วันพุธ, มกราคม 15, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTSปมเสี่ยงไฟเขียว“กาสิโน”ถูกกฎหมาย “ฟอกเงิน-ล็อกสเปค”…สังคมเสื่อม !?
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ปมเสี่ยงไฟเขียว“กาสิโน”ถูกกฎหมาย “ฟอกเงิน-ล็อกสเปค”…สังคมเสื่อม !?

ในที่สุดรัฐบาลภายใต้การนำของ “แพทองธาร ชินวัตร” ก็สานต่อแนวทางเดียวสมัย พรรคไทยรักไทย (ทรท.) เป็นรัฐบาล นำธุรกิจ “ใต้ดิน” มาอยู่ “บนดิน” เหมือนกรณีนำเลขท้าย 3 ตัว ขึ้นมาขายแบบถูกกฎหมาย ด้วยเหตุผลหวังเก็บภาษีจากธุรกิจเหล่านั้น มาเป็นรายได้เข้ารัฐ ภายใต้ พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์

สำหรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … กำหนด ประเภทธุรกิจสถานบันเทิงไว้ 10 ประเภท ได้แก่ 1.ห้างสรรพสินค้า 2.โรงแรม 3.ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโก้เธค ผับ หรือบาร์ 4.สนามกีฬา 5.ยอชต์และครูซซิ่งคลับ 6.สถานที่เล่นเกม 7.สระว่ายน้ำและสวนน้ำ 8.สวนสนุก 9.พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP และ 10.กิจการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด

นอกจากนั้นยังกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมต่าง อาทิ ใบอนุญาตครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท-รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท, ต่ออายุใบอนุญาต ฉบับละ 5,000 ล้านบาท-รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท, ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท

แม้จะประกอบด้วยธุรกิจหลายประเภท แต่หลายฝ่ายก็พุ่งเป้าไปที่ การไฟเขียวให้มี “กาสิโน” อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งในที่สุดที่ประชุม ครม. ก็ให้ความเห็นชอบ แต่ก็ยังมีข้อท้วงติงจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งจาก สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดย “คณะกรรมการกฤษฎีกา” ให้ความเห็นไว้ 6 ประเด็น ถึงรายละเอียดไม่ตรงจากที่ แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ที่มุ่งเน้นใน การส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย แต่การจัดให้มี การเล่นกาสิโนด้วย อาจไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล 

ปกรณ์ นิลประพันธ์

โดย “ปกรณ์ นิลประพันธ์” เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา มองว่า “คำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะต้องไปดู Man-made destination หรือ “แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น” จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่นๆ และเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์เข้าไปอยู่ในนั้น ดังนั้นถ้าจะเป็น Man-made destination ควรจะเขียนให้กว้างขึ้น เพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนฯ ที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการพนัน”

ส่วน “สศช.” เห็นว่า “การเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ตามกิจกรรมที่กำหนดในบัญชีแนบท้ายร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะมีบทบาทในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่มีความเห็นเพิ่มเติม 4 ข้อ ดังนี้

1.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควรมุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสันทนาการสำหรับครอบครัวที่ประชาชนสามารถได้ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยธุรกิจที่สุ่มเสี่ยง อาทิ กาสิโนต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

2.เงินจากการพนันมีลักษณะเป็นเงินโอน จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ

3.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควรเน้นการพัฒนาพื้นที่ส่วนใหญ่ในกิจกรรมตามบัญชีแนบท้ายร่างพ.ร.บ.นี้เป็นลำดับแรก หากมีธุรกิจกาสิโนร่วมอยู่ด้วยจะต้องเป็นพื้นที่ส่วนน้อยของการพัฒนาทั้งโครงการ

4.ธุรกิจกาสิโนเป็นธุรกิจที่มีนัยต่อการพัฒนาประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะผลกระทบด้านลบต่อสังคม กระทรวงการคลัง จึงควรศึกษาผลประโยชน์และผลกระทบให้มีความชัดเจน และระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งศึกษาทางเลือกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่อาจมีผลกระทบทางสังคมน้อยกว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวมต่อไป

ถือเป็นการตั้งข้อสังเกตที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะ ธุรกิจกาสิโน มีผลกระทบต่อด้านลบของสังคม จึงควรศึกษาผลประโยชน์และผลกระทบให้มีความชัดเจน เพราะใครที่ติดตามข่าวจะพบว่า การก่ออาชญากรรมหลากหลายรูปแบบ ส่วนหนึ่งต้นเหตุมาจากการติดการพนัน ยิ่งปัจจุบันพนันออนไลน์มีรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่าย ดังนั้น หากวางกฎเกณฑ์ต่างๆ ไว้ไม่ดี อาจทำให้มีประชาชนที่ไม่มีความพร้อมในด้านรายได้ หลงเข้าไปติดบ่วงธุรกิจกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย แล้วก่อให้เกิดผลกระทบกับสังคม อีกทั้งในอนาคตฝ่ายบริหาร อาจผลัก การพนันออนไลน์ ให้ถูกกฎหมายขึ้นมาอีกด้วย

