วันอาทิตย์, เมษายน 13, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTSเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญ-ถูกร้องผิดจริยธรรม ‘นายกฯอิ๊งค์’ถอย-ยังไม่กล้าดัน‘กาสิโน’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญ-ถูกร้องผิดจริยธรรม ‘นายกฯอิ๊งค์’ถอย-ยังไม่กล้าดัน‘กาสิโน’

ในที่สุด รัฐบาล ภายใต้การนำของ “แพทองธาร ชินวัตร” ก็ฝ่าแรงต้านไม่ไหว ขอเลื่อนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์) จากเดิมที่ถูกบรรจุวารในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 9 เม.ย. ซี่งเป็นสัปดาห์สุดท้าย ก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาฯเป็นเวลา 3 เดือน 

โดยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 เม.ย. “นายกฯอิ๊งค์” ได้นำ “หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล” มายืนแถลงข่าวร่วมกัน โดยระบุว่า “มีการประชุมร่วมกันของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค โดยเล็งเห็นถึงปัญหาวิกฤติต่างๆ ที่ประเทศเรากำลังประสบตอนนี้ ทั้งเรื่อง “แผ่นดินไหว” และการเยียวยา จะดูแลแน่นอน ทั้งคนไทย และคนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะดูเรื่องการยกเว้นกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อจะได้ช่วยประชาชนที่ประสบภัยได้มากยิ่งขึ้น ก็อยู่ในกระบวนการพิจารณา นอกจากนั้นยังมีเรื่องของภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ”

เมื่อถามว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร จะเลื่อนการพิจารณาของสภา จากเดิมคือ 9 เม.ย.68 นี้หรือไม่ นายกฯอิ๊งค์ กล่าวว่า “เดี๋ยวดูว่า ในสภาฯจะอย่างไรต่อ ซึ่งที่คุยกับพรรคร่วมฯ ก็เอาเรื่องที่เร่งด่วนก่อน เราไม่ได้ถอนหรือดึงร่างกลับมา ระหว่างนี้ก็รับฟังความคิดเห็นได้เรื่อยๆ ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นว่า เราควรจะเรียงลำดับความสำคัญ” 

เมื่อถามว่า ร่างพ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร จะนำเข้าพิจารณาในสภาฯสมัยประชุมหน้าหรือไม่ นายกฯอิ๊งค์ กล่าวว่า “ค่ะ”

ก่อนหน้านั้น ยิ่งใกล้วันที่สภาฯจะพิจารณา ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งกำหนดให้รวมกับพื้นที่ตั้ง “กาสิโน” ซึ่งมี 10% ในวันที่ 9 เม.ย. ก็ถูกวิจารณ์ว่า ถูกกาลเทศะหรือไม่ เนื่องจากห้วงเวลานี้ เมืองไทยกำลังเกิด 2 เหตุการณ์สำคัญ

เรื่องแรก ความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มลงมา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการ เกิดแผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา ท่ามกลางข้อสงสัยหลากหลายประการ 

อีกประเด็นหนึ่ง คือ “สึนามิทางเศรษฐกิจ” หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศ ปรับขึ้นภาษีสินค้าไทย 36% จนเกิดคำถามว่า “รัฐบาลแพทองธาร” เตรียมมาตรการไว้รับมืออย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับมิตรประเทศในอาเซียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)

ขณะที่ กระแสต่อต้าน “บ่อนกาสิโน” ก็ดังมาจากทุกทิศทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชน 100 องค์กร ที่ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา รวมถึงผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เพื่อเรียกร้องให้ ส.ส.ไม่รับหลักการร่างกฎหมายกาสิโนที่รัฐบาลส่งมายังสภาฯ

ขณะเดียวกันก็ทำให้กระบวนการภาคประชาชนอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วย ออกมาประกาศจุดยืนเป็นจำนวนมาก เช่น กลุ่มเพื่อนมหิดลเพื่อสังคม-ชมรมแพทย์อาวุโสและบุคลากรทางการแพทย์-อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.)-อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)-ตัวแทนองค์กรศาสนาต่างๆ รวมถึงที่ประชุมราชบัณฑิตและภาคีสมาชิกสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา ก็มีมติให้ยุติการนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นวาระเร่งด่วนในวันที่ 3 เม.ย.เพราะจะเป็นการ “ได้ไม่คุ้มเสีย” ที่จะก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงหลายอย่างตามมา

