“ลุงตู่” จะอยู่หรือไป ลุ้นคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญกรณีนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ด้าน ผบ.ทบ.ชื่นชม นายกรัฐมนตรี เป็นสุภาพบุรุษ เป็นแบบอย่างชายชาติทหาร ที่ประเทศประชาธิปไตยต้องปฏิบัติ
@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 27 ส.ค. 2565 ช่วงนี้คงไม่มีข่าวไหนน่าสนใจมากไปกว่าข่าวที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม หยุดปฏิบัติหน้าที่หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง ครบ 8 ปีในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
@@@……ขณะที่ ฝ่ายความมั่นคง เฝ้าระวังสถานการณ์การชุมนุมผิดกฎหมายกลุ่มปฏิกิริยาที่นิยมใช้ความรุนแรงบนท้องถนนอย่างใกล้ชิด ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญรับคําร้อง วินิจฉัยวาระดํารงตําแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งสั่งให้ นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว โดยกลุ่มสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน ได้นํากรณีดังกล่าวมาขยายผลวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อสร้างกระแสกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตําแหน่ง ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคําวินิจฉัย เชื่อมโยงไปถึงการทําหน้าที่รักษาการในตําแหน่งนายกรัฐมนตรี ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้วยการโจมตีกล่าวหาในประเด็นอื่นๆ นอกเหนือจากกรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ครบ 8 ปีแล้วตามรัฐธรรมนูญ เพื่อด้อยค่า และทําลายภาพลักษณ์ ของ รองนายกรัฐมนตรีอย่างมีนัยสําคัญ ทั้งนี้ การวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวเต็มไปด้วยอคติ เสียดสีดูแคลน ลักษณะคล้ายเป็นการให้ร้าย รองนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของกลุ่มพรรคฝ่ายค้านนี้ ถูกต่อต้าน จากสังคมค่อนข้างรุนแรง อีกทั้งยังอาจส่งผลให้ภาพลักษณ์ทางการเมืองของพรรคฯ ให้เสื่อมถอยลงได้อีกด้วย ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อการเลือกตั้งทั่วไปที่ใกล้จะมาถึงเมื่อไรก็ได้จากนี้ไป…นายกรัฐมนตรีจะอยู่ต่อหรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็น ผลการเลือกตั้งรอบต่อไปต่างหาก คือ ประเด็นสำคัญจริงจากนี้ไป ซึ่งฝ่ายการเมืองทุกพรรคจะต้องชิงไหวชิงพริบกัน และสู้กันตามครรลองของประชาธิปไตย
@@@……การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมบนถนนในประเด็น 8 ปี ในสัปดาห์ที่ผ่ามา หมดความชอบธรรมลงเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง แต่ยังคงหาประเด็นใหม่ ๆ มาเพื่อพยายามดํารงการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในรูปแบบเดิม เพื่อเรียกร้อง ให้มีการปล่อยตัวนักกิจกรรมที่ถูกคุมขัง และยกเลิก ม.112 รวมถึงการต่อต้าน และทําลายภาพลักษณ์ของสถาบันฯ อย่างต่อเนื่องหากแต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวดูเบาบางลงไปมาก อาจเป็นเพราะไม่ได้รับความสนใจและถูกต่อต้านจาก สังคมส่วนใหญ่ .. อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวในประเด็นเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตําแหน่ง ยังคงมีกระแส ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะคณะกลุ่มหลอมหลวมประชาชน ที่มีการนัดหมายทํากิจกรรมในวันที่ 28 ส.ค.65 ต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้ พบว่า ผู้เข้าร่วมชุมนุมบนถนนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสื้อแดงสูงวัย กับเด็กแว้นจำนวนหนึ่งเท่านั้น และมีแผนการตั้งใจจะก่อความรุนแรง แต่ก็มีการทัดทานจากหลายฝ่าย เนื่องจากจะส่งผลร้ายต่อการเลือกตั้ง รวมทั้งการปล่อยกระแสการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ครบ 8 ปีแล้ว ให้เป็นประเด็นทางสังคมต่อไปจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายค้านมากกว่า แนวโน้มจากนี้ไปคาดว่า กลุ่มผู้ชุมนุม จะใช้ประเด็นดังกล่าวโน้มน้าวให้มวลชนออกมารวมตัวเคลื่อนไหวกดดันนายกรัฐมนตรีให้ลาออก จนกว่าศาลฯ จะมีคําวินิจฉัยต่อเนื่องต่อไป ซึ่งฝ่ายความมั่นคง จะได้ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์ และการบริหารงานภาครัฐยังคงสามารถเดินหน้าต่อไปได้จนกว่าการเลือกตั้งรอบต่อไปจะมาถึง
