“เปรียญสิบ” เห็นภาพการพังทลายลงของวัด เจดีย์ และโบราณสถานในเมืองมัณฑะเลย์แล้ว เศร้าและหดหู่สุดกำลัง ยิ่งเห็นชีวิตพระเณรที่กำลังสอบวิ่งหนีออกมา บางรูปหัวแตก ขาฉีก แขนหักแบบแหลก “เศร้าใจ” สุดกำลัง
ไม่รู้จะพูดหรือบรรยายอย่างไรดี..ให้ปลอบใจ “ตัวเอง” และ “ชาวพุทธ” ให้มีความรู้สึก “มีกำลัง” ใจที่จะสู้ต่อบนโลกใบนี้ โดยเฉพาะ ผู้สูญเสีย
“เปรียญสิบ” ไปเยือนเมืองมัณฑะเลย์ หลายครั้ง เมืองมัณฑะเลย์ ได้ชื่อว่า เป็น “เมืองตักศิลา” ด้านการศึกษาบาลีของพระภิกษุสามเณรในประเทศเมียนมา

พระภิกษุสามเณร ไม่ว่าจะเป็นมอญ ไทใหญ่ หรือชาวเมียนมาเอง อย่างรุ่งโรจน์ อยากเก่ง ต้องมาศึกษาบาลี ณ เมือง มัณฑะเลย์
เมืองมัณฑะเลย์ มีวัด มีสำนักเรียนบาลี เป็นจำนวนมาก เมื่อมีพระภิกษุจำนวนมาก จึงมีองค์กร กลุ่มที่จัดตั้งขึ้นโดยพระภิกษุ มากเช่นกัน โดยเฉพาะการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับสังคมพระภิกษุ “เมืองมัณฑะเลย์” มีอิทธิพลมากต่อความคิดของพระภิกษุสามเณรและรวมทั้งชาวพุทธในประเทศเมียนมา
และ “พระภิกษุ” เมืองมัณฑะเลย์ นี่แหละเวลาชาวบ้านเดือดร้อน “เข้าถึง” ประชาชนได้ดีกว่าภาครัฐ เช่นไฟไหม้ ต้องการรถฉุกเฉินไปโรงพยาบาล

รูปแบบการจัดตั้ง “องค์กร” แบบนี้พระภิกษุใน “รัฐมอญ” หลายแห่ง ท่านเล่าว่า เห็นรูปแบบมาจากพระภิกษุ “เมืองมัณฑะเลย์”
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมียนมาและไทยครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้ไม่เฉพาะ วัด ชีวิตพระภิกษุสามเณรและของประชาชนเท่านั้น
เมืองมัณฑะเลย์ ตั้งอยู่ทางโซนเหนือของเมียนมา มีชื่อเมือง แห่งหนึ่งไทยรู้ดีนั่นคือ “กรุงอังวะ” ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของเมียนมา และตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ โดยทั้งสองเมืองอยู่ในแนวของรอยเลื่อนสะกายพอดี โดยมีเมืองสะกายตั้งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำอิรวดี

เนื่องจากเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของเมียนมา อังวะจึงมีโบราณสถานมากมาย แต่ครั้งนี้โบราณสถานสำคัญเหล่านั้นพังทลายลงมาถึงขั้นยากที่จะซ่อมแซม สร้างความเศร้าสลดใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็น โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เพราะโบราณสถานเหล่านั้นส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา
“เปรียญสิบ” มองว่าการสูญเสียครั้งนี้ เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สำหรับพระพุทธศาสนาและชาวพุทธ โดยเฉพาะการสูญเสียชีวิตพระภิกษุสามเณร และ แหล่งโบราณสถานที่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา
ยกตัวอย่าง แผ่นหินจารึกพระไตรปิฎก ในบริเวณวัดกุโสดอว์,เจดีย์หยกที่สร้างโดยคณบดีชาวเมียนมา อันนี้ไม่นับรวมเจดีย์เก่าแก่ที่สร้างโดยพระมหากษัตริย์พม่าอีกหลายแห่ง

“เปรียญสิบ” เห็น “เจ้าคุณหรรษา” พระเมธีวัชรบัณฑิต ผอ.วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ (IBSC) มจร ยื่นมือแสดงน้ำใจช่วยเหลือพระภิกษุประชาชนเมียนมาผ่านองค์กรนพระนิสิตเมียนมา เห็นแล้วน่าอนุโทนา เห็น “วัดพระธรรมกาย” แสดงความห่วงใยพร้อมช่วยเหลือต่อไป ยิ่งปีติยินดี เห็น “องค์กรพระธรรมทูต” ในไทย แสดงความอาลัยต่อการสูญเสีย ยิ่งทำให้ความหดหู่ที่เราเจอ ทำให้รู้ว่า โลกนี้ยังมี “กัลยาณมิตร” ที่ดีอีกมาก พร้อมช่วยเหลือและเยียวยา ชาวพุทธ ด้วยกัน

“เปรียญสิบ” ในนามคณะสงฆ์ไทยและประชาชนชาวไทย ขอให้คณะสงฆ์พม่า และประชาชนชาวเมียนมา มีความหวังและมีพลังที่จะสู้ต่อไปบนโลกใบนี้ที่นับวันภัยธรรมชาติยิ่งรุนแรงขึ้นครับ
…………..
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย… “เปรียญสิบ”: [email protected]