มหกรรม เวิลด์ เอ็กซ์โป (World Expo) เป็นงานนิทรรศการโลก เป็นงานระดับนานาชาติ เพื่อให้ประเทศต่างๆ นำเสนอความก้าวหน้าด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยี นวัตกรรม ศิลปวัฒนธรรม การพัฒนาเมือง แนวคิดเพื่ออนาคต และอัตลักษณ์ของตนผ่านสถาปัตยกรรม การจัดแสดง และกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละปีจะมีธีมที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับ โอซาก้า เวิลด์ เอ็กซ์โป 2025 ประเทศญี่ปุ่น ธีมงานเน้นเรื่อง สุขภาพ และ ชีวิตอนาคต มีชื่อว่า “Designing Future Society for Our Lives” หรือ “ออกแบบอนาคต เพื่อชีวิตของเรา” งานนี้จัดขึ้นทุก 5 ปี ในปีนี้มีประเทศที่เข้าร่วมงานมากกว่า 158 ประเทศ ตลอดการจัดแสดง คาดว่าจะมีคนเข้าชมงานนี้ทั้งงานราว 28 ล้านคน ทุกประเทศจึงพยายามสร้าง “จุดขาย” ให้ผู้มาเยี่ยมประทับใจให้มากที่สุด

การที่ ประเทศไทยเข้าร่วมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2025 ถือเป็นโอกาสสำคัญในการแสดงศักยภาพของประเทศต่อชาวโลก ในเมื่อปีนี้ธีมงานเน้นเรื่อง “สุขภาพ” จึงอยู่ในความรับผิดชอบของ “กระทรวงสาธารณสุข” ภายใต้แนวคิด “Medical and Wellness HUB” เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก ในพาวิลเลียนจึงมีการจัดแสดงทางด้านสุขภาพและส่งเสริมภาพลักษ์ มีการจัดสร้าง พาวิลเลียนนิทรรศการไทย การออกแบบเป็นการผสมผสานกันระหว่าง ความเป็นไทยโบราณ กับ วิธีการก่อสร้างแบบสมัยใหม่
ส่วนการจัดแสดงโชว์ด้านในอาคาร ก็มีหลากหลาย ตั้งแต่เรื่อง สาธารณสุขไทย สถานบริการทางการแพทย์ที่หลากหลายและทั่วถึง ภายในงานมีผลิตภัณฑ์สร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ที่ขาดไม่ได้ต้องมีการแสดงโชว์ศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น โขน รำมวยไทย รำไทย เพื่อสื่อให้คนจากทั่วทุกมุมโลกที่มาเยี่ยมชมได้เห็น ส่วนงบประมาณสำหรับงานนี้สูงถึง 973 ล้านบาท อนุมัติโครงการตั้งแต่ปี 2022 แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายด้านบริหารและเตรียมงาน 105.60 ล้านบาท และการดำเนินการจัดกิจกรรมรวม 867.88 ล้านบาท