นี่ยังไม่นับรวมถึง “โลกออนไลน์” ที่มีการแสดงความคิดเห็น “ต่อต้าน” อย่างกว้างขวาง

นอกจากนี้ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูประเทศไทย, ศปปส., กองทัพธรรม นำโดย “พิชิต ไชยมงคล” แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และ “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานพรรคไทยภักดี (ทภ.) และ “จตุพร พรหมพันธุ์” แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ที่เดินทางมาชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว ก็มีการ จัดชุมนุมคัดค้านอย่างต่อเนื่อง

แต่ที่น่าสนใจคือ ความเคลื่อนไหวของชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 2550 นำโดย “ศ.พิเศษจรัญ ภักดีธนากุล” ได้ทำหนังสือถึงประธานรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภา เรียกร้องสมาชิกรัฐสภาไม่รับหลักการของร่าง พ.ร.บ.การประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยระบุว่า “ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะเร่งรีบพิจารณา เพราะไม่ปรากฏในนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย (พท.) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ (รธน.) แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65 พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ.2560 และประกาศพระบรมราชโองการเรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ลงวันที่ 6 ต.ค.2561” ในส่วนสำคัญคือ วิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ระบุว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง”

“จะส่งผลให้บรรดาผู้กระทำต้องตกเป็นผู้กระทำการใช้อำนาจอธิปไตยอันไม่ชอบด้วยรธน.และกฎหมาย และอาจต้องรับผลจากการกระทำของตนด้วยบทบัญญัติอันเกี่ยวกับ มาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ”

ขณะที่เมื่อวันที่ 8 เม.ย 68 ที่รัฐสภา กลุ่ม สว. นำโดย​ “พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์” โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการวุฒิสภา​ (วิปวุฒิฯ) แถลงคัดค้านการนำร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร​ ที่มีกาสิโนรวมอยู่ด้วย​ เข้าสู่การพิจารณาของ ส.ส.ว่า​ “การนำกฎหมายเข้าสู่วาระการประชุมสภาฯ ในวันที่ 9 เม.ย.มองว่าเป็นการเร่งรัด ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ขัดต่อหลักนิติธรรมและหลักธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรง เพราะกฎหมายดังกล่าว ไม่ได้มีการจัดทำประชามติ​ ถามประชาชนเลย​ ทั้งที่กฎหมายประชามติ​ ชัดเจนว่า หากเรื่องใดที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสำคัญของรัฐ หรือกิจการที่กระทบต่อประโยชน์ได้เสียของประเทศชาติ และประชาชน ควรให้มีการจัดทำประชามติก่อน จึงถือเป็นการเพิกเฉย ต่อบทบัญญัติของกฎหมาย และขาดความชอบธรรม จากประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย​”

“ควรจะหยุดไว้ ก่อนที่ประเทศจะต้องสูญเสียสิ่งที่ไม่อาจประเมินค่าได้ในระยะยาว สุดท้ายหากสภาฯผู้แทนราษฎรโหวตรับร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ขั้นตอนต่อไปวุฒิสภา จะเข้าชื่อยื่นร้องเรียนต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือศาลรธน.ในส่วนความผิดจริยธรรมต่อไป ยืนยันว่า สว.ที่ คัดค้านตอนนี้ มีกว่า 90% มีเพียง​ 5-6 คนเท่านั้นที่ยังเห็นด้วย​” พิสิษฐ์ กล่าวย้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น​ กลุ่ม สว.ได้ร่วมกันทำสัญลักษณ์ด้วยการทำมือเป็นรูปกากบาท​ แสดงให้เห็นถึง การคัดค้านกาสิโนในประเทศไทย

เชื่อว่า การชี้ช่องดังกล่าวจะมีนัยยะสำคัญ หากร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ จะมีคนไปร้อง ว่า การให้ความเห็นชอบร่างดังกล่าว อาจขัดกับรัฐธรรมนูญและผิดมาตรฐานจริยธรรม ซึ่งจะส่งทำให้กระทบกับ “สถานะของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล” และ “ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต” การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน และปมร้อนดังกล่าว อาจมีปัญหาในเรื่องข้อกฎหมาย อาจส่งผลทำให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเกิดภาวะระส่ำระสาย ลังเลกับการยกมือให้ความเห็นชอบ

