วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSเกมพลิก-สัญญาณเปลี่ยน “บิ๊กรอย-บิ๊กต่อ” ชิงบท“ผบ.ตร.”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เกมพลิก-สัญญาณเปลี่ยน “บิ๊กรอย-บิ๊กต่อ” ชิงบท“ผบ.ตร.”

ในเมื่อการเมืองไทย ไม่มีความแน่นอน ยังคาดเดาไม่ได้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะผ่านอุปสรรคสำคัญ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นกับดักทางการเมืองได้หรือไม่ โดยเฉพาะญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แต่ไม่ได้หมายความว่า พรรคฝ่ายค้านนำโดย “พรรคเพื่อไทย” (พท.) จะมีความเก่งกาจ สร้างผลงานจนนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงได้ แต่อยู่ที่ “เกมการชิงเสียง” จากพรรคเล็ก บวกรวมกับท่าที “พรรคเศรษฐกิจไทย” (ศท.) ที่มี “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็นแกนนำ ดังนั้นหลายคนจึงจับตาแรงกระเพื่อมทางการเมือง จะมีผลไปถึงการแต่งตั้ง “ผบ.ตร.” หรือไม่ ซึ่ง “บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” แม่ทัพสีกากีคนที่ 12 จะเกษียณอายุราชการลงในวันที่ 30 ก.ย.65

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข / @policetv.tv

ก่อนหน้านั้น หลายฝ่ายจับตามองไปที่ “บิ๊กต่อ-พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะได้รับการแต่งตั้งเป็น “รองผบ.ตร.” ในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาหรือไม่ ในระหว่างการแต่งตั้ง “นายพลตำรวจ” วาระเดือนเม.ย. หรือ วาระแต่งตั้งกลางปี ประกอบด้วย ที่ปรึกษาพิเศษตร. เทียบเท่ารองผบ.ตร., ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. (พล.ต.ท.) เทียบเท่าผู้บัญชาการ (ผบช.) และผู้ทรงคุณวุฒิ ตร.(พล.ต.ต.) เทียบเท่าผู้บังคับการ (ผบก.)

รวมทั้งแต่งตั้งแทนตำแหน่งว่าง จากการลาออก ในโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล หรือ “เออรี่รีไทร์” รุ่นที่ 22 ประจำปีงบประมาณ 2565 แต่ที่สุดก็ไม่มีชื่อ “บิ๊กต่อ” ทำให้หลายฝ่ายคาดหมายกันว่า นายตำรวจที่มากไปด้วยคอนเนคชั่น จะพลาดลุ้นเก้าอี้ใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ทั้งๆ ที่ใครก็ตาม สวมเครื่องแบบสีกากี ก็ปรารถนาอยากจะคุมบังเหียนองค์กร ซึ่งทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม และดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือวแทบทั้งสิ้น เพราะนอกจะมีมีอำนาจล้นฟ้า ยังช่วยสร้างบารมี จนใครต่างก็ต้องวิ่งหา

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าว ในเดือนพ.ค. อาจมีนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร. ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไปรับ “ภารกิจสำคัญ” ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธได้ นั่นหมายความว่า เก้าอี้ นายตำรวจยศ “พล.ต.อ.” จะว่างลง ซึ่งถ้าเป็นไปตามกระแสข่าวเกิดขึ้นจริง บางที “บิ๊กต่อ” อาจได้รับโอกาสสำคัญครั้งนี้ เพื่อได้ไปลุ้นชิงเก้าอี้ “แม่ทัพสีกากี” ในอนาคต ซึ่งจะมีการสรรหาประมาณเดือนส.ค. ซึ่งช่วงนั้นจะมีเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองเกิดขึ้น โดยหัวหน้ารัฐบาลจะอยู่ในตำแหน่งครบ 8 ปี ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ตีความสถานะของพล.อ.ประยุทธ์ด้วย

นายกฯเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) วันที่ 27 เม.ย. 65

ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ ผู้คุมอำนาจรัฐอยากได้ “นายตำรวจที่ตนเองไว้วางใจ” มาดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง โดยเฉพาะ การเคลื่อนไหวคนบางกลุ่ม ที่ส่งผลกระทบต่อ “สถาบัน” เพราะถ้าผู้รักษากฎหมายไม่มีความเข้มแข็ง-ไม่เด็ดขาด อาจทำให้เกิด ความวุ่นวายตามมา ในอนาคตอาจมวลชนที่ต้องการปกป้องสถาบัน จะออกมาต่อต้านฝ่ายตรงข้าม ซึ่งอาจส่งผลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

อีกทั้งน่าสังเกตว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค.65 ที่ผ่านมา “บิ๊กรอย” พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตร. (ผอ.ศพดส.ตร.), “บิ๊กต่อ” ในฐานะผู้ช่วย ผบ.ตร., “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. “บิ๊กก้อง” พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. บก.ป. บก.รน. และ หน่วยงานอื่นๆ ในสังกัด บช.ก. เปิดยุทธการ “เรือมนุษย์” กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ, นนทบุรี และจันทบุรี เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์บังคับใช้แรงงานบนเรือประมง

สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ ยังได้มีการเปิดใช้ ศูนย์ปฏิบัติการ CCOC หรือ Command And Control Operations Center เพื่อคอยประสานงานควบคุม สั่งการจากส่วนกลาง แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ตามจุดต่างๆ แบบเรียลไทม์ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ก่อนหน้านั้น หลายคนไม่ค่อยได้เห็นบทบาท “บิ๊กต่อ” ถูกวิจารณ์ว่าเก็บตัวเงียบ แต่การออกมากมาเคลื่อนไหว ปฎิบัติภารกิจสำคัญในช่วงนี้ อาจได้รับสัญญาณบางอย่าง จนแวดวงสีกากีตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกี่ยวข้องกับการสรรหา “แม่ทัพสีกากีคนใหม่”  

พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุชวิมล / cr : รายการเปิดใจมือปราบสายธรรมะ

นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 9 พ.ค.65 ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพฯ “พล.ต.ท.ต่อศักดิ์” ในฐานะ รอง ผอ.ศพดส.ตร. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมสัมมนาพนักงานสอบสวนและทีมงานสหวิชาชีพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคุ้มครองแรงงานแก่คนต่างด้าวและการป้องกันการละเมิดสิทธิตามกฎหมายแรงงานอันจะนำไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ รุ่นที่ 5 ระหว่างวันที่ 8-13 พ.ค.65

โดยวัตถุประสงค์ของโครงการอบรมในครั้งนี้ เพื่อให้พนักงานสอบสวน และทีมงานสหวิชาชีพผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีความรู้ความเข้าใจกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องในเรื่องการคุ้มครองด้านแรงงาน แก่คนต่างด้าว และการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ที่เป็นปัจจุบัน (UPDATE) และยังมีการถอดบทเรียนที่จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่

ซึ่งถ้าตัดชื่อ “บิ๊กต่อ” ทิ้งไปในการลุ้นชิงเก้าอี้แม่ทัพสีกากี มีนายตำรวจติดยศ “พล.ต.อ.” 3 นาย  นายได้ลุ้นประกอบด้วย พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.), พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ที่จะเกษียณฯ พร้อมกันในปี 66 และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. เกษียณฯ ปี 67

ถ้าไล่เรียงจุดเด่นของแคนดิเดทผบ.ตร. แต่ละคน เริ่มต้นที่ “พล.ต.อ.วิสนุ” หรือใครเรียกติดปากว่า “บิ๊กหิน” ที่เข้ามารับหน้าที่ “จตช.” ซึ่งมีบทบาทในการ ตรวจสอบการทำงานของตำรวจ มีภารกิจหลัก 4 ด้านคือ ด้านการตรวจราชการ เพื่อติดตามผลการทำงาน, ด้านการร้องเรียนร้องทุกข์จากประชาชนในการให้ความเป็นธรรมของตำรวจ, ด้านระเบียบและจริยธรรมตามประมวลจริยธรรมตำรวจ และด้านการป้องกันและแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของตำรวจ

แม้การตรวจสอบองค์กรกรสีกากีจะมีความสำคัญ แต่อาจจะมี เพื่อนร่วมองค์กร “ไม่ยอมรับ” การสร้างผลงาน ด้วยการฆ่าน้อง-ฟ้องนาย-ขายเพื่อน แม้ว่าจะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ หากไม่ทำ ก็เจอข้อหาละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์

“บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ซึ่งได้รับมอบหมายงานด้านความมั่นคง และยังมอบหมายภารกิจสำคัญ อย่างเช่น ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการจับตามองมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการขุดรากถอนโคนบ่อนพนันออนไลน์ ที่มีเครือข่ายใหญ่โต มีมูลค่าในการเล่นเป็นร้อยเป็นพันล้านบาท

แต่ที่อาจเป็นปัญหาคือ “พล.อ.ประยุทธ์” อาจจะรู้สึกติดขิดตะขวงใจ หากต้องแต่งตั้ง “บิ๊กเด่น” เพราะบุคคลที่เป็นแกนหลัก สนับสนุนนายตำรวจคนนี้คือ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ซึ่งความสัมพันธ์ไม่แนบแน่นกับหัวหน้ารัฐบาล แม้ว่าจะมีสถานะน้องชาย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ตาม  

พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์

ส่วน “บิ๊กรอย” พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติ (ศปทส.ตร.), และศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปราม (ศปป.ตร.) อีกทั้งยังมีข่าว บุคคลมีชื่อเสียงหลายคน ให้การสนับสนุน

จากนี้ต้องจับตามองในเดือนพ.ค. จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นในตร. จนทำให้ “บิ๊กต่อ” เข้ามาอยู่ในไลน์ มีโอกาสชิงเก้าอี้สำคัญในตร.หรือไม่ ยิ่งผู้รักษากฎหมาย ที่ได้รับการแต่งตั้งสำคัญ จะถือเป็น “แม่ทัพสีกากีคนที่ 13” แม้ประเทศไทยจะไม่ถือว่า “เลข 13” เป็นอาถรรพ์เหมือนชาติตะวันตก แต่การพลิกไปพลิกมา ก็อาจทำให้ หลายคนติดตามแวดวงสีกากี และมีส่วนได้ส่วนเสีย ต้องลุ้นระทึกพอสมควร

ยิ่งแบ็คอัพที่โดดหนุน “บิ๊กเด่น” อย่างออกหน้าออกตา ไม่เป็นที่โปรดปรานของ “นายกฯลุงตู่” บางทีทั้ง “บิ๊กรอย” และ “บิ๊กต่อ” อาจเล่มบทสมบัติผลัดกันชม นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. เพื่อเตะตัดขาคู่แข่งบางคน

…………………..

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย..“แมวสีขาว”                                                       

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img