เห็น “มหาวัฒนา ปญฺญาทีโป” และ “อี้” แทนคุณ จิตต์อิสระ ไปยื่นหนังสือกับ “วันนอร์” ประธานรัฐสภา พิจารณาข้อเรียกร้องทั้ง 8 ประการ ซึ่งประกอบด้วย หนึ่ง การจัดตั้งสภาพระธรรมวินัย สอง การปรับปรุงระบบธรรมาภิบาลในระบบบริหารปกครอง สาม เรื่องระเบียบการเงิน สี่ คุณสมบัติของพระเจ้าอาวาสพระสังฆาธิการ ห้า การกำกับดูแลพุทธพาณิชย์ หก การปฏิรูประบบการศึกษาพระไตรปิฎก เจ็ด การปฏิรูปโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ และ แปด เปิดการรับรองสถานภาพภิกษุณี
“เปรียญสิบ” ไม่รู้ว่าทั้ง 2 ท่าน มีนัยอะไรซ่อนอยู่ในการยื่นครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ไปยื่นกับ “ประธานรัฐสภา” ซึ่งรู้อยู่แล้วว่า ท่านเป็นคนต่างศาสนา โดยมารยาทเรื่องที่ “มหาวัฒนา-อี้” ไปร้องมันเกี่ยวข้องกับ..มหาเถรสมาคม
เชื่อเถอะ..ประธานรัฐสภาก็ต้องส่งต่อไปยัง “มหาเถรสมาคม” หรือไม่ก็ “กรรมาธิการศาสนา”
“เปรียญสิบ” เห็นด้วยหลายข้อ เช่น เรื่องสภาพระธรรมวินัย แต่เรื่องนี้เท่าที่ทราบมา “ร่าง พ.ร.บ.สภาชาวพุทธ” อยู่ที่มือ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” แล้ว ส่วนเรื่องการประเมินเจ้าอาวาสตามคำเรียกร้องข้อสอง หรือคุณสมบัติพระสังฆาธิการ
“เปรียญสิบ” ถามมหาวัฒนาและอี้ ตรงๆ ว่า ทุกวันนี้ พระสังฆาธิการ ถูกระเบียบราชการกฎหมายบ้านเมืองร้อยรัดผูกมัด “ไม่เพียงพอ” อีกหรือ!!
“เปรียญสิบ” เห็นด้วยเรื่อง การกำกับพุทธพาณิชย์ รวมทั้งเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์
แต่การปฎิรูปการณ์ปกครองคณะสงฆ์ที่ผ่านมา“มหาวัฒนา-อี้” ต้องรู้ว่า อำนาจที่แท้จริง..อยู่กับใคร?? ทุกวันนี้มีคนติฉินนินทา มส. ว่าเป็นเพียงแค่ “ตรายาง” หรือเชิง “สัญลักษณ์” เท่านั้น หากพวกท่านปรารถนาต่อพระพุทธศาสนา “ทวงกลับคืนมา” ได้หรือไม่??
สำหรับข้อหก เรื่องการปฎิรูปการศึกษาพระไตรปิฎก โดยเนื้อหาเห็นด้วย แต่คำถาม “มจร” ที่ “มหาวัฒนา” รับเงินเดือนอยู่ทุกเดือน ผู้บริหารจะเอาด้วยกับมหาวัฒนาหรือไม่ หรือหากจะให้เรียน “พระไตรปิฎก” เพียว ๆ อย่าง “บาฬีพุทธโฆส” ที่มหาวัฒนา เป็นอาจารย์อยู่ถามว่า “ทุกวันนี้” มหาวัฒนารู้หรือไม่ว่า..พระที่ไปเรียนมีเท่าไร และที่ไปเรียนได้มาอย่างไร สมัครใจมาเรียนกี่รูป
ลองไปถาม “เจ้าคุณมีชัย” หรือ “เจ้าคุณขวัญ” ดู ทางที่ดี “มหาวัฒนา” ควรไปเชิญชวนหาพระนิสิตมาเรียนด้วยก็ดี เพราะ “บาฬีพุทธโฆส” น่าจะเป็น “วิทยาเขต มจร” แห่งเดียวที่เรียนเนื้อหาส่วนมากเกี่ยวกับ..พระไตรปิกฎ แต่ทุกวันนี้จำนวนนิสิต “ร่อแร่”
ข้อเรียกร้องบางอย่างอย่าคิดแบบเพ้อฝันเพื่อ “สร้างกระแส” แต่ความจริง มันทำไม่ได้ หรือ ทำแล้วไม่รอด
ส่วนเรื่อง “พระภิกษุณี” เท่าที่รู้มา “มหาเถรสมาคม” ท่านไม่ได้ห้ามบวชต่างประเทศ แต่ในประเทศไทย “บวชไม่ได้” เพราะ “ขาดเชื้อสาย” ไปแล้ว ซึ่งเมื่อคณะสงฆ์ไทยไม่ได้บวชให้..จะให้ท่านรับรองให้ก็กระไรอยู่
“เปรียญสิบ” เห็นด้วยเรื่องการควบคุมสื่อโซเชียลที่ส่งผลกระทบต่อ “หลักธรรม” ในพระพุทธศาสนา แต่ไม่เห็นด้วยกับการควบคุมที่ตรวจสอบ “พฤติกรรม” ของคณะสงฆ์ โดยเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ที่รับ “นิตยภัต” หรือที่มีตำแหน่ง “พระสังฆาธิการ” เพราะระบบนี้ถือว่าเป็นการ “ควบคุมพฤติกรรมพระ” ของพุทธศาสนิกชนประการหนึ่ง ส่วนใคร “แฉแล้ว” ไปกระทบ “สิทธิ”หรือเป็นเรื่องเท็จ ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย
“เปรียญสิบ” ฝากการบ้านให้ “มหาวัฒนา-อี้” ไปช่วยเร่งรัดนโยบายของ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” ที่ประกาศไว้ด้วย 8 ข้อว่าปัจจุบันถึงไหนแล้ว เพราะทุกข้อมีประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ในระยะยาว
“เปรียญสิบ” แปลกใจนิดทำไม “มหาวัฒนา-อี้” ไปพึ่ง “วันนอร์”
…………..
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย… “เปรียญสิบ”: [email protected]