จึงไม่แปลกที่จะมีข่าว “ทักษิณ  ชินวัตร” อดีตนายกฯ เตือนพรรคร่วมรัฐบาล หากไม่โหวตให้ความเห็นชอบ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ที่หลายคนเรียกว่า “พ.ร.บ.กาสิโน” จะขับพ้นจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ทำให้ “สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ต้องรีบออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว เพราะเกรงถูกมองว่า “ทักษิณ” ซึ่งเป็น “คนนอก” เข้ามาครอบงำ เพราะอาจมีคนไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเพื่อไทยก็ได้

โดย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า “เดี๋ยวนี้ใครก็บอกได้ว่าเป็นแหล่งข่าว การพูดเช่นนี้ ใครก็พูดลอยๆได้ และความเสียหายก็เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งถามว่า มีหลักฐานอะไร และไม่มีความเป็นธรรมให้พวกผมเลย ในฐานะพรรคการเมือง เมื่อมีข่าวออกมา พวกผมก็ต้องมานั่งแก้ข่าวกัน ซึ่งไม่โอเค”

“เอาตามที่สบายใจ เพราะพวกผมทำอะไรไม่ได้ หลังจากที่มีข่าวออกมาแล้ว พวกเราก็ต้องมานั่งแก้ข่าว ว่าไม่ใช่ความจริง ส่วนคนจะเชื่อหรือไม่เชื่อในส่วนนี้ พวกผมก็ไปห้ามไม่ได้ ฉะนั้น เวลาที่มีการบอกว่า แหล่งข่าวรายงานว่า ถามว่าแหล่งข่าวไหน แบบนี้พวกผมก็บอกว่า แหล่งข่าวรายงานว่า พวกผมคุยกับฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้วได้ แต่ความจริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ จึงบอกว่าการทำการเมืองเช่นนี้มันย้อนกลับไป อยู่ดีๆ คิดจะพูดอะไรก็พูดได้ มันไม่ถูก” สรวงศ์ กล่าว

แต่หลายคนเชื่อว่า รายงานข่าวดังกล่าวเป็นความจริง เพราะแนวคิดการผลักดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์”  เกิดหลังจาก “ทักษิณ” ไปแสดงวิสัยทัศน์ผ่าน “สื่อบางสำนัก” ต้องการให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว โดยมี “กาสิโน” อยู่ด้วย เพื่อหวังนำรายได้เข้าประเทศ หลังจากนั้น “รัฐบาลแพทองธาร” ก็ผลักดันทันที

ขณะที่ “นายกฯอิ๊งค์” ได้ตอบคำถามของสื่อ เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าว “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ขู่ขับพรรคร่วมฯพ้นรัฐบาล หากไม่โหวตกฎหมายนี้ ไม่จริงใช่หรือไม่ โดยตอบว่า “นี่ค่ะ พรรคร่วมฯอยู่ครบ ทั้งนี้ เราไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย ว่าเห็นด้วยหรือไม่ หรือจะขับ-ไม่ขับ ในฐานะผู้นำรัฐบาล อยากให้พรรคร่วมฯเกิดความสบายใจ และพร้อมที่จะเห็นด้วยด้วยความเต็มใจ นี่คือการนำแบบตน อยากให้พรรคร่วมมีความเต็มใจ ในการโหวตในการเห็นด้วย ตามหลักปกติทุกพรรคเห็นด้วยตรงกัน เป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่อยากให้ทำด้วยความรู้สึกว่าเห็นด้วยตรงกัน พร้อมไปด้วยกันอย่างเต็มที่ 100% นั่นคือสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้น”

