วันพุธ, เมษายน 16, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTS“รง.ศูนย์เหรียญ”ถึง“ส่งออกศูนย์เหรียญ” “กาฝาก”ส่งออก“ทำลาย”เศรษฐกิจไทย!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“รง.ศูนย์เหรียญ”ถึง“ส่งออกศูนย์เหรียญ” “กาฝาก”ส่งออก“ทำลาย”เศรษฐกิจไทย!

หลังจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษีใหม่ที่เรียกว่า “ภาษีตอบโต้” ซึ่งประเทศไทย อัตราภาษีที่โดนเรียกเก็บจริงๆ คิดเป็น 72% แต่ “ทรัมป์” บอกลดครึ่งหนึ่งเหลือ 36% ทั้งที่แรกๆ คิดว่า ไทยน่าจะโดนเรียกเก็บราวๆ 10% ก็ถือว่าหนักพอสมควร แต่เมื่อโดนถึง 36% นับว่า “สาหัสเลยทีเดียว”

อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐฯเก็บ “ภาษีตอบโต้” ไทยครั้งนี้ ถือว่า สหรัฐฯเอาคืนไทย

เพราะก่อนหน้านี้ ไทยเราเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ สูงจนไม่สามารถแข่งขันในไทยได้ ซึ่งสหรัฐฯถือว่า อัตราภาษีที่ไทยเรียกเก็บนั้น ไม่เป็นธรรม รวมถึงการที่ไทยเกินดุลการค้าสหรัฐฯค่อนข้างมาก ปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา

อีกประเด็นที่ถือว่ามีความสำคัญค่อนข้างมาก นั่นคือ “ทรัมป์” พิจารณาจากความใกล้ชิดของประเทศที่เป็น “คู่ค้า” กับสหรัฐฯที่มีต่อ “จีน” ซึ่งเป็น “คู่แค้นทางการค้า” มาเป็นปัจจัยในการพิจารณาอัตราภาษีครั้งนี้ด้วย

ในกรณีของไทย สหรัฐฯมองว่า การที่ไทยปล่อยให้จีนเข้ามาตั้งโรงงานผลิตสินค้า แล้วสวมสิทธิ์ส่งออกไปยังสหรัฐฯเพื่อเลี่ยงภาษีที่สหรัฐฯตั้งกำแพงสำหรับสินค้าจากจีนนั้น สหรัฐฯถือว่า ไทยมีส่วนในการเป็นฐาน “ส่งออกศูนย์เหรียญ” เป็นการ Reexport จากจีน การที่ไทยปล่อยปละละเลยเช่นนี้ ไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

นอกจากนี้ จีนยังใช้ไทยเป็นฐานในการตั้ง “โรงงานศูนย์เหรียญ” เพื่อผลิตสินค้า แล้วสวมสิทธ์สินค้าไทย ทำการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่เรียกว่า “ส่งออกศูนย์เหรียญ” ยังทำให้ตัวเลขส่งออกของไทยเกินดุลการค้าสหรัฐฯ ทั้งที่ไม่ใช่สินค้าที่ผลิตจากโรงงานของไทยจริงๆ ทำให้ไทยต้องถูก “ทรัมป์” ลงโทษ ด้วยการเรียกเก็บภาษีใหม่ในอัตราที่สูง

เป็นที่น่าสังเกต ปรากฏการณ์ดังกล่าว เริ่มมีพิรุธจากข้อมูลช่วงปลายปี 2567 ที่รายงานสถิติการส่งออกของไทยเติบโตอย่างน่าแปลกใจ และในเดือน ม.ค.-ก.พ.68 “ตัวเลขส่งออก” ยังคงเติบโตต่อเนื่องมากถึง 13-14% แต่เมื่อกลับไปดูตัวเลข “ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมไทย” จริงๆ กลับตรงกันข้าม พบว่า หดตัวอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2567 และในช่วงเวลาเดียวกัน ก็พบว่า ไทยมีการนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้นถึง 27%

นั่นย่อมหมายความว่า ตัวเลขส่งออกของไทยที่เพิ่มขึ้นนั้น เกิดจากสินค้าจีนเข้ามาใช้ไทยเป็นแค่ “ทางผ่าน” หรืออาจมีฐานผลิตในไทยจาก “โรงงานศูนย์เหรียญ” แล้วส่งออกไปโดยใช้สิทธิ์ของไทย

