วันศุกร์, กันยายน 13, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS30ล้านชีวิตส่อถูก‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ลอยแพ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

30ล้านชีวิตส่อถูก‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ลอยแพ

ทันทีที่ประเทศไทยมีนายกฯคนที่ 31 ที่ชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” ก็มีกระแสข่าวตามมาติดๆ ว่า “นายกฯคนใหม่” เตรียมยกเลิกโครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท หลังมีการหารือกับ “ผู้ใหญ่ภายในพรรคเพื่อไทย” และ “ทักษิณ ชินวัตร” โดยประเมินสถานการณ์มาระยะหนึ่งแล้วว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย” เกรงว่าประวัติศาสตร์ซ้ำรอย “อดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน”

แต่ได้มีการปรับกระบวนท่าใหม่ โดยใช้วิธี “แจกเงินสด” แทน จะเน้นไปที่ “กลุ่มเปราะบาง” เพื่อลดภาระงบประมาณลง และง่ายต่อการหาแหล่งเงิน

วิธีนี้…ในทางการเมืองอาจจะเสียหน้า แต่เสียหายน้อยกว่าที่จะเดินหน้าต่อไป ที่สำคัญ…วิธีนี้จะไม่เสี่ยงต่อการผิดกฏหมายที่จะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล และสถานะของ “แพทองธาร” ในฐานะนายกรัฐมนตรีด้วย

นั่นหมายความว่า โอกาสที่โครงการดิจิทัล วอลเล็ต จะเดินหน้าต่อนั้น “ริบหรี่” ทั้งจากความกังวลของหลายๆ ฝ่ายเกี่ยวกับข้อกฎหมายและอีกหลายๆ ปัจจัย

ยิ่งในทางการเมือง แม้พรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นพรรคเดิม สุดท้ายก็ต้องเจรจามาไกล่เกลี่ยนโยบายการใช้งบของแต่ละพรรค เพราะเดิมทีดิจิทัล วอลเล็ต มีการเจรจามาตั้งแต่แรกก่อนจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา แต่เมื่อมีรัฐบาลใหม่ ต้องเริ่มเจรจาใหม่

รอบนี้โอกาสที่พรรคร่วมฯ จะหนุนดิจิทัล วอลเล็ตเหมือนเดิมนั้น มีความเป็นไปได้น้อยมาก ทุกคนรู้ว่า หากโครงการนี้สำเร็จ “พรรคเพื่อไทย” ได้คะแนนไปเต็มๆ แต่ถ้าล้มเหลว “พรรคร่วมรัฐบาล” ก็ต้องรับผิดชอบ มิหนำซ้ำรัฐมนตรีในรัฐบาล พลอยโดนหางเลขไปด้วย

อันที่จริงในแวดวงการเมืองซุบซิบกันว่า กรณีอดีตนายกฯเศรษฐาต้องพ้นจากตำแหน่ง ไม่ใช่เรื่องการแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ

เบื้องหลังจริงๆ มาจากการที่ “กลุ่มอำนาจ” ไม่พอใจนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลเศรษฐาพยายามดึงดันไม่สนใจฟังเสียงคัดค้านจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจทั้งหลาย ที่หวั่นผลกระทบตามมามากมาย อีกทั้งโครงการดังกล่าวที่ต้องใช้เงินมากถึง 4.5 แสนล้านบาท ไม่รวมกับค่าจัดทำระบบ รวมถึงความเสี่ยงจากการทุจริต ที่อาจซ้ำรอยโครงการจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สร้างความเสียหายหลายแสนล้านบาท  

ก่อนหน้านี้ หน่วยงานเศรษฐกิจของรัฐ ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่แสดงท่าที “ไม่เห็นด้วย” กับ “โครงการดิจิทัล วอลเล็ต” ตั้งแต่แรก โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กลายเป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย…มาตลอด

แม้แต่ “ธนาคารโลก” ยังมองว่า โครงการดิจิทัล วอลเล็ต มีความไม่แน่นอน และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า จะเริ่มเมื่อไหร่ หรือมีใครได้รับบ้าง อาจจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ทำให้การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย อาจไม่เกิดขึ้น เนื่องจากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เปลี่ยนสมดุลของความเสี่ยงจากการเติบโตทางเศรษฐกิจไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ

ส่วนที่มา-ที่ไป ทำไม “อดีตนายกฯเศรษฐา” จึงดึงดันเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต แบบสุดลิ่มทิ่มประตู ก็คงย้อนกลับไปช่วงหาเสียงในวันเปิดตัวแคนดิเดทนายกฯของพรรคเพื่อไทยที่ เมืองทองธานี วันนั้น “อดีตนายกฯเศรษฐา” ในฐานะ 1 ในแคนดิเดท ประกาศบนเวทีว่าจะแจกเงิน 1 หมื่นบาทให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

คำประกาศของ “เศรษฐา” สร้างความฮือฮาอย่างมาก เพราะยังไม่เคยมีรัฐบาลไหน กล้าประกาศแจกเงินก้อนโตครั้งเดียวจบ ด้วยความเชื่อมั่นว่า “ดิจิทัล วอลเล็ต” จะเป็น “พายุลูกใหญ่” ทำให้เศรษฐกิจหมุนได้ 5-6 รอบ

คำสัญญาที่ประกาศบนเวที กลับสร้างความกระอักกระอ่วนใจให้กับทีมนโยบายเศรษฐกิจของพรรคไม่น้อย เพราะตอนนั้น นโยบายพรรคมีแค่กรอบกว้างๆ มาจากข้อเสนอของทีมเศรษฐกิจที่ยังไม่สมบูรณ์ แนวทางปฏิบัติก็ยังไม่มีรายละเอียด แต่เมื่อ “ว่าที่นายกฯ” ด่วนประกาศไปเสียก่อน ก็ต้องตกกระไดพลอยโจน

จะเห็นว่าเกือบๆ 1 ปีที่ “นายกฯเศรษฐา” อยู่ในตำแหน่ง นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ มีเพียง “ดิจิทัล วอลเล็ต” เท่านั้น เพราะได้ “สัญญาประชาชน” ไว้แล้ว “ถอยไม่ได้”

แม้จะต้องตัดต่อพันธุกรรมไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ จนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม  ตั้งแต่เจตนารมณ์ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการแจกประชาชนทุกคนๆละ 1 หมื่นบาทคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปโดยไม่มีเงื่อนไข ต่อมากำหนดเงื่อนไขเพิ่มต้องมีเงินฝากทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 5 แสนบาท เงินเดือน 7 หมื่นบาทลงมา

ร้านค้าที่เข้าร่วม ก็ต้องเป็นร้านค้าชุมชนรัศมี 4 กิโลเมตร แต่ต่อมาร้านสะดวกซื้อ ก็เข้าโครงการได้ เดิมจะใช้เงินงบประมาณประจำปี ต่อมาเปลี่ยนจะใช้เงินกู้ ในที่สุดก็กลับมาใช้เงินงบประมาณเหมือนเดิม จึงไปไม่ถึงไหน เข้าตำรา “ชักตื้นติดกึก-ชักลึกติดกั๊ก”

ในที่สุด “อดีตนายกฯ” เดินไปสู่ “กับดักการเมือง” ผลกระทบจากการเมืองครั้งนี้ ย่อมส่งผลถึงโครงการดิจิทัล วอลเล็ต…อย่างมิอาจปฏิเสธ

จากกรณีของ “อดีตนายกฯเศรษฐา” และย้อนไปถึงโครงการจำนำข้าวสมัยยิ่งลักษณ์ น่าจะทำให้ “ทักษิณ ชินวัตร” สรุปบทเรียนว่า จะต้องประคับประคอง “ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน” ให้อยู่รอดปลอดภัยได้อย่างไร

แม้ดิจิทัล วอลเล็ต จะต้องสะดุดไปต่อไม่ไหว อย่าลืมว่าคนกว่า 30 ล้านคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.67 จะทำอย่างไร จะยังได้เงินดิจิทัล 10,000 หรือไม่ หรือจะถูกลอยแพ

………….

คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง

โดย “ทวี มีเงิน”

สนับสนุนคอลัมน์ โดย :   บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img