@@@……ได้รับเสียงชมจากผบ.ทบ….พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้นว่า ควรชื่นชม ยกย่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านปฏิบัติตามระบบประชาธิปไตยและระบบทางนิติศาสตร์ คือการตรวจสอบมีอะไรก็ร้องเรียนขึ้นไป เข้าสู่หลักการ เมื่อสั่งมาทางฝ่ายบริหาร ฝ่ายบริหารต้องปฏิบัติตามนั้น นี่คือระบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ต้องชื่นชมว่า นายกรัฐมนตรี คือสุภาพบุรุษ คือผู้นำ คือแบบอย่างชายชาติทหาร ที่ทางตุลาการสั่งอย่างไรก็ปฏิบัติตาม นี่คือสิ่งที่ดี ในสังคมของประเทศ คือประชาธิปไตยต้องปฏิบัติแบบนี้ ไม่ใช่ว่าตุลาการสั่งแบบนี้ เเล้วก็ไปคิดแทนเหมือนฝ่ายอื่นๆและนี่คือสิ่งดีๆที่เกิดขึ้น
@@@……จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในทุกภูมิภาคของไทย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในหลายจังหวัดภาคเหนือ กองทัพบกโดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 ได้จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ร่วมกับส่วนราชการ ฝ่ายปกครองท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย, เข้าสำรวจความเสียหาย, ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง, อำนวยความสะดวกด้านการจราจร, แจกจ่ายอาหารปรุงสุก, นำเรือกู้ภัยเคลื่อนที่เร็วเข้าอพยพประชาชนและส่งถุงยังชีพให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในหลายจังหวัด อาทิ แพร่, เพชรบูรณ์, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก และ พะเยา โดยเฉพาะที่จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากใน อ.หล่มเก่า กองพลทหารม้าที่ 1 ได้จัดกำลังพลจิตอาสา และหน่วยทหารช่าง ร่วมกับส่วนราชการเข้าช่วยอพยพประชาชนขนของขึ้นที่สูง ขณะนี้อยู่ระหว่างการฟื้นฟูสำหรับในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการแจ้งเตือนเกี่ยวกับระดับน้ำล้นตลิ่งในลุ่มน้ำมูล จ.อุบลราชธานี และ ลุ่มน้ำชี จ.ร้อยเอ็ด, ชัยภูมิ และ อุบลราชธานี กองทัพภาคที่ ๒ ได้เฝ้าติดตามระดับน้ำ ช่วยประชาชนขนสิ่งของขึ้นที่สูง และเตรียมการช่วยเหลือตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ปัจจุบันมีความพร้อมของกำลังพลและอุปกรณ์สามารถเข้าพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
@@@……ส่วนในพื้นที่ กทม. ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 1 ได้จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์สนับสนุนสำนักการระบายนำ้กรุงเทพมหานคร ในการกำจัดสิ่งปฏิกูลที่กีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำและบรรจุกระสอบทราย เพื่อทำแนวป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่สำคัญ อาทิ คลองระบายน้ำชุมชนวัดกำแพง เขตบางขุนเทียน, คลองวัดประชาระบือธรรม เขตดุสิต, คลองเปรมประชากร, คลองระบายน้ำริมทาง เขตดอนเมือง, ประตูระบายน้ำสถานีสูบน้ำบางยี่ขัน เขตบางพลัด, ลำกระโดง สุขุมวิท ๙๓ เขตพระโขนง, คลองพระโขนง เขตคลองเตย, ชุมชนโรงเจมักกะสัน เขตราชเทวี, ริมคลองหลังวัดลาดบัวขาว เขตสะพานสูง, ริมคลองบางเขน ชุมชนโกสุม และชุมชนอยู่แล้วรวย เขตหลักสี่ เป็นต้น
@@@……นอกจากนี้ กำลังพลจิตอาสายังได้ออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนัก โดยช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ใน 11 เขต ได้แก่ เขตสัมพันธวงศ์, บางพลัด, ดุสิต, พระโขนง, คลองเตย, สะพานสูง, บางเขน, บางขุนเทียน, ราชเทวี, ดอนเมือง และ เขตหลักสี่ สำหรับในพื้นที่ภาคกลางที่อาจได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขาไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ กองทัพบกได้สนับสนุน กำลังทหารเข้าช่วยติดตั้งแนวป้องกันน้ำท่วมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ โบราณสถานริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ วัดไชยวัฒนาราม, วัดกษัตราธิราชวรวิหาร, วัดธรรมาราม, อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา และจัดชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังน้ำท่วมในพื้นที่คลองโผงเผงต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำและเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นสำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งในเรื่องการป้องกันน้ำท่วมและการช่วยเหลือตามเหตุการณ์ สามารถแจ้งได้ที่หน่วยทหารใกล้บ้านหรือศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกและศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทุกกองทัพภาค
@@@……ที่ จ.นครนายก กองทัพบกโดย กำลังพลจิตอาสา กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ร่วมกับส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ เร่งเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลากฉับพลันบริเวณรีสอร์ทมะขาม (forest) และพื้นที่ใกล้เคียง ณ ชุมชนสะพาน วังตะไคร้ ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 20 ครัวเรือน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยอพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมจัดชุดลาดตระเวนน้ำ ตรวจสอบและประเมินสถานการณ์พร้อมประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการท้องถิ่น ในการเข้าช่วยเหลือผู้เดือดร้อน รวมถึงประเมินสถานการณ์ที่คาดการว่าน่าจะมีน้ำป่าไหลหลากจากเขาใหญ่ อีกระลอกหนึ่ง ปัจจุบันหลายพื้นที่ระดับน้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หน่วยทหารได้ช่วยกำจัดโคลน ทำความสะอาดบ้านเรือนและเส้นทางสัญจร ควบคู่กับการประสานจังหวัดในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ยากลำบากและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
@@@……กองทัพเรือ….พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และคณะ เข้าร่วมการประชุม ผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียน ครั้งที่ 16 ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในห้วงวันที่ 21-23 ส.ค. 2565 ตามคำเชิญ ของ ทร.อินโดนีเซีย เจ้าภาพ โดยในการประชุม ได้มีการบรรยายสถานการณ์ความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาค ซึ่งจากสถิติเห็นได้ชัดว่าภัยคุกคามทางทะเลมีจำนวนมากขึ้น รวมถึงได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง ผบ.ทร.ประเทศต่างๆ ซึ่งในภาพรวม เห็นว่า กองทัพเรืออาเซียน ควรจะมีความร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อที่จะสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในการนี้ได้มีการรายงานผลการปฏิบัติต่างๆ ในรอบปี รวมถึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน จัดทำ Road map ทร.อาเซียนในวงรอบ 8 ปี (ปี 67-75) เพื่อสร้างความมั่นคงแข็งแรง ของกองทัพเรืออาเซียนในอนาคต อย่างต่อเนื่อง
@@@……การประชุมในครั้งนี้ พล.ร.อ.สมประสงค์ ได้นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับความท้าทายจากภัยคุกคามทางทะเล และอิทธิพลของประเทศต่างๆ ต่ออาเซียน และเน้นย้ำ การสร้างความเข้มแข็ง ในกรอบของการไว้เนื้อเชื่อใจกัน (Mutual thrust) บนผลประโยชน์ร่วมกัน (Mutual benefit) และ การยอมรับนับถือซื่งกันและกัน (Mutual respect) และเน้นย้ำว่า “จะไม่มีชาติใดปลอดภัย หากมีชาติใดชาติหนึ่งไม่ปลอดภัย”…ซึ่งในภาพรวมนับได้ว่า การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงโดยเฉพาะในแง่ของการร่วมกันกำหนดอนาคตของกองทัพเรืออาเซียน และการปฏิสัมพันธ์กัน ซึ่งจะนำไปสู่การรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของกองทัพเรือประเทศต่างๆ ในอาเซียน ทั้งนี้ ในการ ประชุม ผบ.ทร. อาเซียนครั้งต่อไป มีกำหนดจัดขึ้น ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ในห้วงเดือน พ.ค.66 โดยจะมีการฝึกพหุภาคี ทร.อาเซียน (AMNEX) และการสวนสนามทางเรือร่วมด้วย
@@@……กองทัพอากาศ โดย พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ รองเสนาธิการทหารอากาศ เป็นผู้แทนกองทัพอากาศ ร่วมกับ คุณอารยา ภู่พานิช รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานกิจกรรมเพื่อสังคม ผู้แทนธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และคุณสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จัดกิจกรรมส่งมอบ “โครงการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิต” โดยกิจกรรมประกอบด้วย การมอบถังบรรจุน้ำพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งติดตั้งเครื่องกรองน้ำ และระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อผลิตน้ำดื่มสะอาดให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งมอบกระเป๋าเป้แบบสะพายหลัง พร้อมอุปกรณ์การศึกษา กระบอกน้ำดื่ม และหน้ากากอนามัย ให้กับนักเรียน ตลอดจนการออกหน่วยมิตรประชาของกองบิน 56 เพื่อให้บริการทางการแพทย์ ตัดผม มอบรถจักรยานและจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ณ โรงเรียนบ้านเก่าร้าง ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา
………………………………..
คอลัมน์ : Military Key
โดย “รหัสมอร์ส”