รังสิมันต์ โรม

ขณะที่ข้อสังเกตที่น่าสนใจ มาจาก “รังสิมันต์ โรม” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้ความเห็นกรณีกระทรวงการคลังเสนอร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรว่า “มีทั้งได้และเสีย ปัญหาอยู่ที่ อย่าไปคิดว่า หากทำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แล้วจะสวยหรูในทันที เพราะมีความท้าทายอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของเงินสีเทา ทุนสีเทาต่างๆ และช่วงที่ผ่านมาจะพบว่า รัฐบาลนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องทุนเทาได้ การจะมีเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์เข้ามา สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ จะรับมืออย่างไรกับการฟอกเงิน ซึ่งจะต้องมีแน่ล้านเปอร์เซ็นต์ที่จะมีคนนำเงินจากธุรกิจผิดกฎหมายมาฟอกในกาสิโนที่อยู่ในเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์

เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเตรียมตัวแก้ปัญหาเรื่องพวกนี้ด้วย คิดว่าก่อนจะทำ ต้องทำให้ระบบกฎหมายเข้มแข็ง และความโปร่งใสที่จะทำโปรเจกต์นี้ ก็มีคำถามว่า รัฐบาลจะมีมาก-น้อยแค่ไหน ทางปฏิบัติเมื่อรัฐบาลกำหนดว่า ต้องเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ไซส์ใหญ่มาก แน่นอนว่า ต้องสามารถทำให้คนที่จะมาลงทุนด้านนี้ อาจจะมีขึ้นเยอะ รวมถึงอาจจะมีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลผ่านการกำหนดพื้นที่และการให้ใบอนุญาต

“รัฐบาลต้องตอบคำถามให้ได้ชัดเจนว่า รัฐบาลไม่มีส่วนได้-เสีย และจะมั่นใจได้อย่างไรว่า การได้ใบอนุญาตต่างๆ เกิดจากการใช้ดุลพินิจที่ตั้งอยู่บน ผลประโยชน์ของประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของรัฐบาล ตอนที่มีการประกาศรับฟังร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไปก่อนหน้านี้ เมื่อดูโครงสร้างหน้าตาจะเห็นว่า นายกฯเป็นคนที่พิจารณาให้ใบอนุญาต การกำหนดพื้นที่ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม จึงรู้สึกว่ามีความสุ่มเสี่ยงมากที่นายกฯจะเข้ามามีบทบาทเรื่องการ เรียกรับผลประโยชน์ หรือมีผลประโยชน์ได้-เสียบางอย่างจากการให้ใบอนุญาต คิดว่าหากรัฐบาลอยากจะทำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ มีความกังวลว่าจะกลายเป็นปัญหาใหม่ที่ซ้ำเติมปัญหาเก่าที่ยังแก้ไม่จบในเรื่องของทุนสีเทา” รังสิมันต์ กล่าวย้ำ

ประเด็นสำคัญที่ แกนนำพรรคฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกต คือ จะรับมืออย่างไรกับการฟอกเงิน ซึ่งจะมีบางคนนำเงินจากธุรกิจผิดกฎหมาย มาฟอกเงินในกาสิโน ที่อยู่ในเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ การได้ใบอนุญาตของเอกชน ที่สามารถเข้าประกอบธุรกิจกาสิโนได้ จะเป็นไปอย่างโปร่งใส และไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่เริ่มมี “กลุ่มทุน” ประกาศความพร้อมที่จะลงทุนสถานบันเทิงครบวงจรในไทย เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม โดย “ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” ประกาศว่า พร้อมจะลงทุนในสถานบันเทิงครบวงจรในไทย ร่วมกับ บริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ RSC และ พันธมิตรต่างชาติอีก 4 ราย สัญชาติเกาหลี อเมริกา และจีน โดยใช้ชื่อโครงการว่า The Royal Siam Haven ประเมินมูลค่าการ ลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท โครงการนี้จะเป็นทั้งสนามม้าแห่งใหม่เพื่อ การแข่งขันระดับสากล โรงแรมระดับ 6 ดาว สนามกอล์ฟ ยอร์ชคลับ ภัตตาคารหรู โรงละคร โรงพยาบาล การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ศูนย์การเรียนรู้ กิจกรรมกีฬาและบันเทิงอื่นๆ อีกมากมาย 

กลุ่มบริษัท สยามพาร์คซิตี้ หรือ กลุ่มสวนสยาม โดย ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ, บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA ผู้รับสัมปทานพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีเนื้อที่ 1,200-1,500 ไร่

