“แม่ทัพ”ตายก่อนถึงสนามรบ “อุ๊งอิ๊ง”ติดหลุมดำ ไปไม่ถึงฝัน    

หลายครั้งการเมืองบ้านเรา มีเหตุการณ์นอกเหนือความคาดหมาย อะไรที่คิดว่าแน่-อาจจะไม่แน่ แม้กระทั่งปมในอดีต ซึ่งเกี่ยวข้องกับสำนวน “แม่สายบัว แต่งตัวเก้อ” จนกลายเป็นตำนาน ที่หลายคนยังจดจำได้มาจนถึงวันนี้

เหมือนกับสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นกับ พรรคเพื่อไทย (พท.) หลังปรากฎชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามารับตำแหน่ง “ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม” แล้ว จากนั้นสมาชิกพรรคแกนนำฝ่ายค้าน และเครือข่ายต่างตีฆ้องร้องเปล่า มั่นใจจะมีส่วนช่วย “พท.” คว้าชัยชนะ ในการเลือกตั้ง แบบแลนด์สไลด์

ด้วยนึกไปถึงประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ผ่านมา สมัยนายทักษิณเป็น หัวหน้าพรรคไทยรักไทย (ทรท.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตัวแทนพรรคพลังประชาชน (พปช.) และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัวแทนจากพรรค พท. มีโอกาสดำรงตำแหน่งนายกฯ ยิ่งได้ “ทายาท” นายทักษิณ มาช่วยถือธงนำในการเลือกตั้ง หนทางได้กลับไปยึดครองทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง ไม่น่าจะหลุดเป้าหมายไปได้

ขณะที่ “ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ” ส.ส.อุบลราชธานี และประธานส.ส.ภาคอีสาน พรรคพท. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากเข้าพบนายทักษิณ ระหว่างเดินทางมาตรวจสุขภาพที่ประเทศสิงคโปร์ ไทย กล่าวอย่างมั่นใจว่า เท่าที่ประเมินการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคพท.จะได้ ส.ส.เขต 250 คน, บัญชีรายชื่ออีก 30 คน รวมแล้ว 280 เสียง ขณะที่พรรคก้าวไกล (กก.)  จะได้ ส.ส. 20 คน, เสรีรวมไทย (สร.) ได้ 7 คน, ประชาชาติ (ปช.) ได้ 5 คน, เพื่อชาติ (พช.) ได้อีก 5 คน ทำให้มั่นใจว่า พรรคพท. จะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน

ถ้าหากผลการเลือกตั้ง เป็นไปตามที่ประธานส.ส. ภาคอีสานประเมินไว้จริง เชื่อว่าบิดาน.ส.แพทองธาร ต้องการผลักดัน “ลูกสาวคนเล็ก” เข้ารับตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลแน่ๆ เพราะย้อนดูรูปแบบการทำงานนายทักษิณ นับตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย (ทรท.) จะให้ ความไว้วางใจคนใกล้ชิด หลังจากเคยสนับสนุน “สมัคร สุนทรเวช” ให้รับตำแหน่งนายกฯ แล้วมองว่า “ควบคุมไม่ได้” นำมาสู่การเดินเกมให้นักการเมืองอาวุโส ต้องพ้นจากการเป็นหัวหน้าพรรค พปช.ในที่สุด

แม้ “อุ๊งอิ๊ง” จะให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Woody Exclusive โดย “วู้ดดี้” วุฒิธร มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดัง ผ่านช่องทางยูทูป เมื่อถูกถามว่า อนาคตมีโอกาสจะรับตำแหน่งอื่นอีกหรือไม่ เช่น นายกฯของประเทศไทยว่า “ว้าว…นายกฯเลยใช่ไหมค่ะ (หัวเราะ) ต้องแล้วแต่คนในพรรคจะเมตตาเราว่าแค่ไหน จะต้องออกมาข้างนอกว่า ประชาชนคิดอย่างไรมากกว่า”

จากนั้นเมื่อพิธีกรซักว่า ซักอีกว่า อยากเป็นไหม “แพทองธาร” นิ่งคิดชั่วครู่ พร้อมย้อนถามมาว่า “นายกฯหรอค่ะ วันนี้ใช่ไหมค่ะ ยังไม่อยากค่ะ (หัวเราะร่วนตามแบบฉบับของเธอ) แต่ก็รู้สึกว่า ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง อิ๊งว่า ถ้าเวลามันถึง มันใช่ ไม่รู้ความคิดจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่ ณ วันนี้ ที่พูดกับพี่วู้ดดี้อยู่ ยังไม่ได้อยากเป็นนายกฯ เราอยากจะเก่งกว่านี้ก่อน อยากจะมีประสบการณ์มากกว่านี้สักหน่อย”

