“เปรียญสิบ” ลงพื้นที่ภาคใต้มาแล้วนับสิบครั้ง ติดตามคณะรัฐมนตรีบ้าง ไปทำถ่ายทอดรายการสดบ้าง หรือแม้กระทั่งไปทำงานเพื่อติดตามวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ อันเป็น “พื้นที่สีแดง” ก็หลายรอบ
จับเข่าคุยกับทหารตำรวจ นักวิชาการ คนมุสลิม คนพุทธ และทั้งพระคุณเจ้า หลายครั้ง
แม้กระทั่งในส่วนกลางก็เคยผลิตรายการโทรทัศน์ทั้งที่ช่องNBT และสปริงนิวส์ โดยได้รับงบสนับสนุนจาก ศอ.บต.ก็หลายวาระด้วยกัน
พื้นที่ภาคใต้ ต้องยอมรับว่า “คนมุสลิม” บางส่วนต้องการ “ปกครองตนเอง” หรือ “ต้องการสุด” คือ แยกดินแดนเป็น “รัฐปาตานี”
ขณะที่ “ชาวพุทธ” บางคนบางรูปก็มองว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ “บ้านเกิดเมืองนอน” ต้องอยู่ร่วมกับคนมุสลิมที่หลายครอบครัวก็เชื่อมโยงกันทางสายเลือดบ้าง ผ่านการแต่งงานบ้าง
“ชาวพุทธ” มองว่าคนมุสลิมส่วนใหญ่ ไม่มีพิษมีภัย อยู่ร่วมกันได้ เพียงแต่มี “กลุ่มโจรร้าย” ที่ต้องการแยกดินแดน พยายาม “ผลักดัน” ให้ชาวพุทธออกจากพื้นที่ ซึ่งฟังจากชาวพุทธหลายครอบครัวบอกว่า หาก “ต้องย้าย” ก็ไม่รู้จะไปไหน เพราะเกิดและโตที่นี่ มีบ้านมีเรือนอยู่ในพื้นที่
ขณะที่เวลาเราไปพูดคุยกับ “นักวิชาการ-นักศึกษา” ส่วนใหญ่มองว่า “งบประมาณ” คือ ตัวปัญหาหลักตัวหนึ่ง ที่ “ความรุนแรง” เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และไม่มีวันจบ ซ้ำบอกต่อว่า “ยามใดสงบ” งบประมาณไม่ลง!!
ชาวบ้านมองว่า “งบประมาณ” และ “ของเถื่อน” ล้วนเชื่อมโยงกับความรุนแรง..ชายแดนใต้
คิดง่าย ๆ ขนาด “สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ” องค์กรเล็ก ๆ มีงบประมาณดูแลพระสงฆ์ชายแดนใต้ 5 จังหวัดถึง 130 ล้านบาทต่อปี
“เปรียญสิบ” ไม่มีความรู้เรื่อง “ความขัดแย้ง” ในพื้นที่ชายแดนใต้อะไรมาก เพียงแต่ฟังมาแบบนี้
บทเรียนตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2562 “พระครูประโชติรัตนานุรักษ์” เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส ถูกโจรร้าย 10 คนบุกยิงมรณภาพคาวัด จนล่าสุดยิง “สามเณร” มรณภาพ
ถามว่า ตามหาคนร้าย เจอแล้วหรือยัง ล่าสุดที่บอกว่า “จับได้แล้ว” มีข่าวออกมาแล้วว่า “อาจเป็นแพะ”
สุดท้าย..ข่าวพระถูกฆ่า สามเณรถูกยิง รัฐบาล มหาเถรสมาคม และชาวพุทธก็จะปล่อยไป “ลอยไป”
ยังไม่มีองค์กรใดหรือใครคิดและทำ เพื่อแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้าง หรือ สนับสนุนให้ “ชาวพุทธ” มีความมั่นใจและปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ไม่มีใครคิดหรือทำ เพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนพุทธ มีโควตาเรียนฟรีในธรรมศาสตร์ จุฬาฯ โรงเรียนนายร้อย หรือสถาบันมีชื่อเสียงอื่น ๆ แล้วกลับไปบรรจุเป็นข้าราชการ..พัฒนาบ้านเกิด
ไม่เคยมีโควตาพิเศษสำหรับ “สมณศักดิ์” หรือ “ตำแหน่งปกครอง” ให้พระภิกษุที่จำพรรษาชายแดนใต้ ที่อุทิศตนในการเป็นเสาหลัก คอยสร้างขวัญและกำลังใจ สร้างความอบอุ่นให้กับชาวพุทธในชายแดนใต้
และทั้งไม่มีโควตาพิเศษให้พระภิกษุหรือชาวพุทธชายแดนใต้ได้มีโอกาสไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดียหรือโควตาพิเศษไปร่วมกิจกรรมอื่น ๆ ในทางพระพุทธศาสนา
เรื่องพวกนี้ มหาเถรสมาคม และ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ คิดเป็นหรือไม่!!
แต่..องค์กรมุสลิม นักการเมืองมุสลิม และรวมทั้งกลุ่ม NGO ของคนมุสลิมเขาคิดและทำแล้วด้วย
“เปรียญสิบ”เคยเรียกร้องให้รัฐบาลเพื่อไทยจัดตั้ง “คณะพิเศษ” เป็นการเฉพาะเพื่อสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนา คณะสงฆ์ และชาวพุทธใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับฟื้นโครงการพระธรรมทูตอาสา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำงานเชิงรุกเหมือนกับพระธรรมจาริกโปรดชาวดอย..
สุดท้าย..หมดหวังและสิ้นหวัง
อย่าปล่อยให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร รวมทั้งชาวพุทธชายแดนใต้ มรณภาพฟรี ศพแล้วศพเล่า!!
…………….
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย… “เปรียญสิบ”: [email protected]