กลุ่มเดอะมอลล์ โดย ศุภลักษณ์ อัมพุช และ บริษัท พราว กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงท่องเที่ยว โดย พสุ ลิปตพัลลภ บุตรชายของสุวัจน์ ลิปตพัลลภ

ขณะที่ การเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย เป็นหนึ่งเรื่องที่ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ โดยศึกษามาตั้งเเต่ ธ.ค.2564 สภาผู้แทนราษฎรมีมติ 310 ต่อ 9 ให้ตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษา เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จาก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าประเทศ ระบุถึงการสนับสนุนการตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจร 3 พื้นที่ด้วยกัน 1.กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รัศมีไม่เกิน 100 กิโลเมตร จากสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา 2.จังหวัดท่องเที่ยวหลัก 22 จังหวัด 3.จังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หากเป็นภาคใต้ควรสร้างที่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี หนองคาย

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์

ด้าน “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง ยืนยันว่า ในส่วนของการกำหนดพื้นที่ หรือกิจการ จำนวนของผู้ที่จะเข้ามาลงทุนนั้น กระทรวงการคลังไม่ได้มีอำนาจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะ การพิจารณารายละเอียดต่างๆ จะเป็นอำนาจของสำนักงาน และกรรมการบริหารเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายฉบับนี้ จะเป็นผู้พิจารณาทั้งหมด

“กระทรวงการคลังไม่ได้มีเป้าหมายว่า จะสร้างกี่แห่ง และไม่มีหน้าที่กำกับ อีกทั้งในคณะกรรมการก็ไม่มีรมช.คลัง เพราะที่ผ่านมาได้รับมอบหมายให้ไปยกร่างกฎหมาย ก็ทำไปแค่นั้น ไม่ได้ระบุว่าต้องมีจำนวนเท่าไหร่ หนักที่สุดคือมีการบอกว่าใครจะมาทำตรงไหน ยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่มีการพูดคุย ต้องโปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยการลงทุนก็ต้องออกทีโออาร์ ผู้ลงทุนต้องเสนอเข้ามาแข่งขันกัน แต่ทั้งหมดนี้คณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนดและพิจารณารายละเอียดต่อไป” รมช.คลัง กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ผ่านความเห็นชอบจาก กระบวนการรัฐสภา จะมี “เอกชนรายใด” ยื่นขอประกอบธุรกิจบ้าง เพราะก่อนหน้านั้นมีข่าว มี “นักธุรกิจบางราย ที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาล” มีความประสงค์จะทำธุรกิจกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย จะยื่นขอใบอนญาติด้วยหรือไม่

ซึ่งหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่วางไว้ แม้จะเป็นเรื่องของ คณะกรรมการพิจารณา แต่ อำนาจฝ่ายบริหาร ก็สามารถ “ชี้นำ” ได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องรอดูเมื่อถึงวันนั้น การพิจารณาจะมีความโปร่งใส และไร้ข้อครหาได้มากน้อยขนาดไหน และถือเป็นความเสี่ยงของรัฐบาล เพราะให้ความเห็นชอบ ในช่วงพรรคฝ่ายค้านที่นำโดย “พรรคประชาชน” เตรียม ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อว่าเรื่องนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ เพราะเป็นประเด็นที่มีความคิดเห็นสองมุมมอง ทั้งมี ฝ่ายค้าน และ คนที่ออกเสียงสนับสนุน ซึ่งมีทั้งด้านลบและด้านบวก

แม้ภาครัฐจะเชื่อมั่นว่า ในส่วนของ การลงทุนจริง แต่ละจุดที่เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.2-2.4 แสนล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5-10% โดยเฉพาะการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวใน ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว ได้อย่างน้อย 13% สามารถลดช่องว่างทางรายได้ระหว่าง ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และ นอกฤดูกาล ได้แคบลงกว่าเดิม รวมทั้ง เพิ่มรายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อราย

สร้างการจ้างงาน 9,000-15,000 ตำแหน่ง โดยการลงทุนแต่ละจุด จะช่วยสร้างรายได้ให้กับรัฐไม่ต่ำกว่า 1.2-4 หมื่นล้านบาท ส่วน รายได้ส่วนใหญ่ เกิดจากธุรกิจที่เป็นโรงแรม สวนสนุก สถานที่ท่องเที่ยว

อีกส่วนคือรายได้จากการพนัน โดยรายได้ทั้งหมดนั้น จะนำไปพัฒนาประเทศ และนำกลับไปเยียวยากำกับและบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมการพนันต่อไป

แต่ “ผลลบ” ที่ตามมา ทั้งเรื่อง “อาชญากรรม” กระตุ้นให้ คนอยากเล่นการพนันมากขึ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย ต้องรอดู “ผลลัพธ์” กับ “ผลเสียที่เกิดขึ้น” อะไรจะมีน้ำหนักมากขึ้นกว่ากัน!!!

…………

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย…“แมวสีขาว”

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img