“เปรียญสิบ” หายไปสองอาทิตย์มิได้ “โดนอุ้ม” หรือถูกเรียก “ปรับทัศนคติ” หรือถูก “ปิดปาก” ตามข่าว “ซุบซิบ” ของจำพวกกรมข่าวลือแต่ประการใด เพียงแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2567 มีงานใหญ่ คือ งานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และ ยกฉัตร พระธาตุเจดีย์มอญทุ่งก้างย่าง ซึ่งได้รับความเมตตาจาก “พระเทพปวรเมธี” รองอธิการบดีบริหาร มจร และรองเจ้าคณะภาค 15 พร้อมกับความเมตตาจากพระเถระผู้ใหญ่หลายท่านทั้ง พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และ พระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนประธานฝ่ายฆราวาสได้รับเกียรติจาก “ปลัดเก่ง” สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สมแล้วที่สื่อมวลชนสายพระยกย่องให้เป็น “ชาวพุทธต้นแบบ”
ชีวิตหลังเกษียณเดือนกันยายนนี้ ดีไม่ดีอาจมีบางพรรคจีบให้เล่นการเมือง หรือประเคน “ตำแหน่งสำคัญ” ให้ เพราะตลอดหลายปีมานี้ “คะแนนเสียง” จากประชาชน เสียงตอบรับดีกว่า “นักการเมือง” บางคน-บางพรรคเสียอีก..แต่เชื่อว่าถึงไม่เล่นการเมือง “ตำแหน่งสำคัญ” หลายองค์กรก็หมายปอง เพราะหลายปีมานี้ “ปลัดเก่ง” ทุ่มเทงานหนักมาก เรื่องการสนองพระราชดำริของพระบรมวงศานุวงศ์ ส่วน “วงการคณะสงฆ์” ทั้งคณะสงฆ์ ทั้งนักวิชาการ ทั้งนักการเมืองสายพระ มองว่า “ปลัดเก่ง” คือ อัศวินม้าขาว หลายท่านเป็นห่วงว่า “มหาดไทย” หลังปลัดเก่ง..ใครจะสืบทอดงานที่ “ปลัดเก่ง” วางทำงานร่วมกับคณะสงฆ์เอาไว้.??
ส่วนสัปดาห์ถัดมาในฐานะคนไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ต้องไปสรงน้ำพระ ทั้งพระพุทธรูปสำคัญตามวัดต่างๆ และพระเถระผู้ใหญ่ที่นับถือและมีบุญคุณต่อกัน กว่าจะกลับถึงบ้านก็เหนื่อย “เบื่อหน่าย” ที่จะต้องใช้สมองคิดเขียนคอลัมน์ “ริ้วผ้าเหลือง”
ทั้งๆ ที่ก่อน “สงกรานต์” มีข่าวเกี่ยวกับวงการสงฆ์มากมายตามสื่อต่างๆ บางสื่อเสนอข่าวหากบอกได้คงบอกว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประชาชน “เลิกทำบุญกับพระกันเถอะ”
ในขณะที่ “เจ้ากู” บางรูป ก็แสดงความเป็นผู้ “ฉลาดน้อย” ออกสาธารณะชนยิ่งกว่า “คนขี้เมา” ขยันสร้างจังเรื่องที่เป็น “ข่าวฉาว” ให้พระพุทธศาสนเสียหาย
“พระสมณโคดม” หากมีพระชนม์ชีพอยู่ คงหนีเข้าป่าอีกรอบเป็นแน่แท้!! อายแทน??
ช่วงนี้ “เปรียญสิบ” ถูกถามหลายครั้ง จากชาวพุทธบางคนและพระภิกษุบางรูปว่า เนื่องในปีนี้เป็นปีพิเศษ เป็นปีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา มีอะไรพิเศษหรือไม่ บอกตรงๆ ว่า ไม่รู้??
แต่มีข่าวแว่วๆ ลอยมาว่า “สมณศักดิ์” อาจมีพิเศษ 30 + 43 หมายความว่า ธรรมยุต 30-มหานิกาย 43 และอาจมียกฐานะวัดราษฎร์เป็น “วัดหลวง” ประมาณ 10 วัด หรือจากวัดหลวงอยู่แล้วอาจ “ยกสถานะ” ขึ้น
หรือมีข่าวว่า..แม้กระทั้งกลุ่มพระที่หลุดพ้นจากคดี “เงินทอนวัด” ก็อาจได้รับ “สมณศักดิ์” กลับคืนมา พระที่ลี้ภัยต่างประเทศ อาจได้กลับคืนสู่ “พระอาราม” เช่นกัน
แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือเป็น “พระราชอำนาจ” แล้วแต่พระองค์จะทรงโปรด!!
“เปรียญสิบ” เชื่อมั่นเสมอมาในการครองแผ่นดินโดยธรรม ตามหลัก “ทศพิธราชธรรม” ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และตลอดระยะเวลาการขึ้นครองราชย์ หากพวกเราติดตามข่าวจากพระสงฆ์เถระผู้ใหญ่บ้าง จากสื่อบ้าง ก็จะทราบว่า การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและการอุปถัมภ์คณะสงฆ์ พระองค์ตั้งอยู่ในความเป็นเป็นพุทธมามกะและอัครศาสนูปถัมภกที่ดียิ่งเสมอมา..พูดได้แค่นี้!!
…………………………………..
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย…“เปรียญสิบ”: [email protected]