วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS“ท่องเที่ยวไทย”พลาดเป้าเพราะ...“แทงม้าตัวเดียว”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ท่องเที่ยวไทย”พลาดเป้าเพราะ…“แทงม้าตัวเดียว”

ท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหารายได้เข้าประเทศเพียงตัวเดียวที่ยังเหลืออยู่ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลายเสียแล้ว จากรายงานการท่องเที่ยวของไทยล่าสุด ปรากฏว่า นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ไม่มาตามนัด มาไม่ถึง 2.5 ล้านคน ทั้งที่รัฐบาลภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี หวังจะใช้การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ ทดแทนการส่งออกที่ชะลอตัวลง

รัฐบาลทิ้งไพ่เด็ด หวังกระชากยอดให้ทะลุเป้า โดยประกาศยกเลิกวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนเป็นเวลา 5 เดือน เรียกว่า งานนี้ “แทงม้าตัวเดียว” แบบเทหมดหน้าตัก แต่โชคร้ายหลังจากประกาศไม่กี่วันเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อเยาวชนวัย 14 ปีไล่ยิงคนในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และหนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิตเป็นคุณแม่ชาวจีนลูกสอง ได้สร้างความตกใจให้นักท่องเที่ยวจีน อย่างมากถึงขั้นพากันยกเลิกทัวร์เดินทางกลับประเทศในวันรุ่งขึ้นทันที

นั่นหมายความว่า ซ้ำเติมภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของไทยติดลบอย่างมิอาจปฏิเสธได้ แม้บรรยากาศจะเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีคนจีนจำนวนหนึ่งมีความรู้สึกไม่ดียังมองไทยในแง่ลบค่อนข้างมาก อีกทั้งยังมีเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดกับนักท่องเที่ยวจีน แต่ไม่เป็นข่าวในไทย แต่ไปเผยแพร่ในจีนสื่อตอกย้ำบ่อยๆ

มิหนำซ้ำ มีรายงานข่าวจากสื่อจีนระบุว่า กระแสข่าวลือบนโซเชียลมีเดียระบุว่า มีคนจีนมาเที่ยวเมืองไทยถูกหลอก มาเป็นขบวนการของแก๊งสแกมเมอร์ในประเทศรอบๆ ของไทย แม้ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง แต่ก็ทำลายภาพลักษณ์ประเทศไทย ทำให้ชาวจีนมองว่า เป็นดินแดนที่อันตราย ข่าวลือส่วนหนึ่งมาจากคนจีนรุ่นใหม่ๆ ที่มาทำมาหากินในไทย หรือที่มาเที่ยวเมืองไทย นำเสนอเรื่องราวด้านลบของไทยไปเผยแพร่ในจีนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย หวังยอดไลท์ ยอดแชร์ จึงใส่สีใส่ไข่ เกินความจริง

อีกเหตุผลที่คนจีนเข้ามาเที่ยวน้อยลง เป็นเพราะเศรษฐกิจภายในจีนเองยังไม่ฟื้น ซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อของประชาชนอย่างมาก แม้ทางการประกาศตัวเลข จีดีพี.5% กลับสวนทางกับความรู้สึกและชีวิตความเป็นอยู่จริงๆ ของชาวบ้าน คนจีนตอนนี้ตกงานจำนวนมาก ต้องหันมาทำงานอิสระ ลดความฟุ่มเฟือยลง เงินทองจึงต้องใช้อย่างประหยัด มีคนจีนไม่น้อยไม่พร้อมเดินทางท่องเที่ยวนอกประเทศ 

