วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSคืนชีพ‘ทักษิโณมิกส์’เหล้าเก่าฉลากใหม่
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

คืนชีพ‘ทักษิโณมิกส์’เหล้าเก่าฉลากใหม่

เย็นวันพฤหัสที่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า “สปอร์ตไลต์” ทุกดวง ได้ฉายส่องเข้าไปในงาน “Vision For Thailand” จัดโดยค่ายเนชั่น ล้วนแต่มีบุคคลและนักธุรกิจระดับบิ๊กๆ ที่กลัวตกขบวน ไปร่วมงานกันมากหน้าหลายตา ทั้ง “เจ้าสัวใหญ่-เจ้าสัวน้อย” เพื่อจะไปฟังวิสัยทัศน์ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากห่างบ้านเกิดไปนานถึง 17 ปี ว่ากันตามตรง การแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้ ทำให้คนลืมภาพ “อดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน” อย่างสิ้นเชิง

หลายคนตั้งคำถามว่า เวลานี้…ใครคือนายกฯประเทศไทยตัวจริง เพราะ “แพทองธาร ชินวัตร” และ ครม.ชุดใหม่ ยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อสภาฯ แต่ “ทักษิณ” ชิงเสนอวิสัยทัศน์เสียก่อน

บางเรื่องที่ “ทักษิณ” นำเสนอ หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องใหม่ อย่างเรื่อง ภาษี Negative Income Tax เป็นนโยบายให้เงินช่วยเหลือผู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ โดยมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สมควรได้รับได้ตรงกลุ่มและครอบคลุมที่สุด ซึ่งหลายๆ ประเทศก็ใช้นโยบายภาษีนี้ แต่ประเทศเหล่านี้ จะเก็บอัตราภาษีสูง ประชาชนทุกคนเสียภาษี

อันที่จริง Negative Income Tax กระทรวงคลังเสนอมาตั้งแต่สมัย “รัฐบาลลุงตู่” ตอนนี้ไม่รู้ว่าคืบหน้าถึงไหน หรือเรื่อง การลดค่าธรรมเนียมที่ธนาคารจ่ายเข้ากองทุนฟื้นฟูฯบางส่วนชั่วคราว เรื่องนี้ทางเครดิตบูโรก็เสนอมานานแล้ว เช่นกัน

คืนนั้นนึกว่า ย้อนเวลาไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่ “พรรคไทยรักไทย” เคยชูธง “ประชานิยม” จนมีคำพูดว่า เศรษฐกิจโดยพรรคไทยรักไทยคือ “ทักษิโณมิกส์” จะเน้นในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปั่นให้จีดีพี.โต เพื่อตัดแบ่งเค้กแจกจ่ายกันให้ทั่วถึง

แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจปั่นให้จีดีพี.โตแบบนี้  ในที่สุดผล “ประโยชน์” มักไปตกใส่กระเป๋า “กลุ่มทุนใหญ่” ไม่กี่ตระกูลในบ้านเรา จะเหลือตกถึง “กระเป๋าชาวบ้าน” ก็เพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น

เมื่อพูดถึง “ทักษิโณมิกส์” ภาพที่ชัดเจนที่สุดในคืนนั้น คงไม่พ้น “ดิจิทัล วอลเล็ต” โดย “ทักษิณ” บอกว่า ยิงนก 3 ตัวด้วยกระสุนนัดเดียวคือ 1.กระตุ้นเศรษฐกิจ ดิจิทัลว อลเล็ต ข้างหลังบ้านคือบล็อกเชนมี Smart Contract การควบคุมที่แม่นยำเพื่อให้อยู่ในพื้นที่ต่างๆ 2.อยากให้คนไทยได้เรียนรู้เทคโนโลยี 3.อนาคตต่อไปจะใช้กับบริการของภาครัฐได้ทั้งหมด ซึ่งภาครัฐอาจจะออก หุ้นกู้ ตราสารหนี้ (Bond) ขายประชาชนรายย่อยผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

แต่ “ดิจิทัล วอลเล็ต” เที่ยวนี้ “ทักษิณ” บอกว่า อาจจะเปลี่ยนรูปแบบ เริ่มใช้กับกลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน และกลุ่มคนพิการอีก 1 ล้าน รวม 14.5 ล้านคน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เบื้องต้นแสนกว่าล้านบาททันที ในเดือนกันยายน ในเดือนตุลาคม งบประมาณใหม่ออก คนที่ลงไปทะเบียนเกือบ 30 ล้านคน ก็จะได้รับ