ก่อนนี้เราตื่นเต้นกับ “ทัพทุนจีน” ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยกันอย่างคึกคัก ทั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อีวี.และอีกหลายอุตสาหกรรม และเมื่อไม่นาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รายงานด้วยความภูมิใจว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา มีการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในรอบ 10 ปี ด้วยมูลค่า 1.31 ล้านล้านบาท (3,100 โครงการ) โดยนักลงทุนที่ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนมากเป็นอันดับหนึ่งคือ “สิงคโปร์”

แต่เมื่อล้วงลึกดูไส้ในพบว่า แท้ที่จริงกลายเป็น “บริษัทจีน” แปลงร่างเป็น “บริษัทสิงคโปร์” เข้ามาลงทุน ไม่ใช่นักลงทุนสิงคโปร์จริงๆ

ทั้งนี้ ในการขอรับการส่งเสริมการลงทุน จีนไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งก็เป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน แต่ในเงื่อนไขระบุว่า ต้องจ้างแรงงานไทยและชิ้นส่วนประกอบของไทย แต่ปรากฏว่า ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นไปตามข้อกำหนด นักลงทุนจีนเลี่ยงบาลี แล้วนำเข้าวัตถุดิบทั้งหมดจากจีน ใช้แรงงานคนจีน อ้างว่าเป็นการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญ หรือไม่ก็ใช้แรงงานต่างชาติ 100% ซึ่งราคาถูกกว่าแรงงานไทย ส่วนการจ้างแรงงานไทยจีนอ้างว่าได้จ้าง รปภ.แล้ว 2 คน ฟังแล้วกลายเป็น “ตลกไม่ออก”

แต่ที่ร้ายกว่านั้น “กระทรวงแรงงาน” ไปตรวจ ไม่เคยพบการกระทำผิด มักจะรายงานว่า โรงงานจีนทำถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ทั้งที่เรื่องนี้รู้กันทั่วไปว่า “ไม่จริง” ไม่ได้เป็นไปตามที่รายงาน ทุกวันนี้นักลงทุนจีนเข้ามาตั้ง “โรงงานศูนย์เหรียญ” สร้างที่พักเอง มีทั้งร้านอาหาร สถานบริการเอง ส่งเงินกลับจีนทั้งหมด และกำลังลามออกนอกเขตนิคมอุตสาหกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะเดียวกันรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า รายการสินค้าที่ต่างชาติ โดยเฉพาะจีน สวมสิทธิไทยส่งออกไปสหรัฐฯมีถึง 49 รายการ เช่น ท่อเหล็ก ยางรถยนต์และรถบรรทุก ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องจักรและชิ้นส่วน แผงโซลาร์เซลล์ ล้อเหล็กสำหรับรถบรรทุก กล้องดิจิทัล ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ประกอบตัวถังรถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ใยแก้ว กระปุกเกียร์ ฯลฯ

รายได้ส่งออกสินค้าเหล่านี้ ไม่ได้เป็นของไทย แต่เป็นของบริษัทจีนส่งรายได้กลับไปจีน

อย่าลืมว่า สหรัฐฯเป็นตลาดใหญ่ที่มองข้ามไม่ได้ อัตราการขยายตัวของการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 7.4% ต่อปี สินค้าที่ส่งไปสหรัฐฯหลักๆ มี “คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางรถยนต์ อาหารทะเลแช่แข็ง” เป็นต้น ดังนั้นการที่ คณะเจรจาของรัฐบาล หากจะให้สหรัฐฯพอใจ สิ่งแรกจะต้องทำคือ จัดแถว “นักลงทุนจีน” แบบยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ “โรงงานศูนย์เหรียญ” จนถึง “ส่งออกศูนย์เหรียญ”

ต้องยอมรับว่า ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น “โรงงานศูนย์เหรียญ” ที่กำลังมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึง “ส่งออกศูนย์เหรียญ” ที่เป็นกาฝากส่งออกไทย ได้ทำลาย “ส่งออกไทย” และ “เศรษฐกิจไทย” แย่ลงเรื่อยๆ

…………..

คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง

โดย….“ทวี มีเงิน”

สนับสนุนคอลัมน์ โดย :   บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img