จับอาการทายาทคนสุดท้องอดีตนายกฯ ไม่ได้ปฏิเสธการรับตำแหน่งสำคัญ เพียงแต่บอกว่า “ยังไม่ถึงเวลา ยังไม่พร้อม” แต่หลายคนเชื่อว่า ในที่สุดถ้าผลการเลือกตั้งชี้ชัดว่า พรรคพท.คว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง ได้เป็นแกนนำรัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง” คงยอมรับตำแหน่งสำคัญ เพราะการคุมอำนาจฝ่ายบริหาร จะมีส่วนช่วยให้ “บิดาบังเกิดเกล้า” เดินทางกลับประเทศไทยได้แบบไร้มลทิน

แต่การเมืองไทยมีหลายมุม มีคนรักก็ต้องมีคนชัง มีคนเกลียดก็ต้องมีคนชอบ เช่นเดียวกับคนในตระกูลชินวัตร ซึ่งถูกมองว่า มีส่วนสร้างความขัดแย้ง ให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับแต่นายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “หลบหนีคดีไปต่างประเทศ” มีคำพิพากษาถูกจำคุกติดตัวอยู่ อีกทั้งยังมีความ พยายามผลักดันกฎหมายล้างผิด โดยที่ไม่ต้องรับโทษ ทำให้เกิดมวลชนออกมาต่อต้านแนวความคิดตลอดมา

เช่นเดียวกับการเปิดตัวของ “แพทองธาร” ด้วยแคมเปญหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ยังถูกเปรียบเปรยเป็นตัวแทนตระกูลชินวัตร หวังเข้ามาสืบทอดอำนาจ จนทำให้นัการเมืองอาวุโส ซึ่งหายหน้าหายตาไปนาน อย่าง “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรค พท. ยังต้องโดดออกมาแถลงปกป้องน.ส.แพทองธาร 

ถึงขั้นระบุว่า วันนี้ตั้งใจมาให้สัมภาษณ์ เพราะเห็นนักการเมืองชั่วๆ เลวๆ ออกมาพูดถากถางบุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษา โดยพุ่งเป้าไปที่ “เทพไท เสนพงศ์” อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ “วันชัย สอนศิริ” สมาชิกวุฒิภา (ส.ว.) ซึ่งน่าจะเป็นไปตามคำร้องของอดีตหัวหน้าพรรคพรรคทรท. ที่ไม่อยากให้ทายาทบอบช้ำทางการเมือง และอาจเป็น ยุทธศาสตร์ทางการเมือง ให้ “ร.ต.อ.เฉลิม” คอยรับ แรงปะทะทางการเมือง เล่นบทตอบโต้ทางการเมือง “น.ส.แพทองธาร” จะได้ไม่ตกเป็นเป้าทางการเมือง      

ก่อนหน้านั้น “เทพไท” ให้ความเห็นผ่านทางโซเชียลตอนหนึ่งว่า การเปิดตัวของคุณแพทองธาร ชินวัตร บนเวทีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพท. ที่จังหวัดอุดรธานีนั้น เป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองถึงมวลชนผู้สนับสนุน อย่างชัดเจนว่า คุณแพทองธาร คือ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพท.

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คุณทักษิณและครอบครัวตัดสินใจเปิดหน้าชก เทหน้าตัก ใช้ชีวิตของลูกสาวคนโปรดเป็นเดิมพัน เพื่อสู้ทางการเมือง น่าจะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของคุณทักษิณ หลังจากถูกรัฐประหารมาแล้วถึง 2 ครั้ง ในสมัยรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์

ถ้าหากจะมี “รัฐบาลแพทองธาร” ขึ้นมาอีก ก็ขออย่าให้เกิด ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ไม่มีหลักประกันใดว่าการรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีก ถ้ารัฐบาลแพทองธารยังเป็น “รัฐบาลหุ่นเชิด” ให้กับนายทักษิณ เหมือนกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ผ่านมา ก็จะกลับสู่วังวนเดิมของการเมืองไทย ที่คนไทยทุกคนไม่อยากเห็นอีกแล้ว

ด้าน “วันชัย สอนศิริ” ส.ว. โพสต์ข้อความเรื่อง “ทักษิณใจเร็วด่วนได้ ทำลายพรรค ทำลายครอบครัว” บางช่วงบางตอนว่า “พอประกาศตัวอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมาเท่านั้นแหละ หัวหน้าพรรคหมอชลน่าน (ศรีแก้ว ) หมดท่าไปเลย รัศมีดับแสงไปทันที เห็นหน้าคุณทักษิณลอยทะมึนขึ้นมาบดบัง พท. ไปในบัดดล หงายไพ่เล่นกันไปเลยว่าทักษิณมาแล้ว หมอชลน่านไม่ใช่ตัวจริงเสียงจริง ไม่ใช่แคนดิเดตนายกฯ น่าเสียดายกับหมอชลน่านในสถานการณ์นี้ ที่ พท.กำลังมีแนวโน้มว่าจะเติบโต