แต่ยังไม่ทันไร พาวิลเลียนของไทย โดน “ทัวร์ลง” จาก “คนไทย” ที่ไปเยี่ยมชมอย่างหนัก ที่โดนวิจารณ์ค่อนข้างหนักคือเรื่องของ “เนื้อหาที่นำเสนอดูแบบข้าราชการประจ๋า” อีกทั้งบรรยากาศในส่วน “วิดิโอ พรีเซนต์เทชั่น-การแสดงบนเวที” ดูมั่วๆ ไปหมด ธีมงานให้พูดถึง “อนาคต” แต่การนำเสนอของประเทศไทยเสนอแต่เรื่องราวใน “อดีต” บอร์ดนิทรรศการก็ขาดคนที่เข้าใจและมีทักษะในการเล่าเรื่องเพื่อจูงใจ ให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ฟัง
ที่สำคัญงานเอ็กซ์โป คือ การโชว์เทคโนโลยี และการมองถึงอนาคต แต่ภายใน “พาวิลเลียนของไทย” มีแต่กลิ่นร้านนวด มีแต่ความเป็นไทยๆ แบบโบราณๆ ไม่มีการโชว์อะไรที่เป็นเทคโนโลยี เกี่ยวกับด้านสุขภาพแม้แต่น้อย
คนที่ไปเยี่ยมชม ต่างก็ตั้งคำถามว่า “ผลงานที่ออกมา คุ้มกับงบประมาณที่ลงทุนหรือไม่” โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผขิญกับปัญหาเศรษฐกิจ ภัยพิบัติและภาระทางการแพทย์ที่กำลังวิกฤติ ทำไมต้องใช้เงินลงทุนมากขนาดนั้น แม้จะมีคำอธิบายว่า เป็นการลงทุนเพื่อตอกย้ำนโยบาย “ซอฟต์พาวเวอร์” แต่คนส่วนใหญ่กลับมองไม่เห็นความคุ้มค่ากับเม็ดเงินมหาศาลที่ใช้กับงานโชว์เพียง 6 เดือนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศไทยได้เข้าร่วมงานเอ็กซ์โปมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งประสบความสำเร็จในด้านจำนวนคนเข้าชม แต่เคยมีการประเมินหรือไม่ว่า หลังจากการเข้าร่วมงาน มีจำนวนนักท่องเที่ยวหรือนักลงทุน มาเที่ยวหรือมาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นหรือไม่ ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มกับเงินลงทุนหรือไม่ เพราะงบประมาณลงทุนแต่ละครั้งเกือบๆพันล้านบาท
งานเอ็กซ์โป 2025 ไม่ใช่เป็นโครงการแรกๆ ที่มีปัญหา ที่ผ่านๆ มา โครงการลักษณะนี้ งานมหกรรมต่างๆ ในอดีตที่ผ่านมา ล้วนมีปัญหาแทบทั้งสิ้น
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเวลาที่ “เอกชน” คิดงานมานำเสนอ “คณะกรรมการพิจาณา” หรือ “คนที่ตัดสินใจ” ก็จะเป็น “ข้าราชการแก่ๆ” ที่มีตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ขาดความรู้ความเข้าใจเนื้องาน แทนที่จะมี “ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ” งานจึงออกมาแบบห่วยๆ ไม่มีคุณภาพ
แต่ปัญหาทั้งหมดทั้งมวล เป็น ความโหลยโท่ย ในการจัดการและผลประโยชน์ร่วมกันของ หน่วยงานราชการ หรือ ตัวข้าราชการบางคน กับ บริษัท ออร์กาไนซ์ เอเจนซี ที่ฝังรากลึกมานานหลายสิบปี จนกลายเป็นเรื่องปกติ ยิ่งระยะหลังๆ หน่วยงานราชการมักจะให้ “เอเจนซีพีอาร์” หรือ “ออร์แกไนซ์” เป็นคนคิดโครงการ เขียนทีโออาร์ พร้อมหา “คู่เทียบ” มาประดับพอเป็นพิธี เพราะมีการ “ล็อกสเป็ค” กำหนดกันไว้ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อย ไม่ใช่การแข่งขันที่เปิดกว้างตามหลักธรรมาภิบาล มีกระบวนการคัดเลือกที่ไม่โปร่งใส

ทุกวันนี้ ข้าราชการผู้ใหญ่ในกระทรวง กรมต่างๆ เกือบทุกกระทรวง จะมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัท เอเจนซี ออร์แกไนซ์ เวลาที่หน่วยงานราชการจัดงาน ก็จะส่งสัญญาณหรือสั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้บริการบริษัทที่ใกล้ชิด หรือมีหุ้นลมในบริษัทเหล่านี้ งานต่างๆ ของหน่วยงานราชการ ตั้งแต่งานเล็กๆ อย่างงานแถลงข่าว งานเปิดโครงการต่างๆ รวมถึงงานอีเวนต์ใหญ่ๆ ระดับชาติ ใช้วิธีนี้ทั้งสิ้น
ในกรณีของ “พาวิลเลียนไทย” ในงานนี้ ยังไม่อาจฟันธงว่า มีการทุจริตหรือไม่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ งานนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึง “การบริหารราชการที่ไร้ประสิทธิภาพแน่ๆ” เพราะผลงานมันฟ้อง อย่างมิอาจปฏิเสธได้
…………………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง
โดย….“ทวี มีเงิน”
สนับสนุนคอลัมน์ โดย : บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
