วันจันทร์, พฤษภาคม 19, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTSว่าด้วยเรื่อง “สตรี-สตางค์”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ว่าด้วยเรื่อง “สตรี-สตางค์”

“เปรียญสิบ” ไม่อยากจะตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “ทิดแย้ม” เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต มันก็จะเกิดขึ้นแบบนี้อีก มันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว

เพียงแต่ “ชาวพุทธ” บ้านเรา มอบพระพุทธศาสนาและวางใจ ซ้ำทะนุบำรุง “พระสงฆ์” จนเกินควร ทำให้มี “พระภิกษุบางรูป” ประพฤติตน กลายเป็น “นอกรีต” พระธรรมวินัยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

“เปรียญสิบ” เชื่อว่า มีวัดและพระภิกษุอีกหลายรูปที่มีลักษณะเช่นเดียวกับ “ทิดแย้ม” โดยเฉพาะ วัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีผู้คนเข้าไปทำบุญกันมาก ไม่ว่าจะเป็น “วัดใหญ่” ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือ “วัดรอบเมือง” วัดดังๆ ล้วนมี “เจ้าแม่” กันทั้งนั้น

“เปรียญสิบ” ในฐานะพุทธบริษัทสี่ที่ “พระพุทธองค์” ฝากศาสนาไว้ ที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน มักเตือน “พระสงฆ์” อยู่เสมอๆ ว่า “สตรีและสตางค์” คือ ภัยอันยิ่งใหญ่ของความเป็น “สมณเพศ”

การพูดแบบนี้โดยยึดหลัก “ปาราชิก 4” เป็นตัวตั้ง ยึดพระวินัยเป็นหลักเกณฑ์ ยังไม่ต้องพูดถึงกฎหมายบ้านเมือง ที่ปัจจุบันเข้ามาตรวจสอบสถาบันสงฆ์อีกจำนวนมากมาย

หลายวัดทำวัดเสมือน “บริษัทจำกัด” บริหารโดย “เจ้าอาวาส-กรรมการวัด…เพียงแต่ชื่อ” และเกือบทุกวัด มี “เจ้าแม่” แฝงอยู่ทั้งนั้น บริหารจัดการวัดทั้งเรื่อง “วัตถุมงคล-ก่อสร้าง” หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก

ไม่เว้นแม้กระทั่งวัดที่มี “พระสมเด็จ” เป็นเจ้าอาวาส

ทิดแย้ม

กรณี “ทิดแย้ม” เชื่อมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า “ทิดแย้ม” อาจไปมีอะไรกับ “หญิงนายหน้า” เว็บการพนัน สุดท้าย…เริ่มมีข่าวมาบางส่วนแล้วว่า “ทิดแย้ม” พลาดเพราะไปคุย “โฟนเซ็กซ์” แล้วหญิงดังกล่าว ข่มขู่ “รีดเงิน” เรื่อยมา

“เปรียญสิบ” เคยบอกแล้ว ยุคนี้ “ผู้หญิง” มีสามี-ไม่มีสามี-หญิงหม้าย มักเข้าไปตีสนิท “พระ” ขอเบอร์-ขอไลน์ สุดท้ายชวนคุยเรื่อง “บนเตียง” หากเห็น “พระ” รับลูก ส่งภาพโป๊ เปลือย ต่อด้วย “โฟนเซ็กซ์” สุดท้าย “ตบทรัพย์” 

หรือยุคนี้เกิดมี “พระเหงา” หาเพื่อนคุย เกิดแอดไลน์-แลกเบอร์ ส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น วัยทำงาน หน้าตาดี ชวนเล่น “การพนัน” อาจมีเรื่อง “บนเตียง” เป็นของแถม

“เปรียญสิบ” รู้ได้ไง ก็อาตมาเป็น “พระเก่า” รู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี

ความจริง พระพุทธองค์เคยเตือนพระภิกษุเรื่องภัยของ “สตรี” ไว้เป็นอย่างดี ดังมาในพระสูตรว่า…

“พระอานนท์ทูลถามพระพุทธองค์ว่า พวกข้าพระองค์พึงปฏิบัติกับสตรีภาพอย่างไร จึงจะเหมาะสม  พระพุทธองค์ทรงรับสั่งว่า “การที่ไม่เห็นนั่นแหละเป็นการดี” พระอานนท์ก็ทูลถาม “ถ้าหากว่าจำเป็นที่จะต้องได้เห็นล่ะ” ก็อย่าพึงเข้าใกล้ เมื่อจำเป็นต้องเข้าใกล้ ก็ไม่ต้องคุยนั่นแหละเป็นการดี แต่หากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องพูดล่ะ พระพุทธองค์ก็รับสั่งว่า ก็ให้มีสติสัมปชัญญะ และการคุยนั่น อย่าให้ความกำหนัดยินดีเกิดขึ้นในใจ..”

ส่วนเรื่อง “เงิน” หากยึด “พระวินัย” อย่างเคร่งครัด ไม่รู้จะเหลือพระภิกษุที่แท้จริงกี่รูป เพราะบางรูป เงินวัดเงินส่วนตัวหรือของสงฆ์ “มั่ว” ไปหมด

อย่าว่าแต่ “พระสังฆาธิการ” เจ้าอาวาสทั่วประเทศเลย ดีไม่ดีวัด “กรรมการมหาเถรสมาคม” ซึ่งควรเป็นแบบอย่างให้กับคณะสงฆ์ทั่วประเทศ ก็ “อาจมั่ว” แบบดังที่ว่ามา

ชูสํกดิ์ ศิรินิล

“ชูศักดิ์ ศิรินิล” บอกว่า “จะตรวจสอบวัดทั่วประเทศ” หึ หึ “เด็กน้อย” รู้จักพระสงฆ์น้อยไป

พระสงฆ์ยุคนี้..บางรูปนอกจาก “หลอกโยม” แล้ว “บางรูป” ยังทำตัวเป็น “ลิงหลอกเจ้า” ก็มี

“เปรียญสิบ” อยากจะต่อด้วยพระสูตรว่าด้วย “ชาวนากับอสรพิษ”

“ที่พระพุทธองค์ตรัสถามพระอานนท์ ว่าเธอเห็นอสรพิษไหม ซึ่งเป็นพระสูตรที่พระพุทธองค์ทรงแสดงถึงความร้ายกาจของเงินประดุจ อสรพิษร้าย ที่พระพุทธองค์ทรงหมายถึงว่า ธรรมชาติของเงินนั้น มีความร้ายกาจประดุจงูเห่า ถ้าผู้ใช้ใช้ด้วยความประมาท หรือเกี่ยวข้องกับเงินโดยไม่ระวัง ไม่เป็นอย่างถูกต้องชอบธรรมแล้ว ก็จะถูกงูเห่ากัดตายได้.”

ทำไมพระภิกษุสงฆ์ ผู้ที่ควรแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ญาติโยมอุตส่าห์เสียสละเงินที่หาได้ยาก ถวายน้ำ-ถวายข้าว-ถวายทุกอย่าง ที่พระภิกษุควรจะมีได้ มิได้ตระหนักในเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนสั่งไว้!!

“เปรียญสิบ” คิดเขียนแบบนี้ อาจมี “พระสงฆ์-ชาวพุทธ” บางคนบอก ไอ้นี่ “ลืมบุญคุณผ้าเหลือง” ช่างแม่ง!!

“เปรียญสิบ” มีหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนา มิได้มีหน้าที่ปกป้องพระสงฆ์!!

…………….

คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย… “เปรียญสิบ”: [email protected]

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img