ต้องยอมรับว่าคุณทักษิณมีทั้งคนรักและคนเกลียด แบบเข้ากระดูกดำ แม้จะ 7-8 ปีก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะลุกขึ้นมาขัดแย้งกันเพราะ “เอาทักษิณ_ไม่เอาทักษิณ” แล้วคุณจะรีบมาทำไม ส่งอุ๊งอิ๊ง เข้ามาตายในสนามการเมืองทำไม แรงอาฆาตกับแรงแห่งความรักในลูกและครอบครัว อย่างไหนมันแรงกว่ากัน ใจเร็วด่วนได้ไปหรือเปล่า เกมนี้ผมว่าเป็นการ ทำลายพรรค ทำลายลูก ทำลายครอบครัว แบบเลือดเย็น ข้อสอบทางการเมืองมันไม่ง่ายเหมือนอุ๊งอิ๊งสอบเข้ามหา’ลัยนะ”

จะเห็นว่าทั้ง นักการเมืองฝ่ายค้าน และ สมาชิกสภาสูง เห็นตรงกันว่า การส่งบุตรสาวนายทักษิณเข้ามาทำงานการเมือง จะปลุกกระแสคนให้ออกมาต่อต้าน เพราะเห็นว่าเป็น “นอมินีบุพการี” ซึ่งมีส่วนสร้างความขัดแย้งให้บ้านเมืองมาโดยตลอด ถึงขั้นเปรียบเปรยว่า ส่ง “อุ๊งอิ๊ง” ไป ตายสนามการเมือง อาจมีชะตากรรมเช่นเดียวกับ “พ่อและน้าสาว” ที่หลบหนีคำพิพากษาศาล ต้องไปพำนักต่างประเทศ

ขณะที่ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรค พท. แถลงโต้ว่า น.ส.แพทองธารเข้ามาการเมืองแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เป็นเรื่องเฉพาะตัว เป็นความสามารถส่วนบุคคล อย่าโจมตีเด็กที่บริสุทธิ์ทางการเมือง ตนไม่อยากให้คนที่มีความตั้งใจ และบริสุทธิ์ใจทางการเมือง ต้องมาแปดเปื้อน เพราะนักการเมืองบางคน เรื่องนี้มีการวางแผนกันไว้เพื่อสกัดกั้นบุตรสาวนายทักษิณ

ทั้งนี้ ประชาชนจะเลือกใคร ไม่ใช่เรื่องของพวกท่าน แต่เป็นเรื่องของประชาชน ไม่ต้องมายุ่ง พรรคไหนได้คะแนนมากก็ได้จัดตั้งรัฐบาล การเมืองเขาเล่นกันแบบนี้ วันนี้คะแนนพรรคเราดี ผู้สมัครเราก็ดี และน.ส.แพทองธารเก่ง หลานจะช่วยพรรคได้เยอะ การเมืองรอบนี้จะสนุก แล้วพวกหลานๆ จะได้เห็นคนร้องไห้

จากนี้ต้องรอดูว่า “บุตรสาวคนสุดท้อง” ของนายทักษิณ จะต้องเผชิญวิบากกรรมอย่างไรบ้าง ก่อนถึงวันหย่อนบัตรลงคะแนน ยิ่งดูฝ่ายตรงข้ามพรรค พท. ต่างระดมสรรพกำลังต่อสู้กับนอมินีของพรรค พท. อย่างเต็มที่ในสนามเลือกตั้ง “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” (ผู้ว่าฯกทม.)  และ ไม่มีทางยอมปล่อยให้กลุ่มอำนาจเก่ายึดอำนาจทั้งสนามท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติ  

เมื่อถึงวันนั้น “อุ๊งอิ๊ง” บททดสอบ ในสนามเลือกตั้ง ยากกว่าสนามสอบในสถาบันการศึกษาไม่รู้กี่ร้อยเท่า แถมยังเดิมพันสูงถึงขั้น สูญสิ้นอิสรภาพ และ กลายเป็นคนร่อนเร่พเนจร อาจมีสภาพเป็น “คนพลัดถิ่น” ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอน ไปพำนักยังแผ่นดินที่ไม่คุ้นเคย หรือการรีบเปิดตัวทางการเมือง กลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ต้องตกอยู่ในสภาพ “หมู่บ้านกระสุนตก”

…………………………

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย.…“แมวสีขาว”