นอกจากนี้ “ทักษิณ” ยังออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยชี้แจงว่า “เป็นการพูดกันไปเรื่อย ไม่มีการพูดถึง แต่ยอมรับว่ามีคุยกับน้องๆ ที่เจอกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเป็นเพียงการถามความคิดเห็น ไม่มีเรื่องข่มขู่ ว่าใครไม่สนับสนุนแล้วต้องพ้นจากพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มี ที่ผ่านมามีการหารือทั่วไปกับพรรคร่วมรัฐบาล เป็นเพียงการถามความคิดเห็นของแต่ละคน ก็ไม่ได้ขัดข้อง​ วันนี้นายกฯก็ได้บอก ว่าจะพิจารณาเรื่องเร่งด่วนทางเศรษฐกิจก่อน คือเรื่องการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ต้องนำเรื่องนี้มาคุยกัน เพราะประชาชนอยากรู้เรื่องนี้ ความสำคัญต้องลดลงไป ไม่ได้ยกเลิก เพียงแต่ขอเลื่อนการพิจารณาไปก่อน”

อย่างไรก็ตาม หลังปรากฏ ข่าว “ทักษิณ” ขู่พรรคร่วมรัฐบาลฯ มีความเห็นที่น่าสนใจจาก “สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” อดีตรองประธานสภาฯ และอดีต ส.ส.หลายสมัย ซึ่งเป็น บิดาของ “ภราดร ปริศนานันทกุล” ส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และ รองประธานสภาฯคนที่ 2 รวมถึง “กรวีร์ ปริศนานันทกุล” ส.ส.พรรคเดียวกัน ได้ออกมาแสดงจุดยืนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเขียนข้อความว่า “เห็นภาพข่าวนี้แล้ว ใจคอหดหู่ยิ่งนัก 93 ปีของระบอบประชาธิปไตยมันถอยหลังไปกว่าที่คิด ถ้าเป็นพรรคแกนนำแล้วมีตรรกะแค่นี้ ท่านหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลครับ ผมว่าท่านถอยมาเถอะครับ ไม่ฟังเหตุผล ไม่เคารพให้เกียรติกัน จะอยู่ร่วมกันอย่างไร อยู่ร่วมกัน แล้วสร้างตราบาปและบาดแผลให้ประเทศถอยมาเถอะครับท่านหัวหน้าทั้งหลาย”

ขณะที่ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกระแสข่าวเดียวกันว่า “ไม่ ยังไม่ได้รับการติดต่อในลักษณะดังกล่าว แต่เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า​ ส.ส.พะเยา​ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถึงประเด็นดังกล่าวว่า ไม่ใช่ความเห็นของนายทักษิณ แต่เป็นข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง ว่าให้ทำแบบนี้

คำถามคือ เป็นข้อเสนอของ “พรรคการเมืองไหน” และ “ทักษิณ” เห็นด้วยหรือไม่ “ใคร” เป็นคนปล่อยข่าวให้สื่อมวลชน เพราะเหมือนต้องการกดดันพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่เป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทย เพราะปล่อยให้ “บุคคลภายนอก” เข้ามาครอบงำ อาจมีผลทางด้านกฎหมาย จนถึงขั้นยุบพรรค

ดังนั้นต้องรอดูว่า จะมีพรรคการเมืองไหนกล้าแหกคอกหรือไม่ หากมีการนำเรื่องพ.ร.บ.กาสิโนเข้าไปพิจารณาในสภาฯ ซึ่งอาจจะมีพรรคประชาชาติ (ปช.) ซึ่งมีฐานเสียงอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งมีข้อห้ามเรื่องเล่นการพนัน

ส่วนจะมีส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลคนอื่นแตกแถวอีกหรือไม่ จากนี้ไปต้องต้องรอดู “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” จะถูกนำเข้าพิจารณาในสภาฯอีกเมื่อไหร่ 

หาก “กระแสต่อต้านบ่อนกาสิโนยังแรงไม่มีตก” มีความเป็นไปได้ร่างดังกล่าว อาจจะ “แท้ง” ก่อนก็มีความเป็นไปได้ เพราะเชื่อว่า “ทักษิณ” คงไม่อยากให้ “บุตรสาว” ต้องเผชิญความเสี่ยง ยิ่งมีคนไปเทียบกระแสออกมาต่อต้าน “ร่างพ.ร.บ.กาสิโน” บรรยากาศใกล้เคียงกับช่วงมีกระแสต่อต้าน “พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” ฉบับสุดซอย…ยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงยิ่ง

……………

คอลัมน์..ล้วง-ลับ-ลึก

โดย…“แมวสีขาว”

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img