบทเรียนที่ ได้รับ จากการฝึก กองทัพเรือ 2565 ในหัวข้อการ ฝึกการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HADR) ที่จัดการฝึกขึ้น ณ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ในช่วงเดือนมิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา มาใช้ในการฝึก ใช้พื้นที่ภายใน หน่วยบัญชาการ ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นพื้นที่การฝึก
@@@……ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ในเรื่องการเตรียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ของ กองทัพเรือ ให้พร้อมรับสถานการณ์ ในการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HADR) และเป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการหน่วย บัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่ต้องการให้กำลังพลของ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง มีความรู้ มีประสบการณ์และ มีความพร้อม ในการปฏิบัติได้ อย่าง ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถปฏิบัติงาน ในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ทหารของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส
@@@……กองทัพอากาศ….พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกองทัพอากาศสิงคโปร์ ตามคำเชิญของ พล.อ.ต. Kelvin Khong ผู้บัญชาการทหารอากาศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 15-17 ส.ค. 2565 ทั้งนี้ ผบ.ทอ.ได้รับมอบอิสริยาภรณ์ Pingat Jasa Gemilang (Tentera) หรือ Melitorious Service Medal (Military) จากรัฐบาลสาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมี Dr.Ng Eng Hen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ เป็นผู้มอบ การเดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ของผู้บัญชาการทหารอากาศในครั้งนี้ เป็นการยืนยันถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกองทัพอากาศ และกองทัพอากาศสิงคโปร์ อันจะส่งผลถึงการพัฒนาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างกันในอนาคต
……………
คอลัมน์ : “Military Key”
โดย “รหัสมอร์ส”