แต่ที่ไม่อาจมองข้ามคือ เรื่องที่นักท่องเที่ยวจีนเขารู้สึกว่า มาเที่ยวเมืองไทยแล้วไม่คุ้มค่า ทุกอย่างในไทยแพงกว่าที่อื่น เที่ยวบินก็มีน้อย ตั๋วราคาแพง ที่พักโรงแรม อาหารการกินต่างๆ สปา ของฝากของที่ระลึก ทุกอย่างแพงขึ้นและแพงกว่าคู่แข่ง คนจีนรุ่นใหม่จึงหันไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมาก ซึ่งได้เปรียบจากเงินเยนอ่อนค่า การไปเที่ยวญี่ปุ่นจึงถูกกว่า เดินทางก็ใกล้กว่า ตั๋วราคาถูกกว่า เที่ยวบินเยอะกว่าไทย ยิ่งคนจีนรุ่นใหม่ไม่ได้สนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ ว่าในอดีตจีนกับญี่ปุ่นเคยมีปัญหากัน ไม่เหมือนคนรุ่นเก่าฝังใจเรื่องนี้ คนจีนที่มาเที่ยวเมืองไทยจึงเป็นคนรุ่นเก่าๆหรือชาวบ้านทั่วไป

แต่ก็มีข่าวดีเล็กๆ คนในวงการการท่องเที่ยวบอกว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาไทยในตอนนี้ เป็นกลุ่มคุณภาพ เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดบน ไม่ใช่กลุ่มทัวร์แบบเดิม กลุ่มนี้จะเดินทางมาเองมากับครอบครัว พูดภาษาอังกฤษได้ไม่ต้องพึ่งบริษัททัวร์ ไม่ต้องพึ่งไกด์ ฐานะค่อนข้างดียอมจ่ายแพงเพื่อรับประทานอาหาร ดีๆ โดยเฉพาะร้านอาหารคนไทย พักโรงแรมหรูๆ ซื้อของจากร้านคนไทย ไม่ต่อราคาไม่เหมือนกับทัวร์ศูนย์เหรียญในอดีตที่อุดหนุนทุกอย่างที่เป็นของคนจีน

เมื่อโอกาสมาแล้ว ก็อยู่ที่ การท่องเที่ยวฯ กับ องค์กรธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวของไทย จะมีกลยุทธ์ดึงดูดให้คนจีนกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นกลางขึ้นไป มาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นได้อย่าวงไร เท่าที่ทราบจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนบอกว่า ในประเทศจีนนั้น มีคนจีนที่มีฐานะมีศัยภาพพร้อมจ่ายเงินท่องเที่ยวแบบหรูๆ ไม่น้อยกว่า 300 ล้านคน คนกลุ่มนี้ชอบทานอาหาร เขาบอกว่าอาหารจีนที่ไหนในโลก อร่อยสู้อาหารจีนในไทยไม่ได้

นักท่องเที่ยว / https://tatreviewmagazine.com/infographic/new-gen-indian-traveller/

อีกกลุ่มหนึ่งที่มีกำลังซื้อสูงคือ กลุ่มเศรษฐีอินเดีย อย่าลืมว่า อินเดียมีคนกว่า 1 พันล้านคน คนที่เดินทางออกท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีมีเงิน เพราะคนจนไม่สามารถออกมาเที่ยวต่างประเทศได้ ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียถูกคัดเลือกด้วยฐานะทางเศรษฐกิจโดยอัตโนมัติ เมื่อก่อนคนอินเดียนิยมมาจัดงานแต่งงงานในเมืองไทย ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก ไทยเป็นจุดกึ่งกลางที่ญาติๆ จากทั่วโลกสะดวกในการเดินทางมาร่วมงาน ซึ่งคนอินเดียแต่งงานฉลองกันกว่า 10 วัน บางรายปิดโรงแรมจัดงานกันเลย ตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ต้องดึงกลับมาให้ได้

ความผิดพลาดที่ผ่านมา เพราะคนที่รับผิดชอบ “แทงม้าตัวเดียว” เน้นตลาดจีน แถมเป็นกลุ่มคนทั่วไป หากจะโทษก็ต้องบอกเพราะความไม่เข้าใจสถานการณ์ หรือชอบทำงานแบบมักง่าย

………………………….

คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง

โดย “ทวี มีเงิน”

สนับสนุนคอลัมน์ โดย :   บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img