“ทักษิณ” ย้ำว่า “ดิจิทัล วอลเล็ต” กระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แม่นยำกว่า “เงินสด” ซึ่งเกิดตัวคูณได้น้อยกว่า

นอกจากนี้ ยังพูดถึงเรื่อง “กับดักหนี้สิน” โดยบอกว่า คนไทยติดกับดักหนี้ทำให้เดินไม่ออก หนี้สินของรัฐแก้ไม่ยากนัก ถ้าทำให้ จีดีพี.เติบโตได้ สัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพี.จะลดไปเอง ถ้าขยายฐานภาษีจะทำให้สัดส่วนรายได้ต่อจีดีพี.ดีขึ้น อำนาจการใช้หนี้จะดีขึ้น

ส่วน หนี้ครัวเรือน ของประชาชนกว่า 90% “ทักษิณ” บอกว่า ไม่อยากเห็นคนไทยถูกยึดบ้านและรถ เสนอว่าต้องการมี การปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน เราจะ แฮร์คัต (การปรับโครงสร้างหนี้โดยการตกลงร่วมกันระหว่างเจ้าหนี้ลูกหนี้พื่อขอลดยอดหนี้ลง) และตั้งคำถามว่า เราปรับโครงสร้างหนี้ภาคธุรกิจได้ เราจะ haircut ภาคประชาชนได้ไหม

นอกจากนี้ “ทักษิณ” ยังไม่ลืมที่จะ ฟื้นนโยบายเศรษฐกิจใต้ดินไทย ให้ขึ้นมาอยู่ “บนดิน” เรื่องนี้เคยเป็นนโยบายสมัยไทยรักไทย โดยย้ำว่า เศรษฐกิจใต้ดินของไทยสูงมากราว 50% ของเศรษฐกิจบนดิน ถ้าขึ้นบนดินได้ จีดีพี.เพิ่ม 50% ผลทำให้สัดส่วนหนี้ลดลงและความสามารถในการใช้หนี้เพิ่มขึ้นและไม่พลาดที่จะพูดถึง เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะมีพื้นที่กาสิโนเพียงไม่เกิน 10% การลงทุนแต่ละแห่งเกินแสนล้านบาท

เรื่องอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นแค่ไอเดียยังไม่มีรายละเอียด เช่น จะผลักดันให้ ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน เชิญธนาคารทั่วโลกมาตั้งในไทยเพื่อทำธุรกรรมต่างประเทศ แล้วแบงก์ไทยก็ไปตั้งในต่างแดนเพื่อใช้สิทธิเดียวกัน

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ / cr : www.bot.or.th

แก้กฎหมายต่างชาติถือครองที่ดิน โดยมีกติกาที่คนไทยได้ประโยชน์ ทั้งเชิงเศรษฐกิจที่เติบโตและการเข้าถึงการจัดการภาษีให้เป็นธรรมและเอื้อต่อการแข่งขันมากขึ้น ทั้งสำหรับการอยู่อาศัยและทำงาน จัดการภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างเป็นระบบ ต้องปฏิรูประบบราชการ ลดค่าใช้จ่ายภาครัฐและจำนวนคนเอาเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น เป็นต้น

วิสัยทัศน์ของ “ทักษิณ” ให้น้ำหนักอย่างมากในเรื่อง ปั๊มเศรษฐกิจให้โต แต่ไม่พูดเรื่อง “แก้ความเหลื่อมล้ำ” จะปรับปรุงอุตสาหกรรมของประเทศให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศแต่ไม่บอกจะทำอย่างไร จะ “ลดราคาพลังงาน” แต่ไม่พูดเรื่อง ปรับโครงสร้างพลังงาน

คืนนั้น “ทักษิณ” ไม่ได้บอกว่า จะกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นหรือไม่ แต่ที่ไม่พูดเรื่อง “ทุจริตคอรัปชั่น” ที่ทำให้ประเทศล้าหลังอย่างไร ที่สำคัญไม่ได้พูดว่าจะลดการผูกขาดของกลุ่มทุนใหญ่อย่างไร

วิสัยทัศน์คืนนั้น…จึงไม่ต่างจาก “เหล้าเก่า” นำมาแปะ “ฉลากใหม่” เท่านั้น

……………………………

คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง

โดย “ทวี มีเงิน”

สนับสนุนคอลัมน์ โดย :   บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img