“ทรงพระเจริญ” ก่อนอื่นต้องพูดแบบนี้หลังจากทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดกล้าสถาปนา “พระมหาเอื้อน หาสธมฺโม” อดีตเจ้าอาวาสสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคมให้กลับสู่ราชทินนามเดิมคือ “พระพรหมดิลก” โดยให้ถือว่า “ไม่เคยถูกถอดถอนมาก่อน”
“เปรียญสิบ” เป็นคนหนึ่งที่ยืนหยัดและเรียกร้องคืนความเป็นธรรมให้แก่กลุ่มพระมหาเถระที่ถูกฝ่าย “อธรรม” ร่วมกันตั้งข้อหาให้ท่านต้องคดี “เงินทอนวัด” จนสร้างความอับอาย ไม่เฉพาะแก่พวกท่านเหล่านั้นเท่านั้น ในฐานะ “ชาวพุทธ” อับอายไปทั่วโลกด้วย เนื่องจากถูกดูแคลนและตราหน้าทั้งจากคนต่างศาสนาและคนทั่วโลกว่า ไฉน! พระพุทธศาสนาสอนคนให้ยึดมั่นในความถูกต้อง เป็นคนดี ไฉน! พระภิกษุผู้ใหญ่ระดับมหาเถรสมาคมที่บวชมานานกลับกลายเป็น “คนชั่ว” โกงเงินกินแผ่นดิน คำพูดแบบนี้กระทบต่อพระพุทธศาสนาและประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก
“เปรียญสิบ” มิใช่ลูกศิษย์ของ พระพรหมดิลก ไม่เคยสนทนาเป็นการส่วนตัว แม้ตอนที่ท่านออกจากคุกแล้ว มีคนมาบอกทำนองว่า “ท่านอยากพบ” เนื่องจากเขียน “ริ้วผ้าเหลือง” ถูกใจท่าน แต่ตอบปฎิเสธไป และเคยมีปมเล็กๆ “ในใจ” กับท่านด้วยซ้ำไป
แต่วันที่ท่านประสบ “วิบากกรรม” พร้อมช่วยเต็มที่เท่าที่ “ชาวพุทธ” คนหนึ่งในฐานะ “สื่อมวลชน” พอจะทำได้ท่ามกลางถูก “จับตา” จากพระเถระผู้ใหญ่และฝ่ายบ้านเมือง รวมทั้งคน “เคยห่มเหลือง” และกัลยาณมิตรบางคน
วันนี้ “พระพรหมดิลก” ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าสถาปนาสมณศักดิ์กลับคืนดังเดิม หวังว่าท่านคงจำสิ่งที่ท่านเคยฝากคำพูดถึงชาวพุทธตอนอยู่ในคุกได้ว่า “เรื่องที่หลายที่เกิดขึ้นนั้น ถือว่าเป็นวิบากกรรมของอาตมาเอง อาตมาต้องแก้ไขด้วยตัวเอง ข้างนอกจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา แต่ขอให้ทุกๆ คนรักสามัคคีกันไว้ ทุกๆ สถาบัน และให้ช่วยกันดูแลปกป้องพระพุทธศาสนาของเรากันไว้ด้วย..”
ขอให้พระพรหมดิลกจำคำพูดนี้ให้ดี “อย่าคิดแก้แค้น” ให้ถือว่าเป็น “วิบากกรรม” และ “เปรียญสิบ” ขอเตือนพระคุณเจ้าว่า อย่าไว้วางใจรอบข้าง ที่เป็น “ศัตรูต่อพรหมจรรย์” เหมือนอดีต ที่คอยจัดการให้กัลยาณมิตรเข้าถึงตัวได้ยากจนน่ารำคาญ ทำให้กัลยาณมิตรเหินห่าง และรวมทั้งอย่าลืมผู้ที่คอยช่วยเหลือในยามประสบวิบากกรรมโดยเฉพาะวัดที่อยู่แถวๆ คลองบางกอกน้อยฝั่งธนบุรี
ต่อจากนี้ไปในวัย 77 ปี ให้คิดทำเพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อประเทศชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะการฟื้นฟูวัดสามพระยาให้กลับมาเป็น “ตักกสิลา” ศูนย์กลางแห่งการศึกษาบาลีดังเดิม
สำหรับ อดีตพระพรหมสิทธิ และคณะ รวมถึง อดีตพระพรหมเมธี โปรดเตรียมชุดผ้าไตรพระราชนิยมไว้ให้พร้อม คงไม่นานเกินรอ!!
ส่วน “กรรมการมหาเถรสมาคม” บางรูปที่คอยเป็น “ร่างทรง” ให้ “ผู้มีอำนาจฝ่ายอธรรม” คัดค้านขัดขวางมิให้ “พระมหาเถระ” ที่ต้องคดีเงินทอนวัดกลับคืนสู่สมณศักดิ์ซึ่งเป็นพระราชอำนาจโดยชอบธรรม
หากไม่หยุด ระวังตัวไว้เถอะ ดาบนั่นจะคืนสนอง!!
……………………..
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย…“เปรียญสิบ”: [email protected]