เรียบร้อยโรงเรียนกสทช.ไปแล้วสำหรับการสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ”บอร์ด กสทช.”ซึ่งได้ 7 อรหันต์ในแต่ละสาขาเรียบร้อยแล้วประกอบด้วย
1.ด้านกิจการกระจายเสียง คือ พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ .2. ด้านกิจการโทรทัศน์ คือ นางพิรงรอง รามสูต3.ด้านกิจการโทรคมนาคม คือ นายกิติศักดิ์ ศรีประเสริฐ 4.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ศาสตราจารย์ คลีนิก นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤษ์
5.ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน คือ นายต่อพงศ์ เสลานนท์ 6.ด้านอื่นๆ ที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ประกอบด้วย ก.ด้านกฏหมาย คือ ร้อยโทธนกฤษฏ์ เอกโยคยะ ข.ด้านเศรษฐศาสตร์ คือ นายศุภัช ศุภชลาศัยคาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาในสมัยประชุมหน้าที่จะเปิดในวันที่ 1 พ.ย.นี้
ส่วนขั้นตอนนั้นคณะกรรมการสรรหาได้เชิญผู้สมัครทั้ง78คนมาสัมภาษณ์โดยให้เวลาเพียงคนละ 10 นาทีแสดงวิสัยทัศน์ 5 นาทีและตอบคำถามอีก 5 นาทีจะว่าไปแล้วให้เวลาน้อยมากสำหรับองค์กรที่มีความสำคัญอย่างกสทช.แทนที่จะเชิญเฉพาะผู้ที่ผ่านการกลั่นกรองคุณสมบัติมาแสดงวิสัยทัศน์
การสรรหาครั้งนี้ครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกโดนวิพากษ์วิจารย์อย่างหนักเพราะผู้สอบผ่านหลายคนมีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติบางคนมีประวัติด่างพร้อยบางคนมีผลประโยชน์ทับซ้อนและบางคนคุณสมบัติขัดกับระเบียบในการรับสมัครแต่หลุดลอดเข้ามาในที่สุดก็โดนสว.ล้มกระดาน
ส่วนครั้งที่สองสรรหาเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงพรบ.ใหม่และก็มีเสียงวิพากษ์วิจารย์ทำนองเดียวกับครั้งแรกจึงต้องให้มีการสรรหากันใหม่และครั้งนี้ถือว่าเป็นการสรรหาภายใต้พรบ.ใหม่ซึ่งกรรมการสรรหาจะเลือกผู้สมัครเหลือเพียงสาขาละ1คนเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาโดยพ.ร.บ.ฉบับเดิมที่ใช้ในการสรรหาสองครั้งแรกเสนอสาขาละ2คนเพื่อให้วุฒิสภาฯเลือกคนใดคนหนึ่ง
ถามว่าทำไมใครๆถึงอยากเป็นบอร์ดกสทช.กันนักแต่เมื่อใครเห็นตัวเลขรายได้และผลตอบแทนที่สุดเว่อวังอะลังการแล้วคงไม่แปลกใจอย่างที่รู้ๆ”กสทช.”เป็นองค์กรอิสระระดับ”เกรดเอบวก “รายได้และสิทธิประโยชน์”ต่างๆ จึงหอมหวลจนใครๆก็อยากเข้ามานั่งเป็นบอร์ด
แค่ลำพังเงินเดือนของบอร์ดแต่ละคนอยู่ที่ 269,000 บาท ประธานบอร์ดมากกว่านั้นยังมี “งบเดินทางต่างประเทศ” นั่งเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสมี “งบรับรอง” คนละ 200,000 แสนบาทต่อเดือน ยังไม่รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆจึงไม่แปลกใจที่ใครๆก็อยากจะเป็นบอร์ด กสทช.
เข้าใจว่าเจตนาที่ต้องกำหนดให้รายได้บอร์ดกสทช.ในอัตราสูงๆก็เพื่อจะจูงใจคน”เก่ง”คนดี”นักบริหารมืออาชีพที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญจริงๆเข้ามาทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ชาติรวมถึงใช้สติปัญญาต่อยอดทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชาติบ้านเมืองแต่จากการสรรหาที่ผ่านมาไม่ว่าชุดไหนๆก็น่ายังห่างไกลเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้
จึงไม่แปลกใจในการสรรหาแต่ละครั้งจึงมีการวิ่งเต้นกันฝุนตลบเพื่อ”ล็อบบี้”ให้ตัวเองเข้ามาเป็น1ในอรหันต์ทั้ง7คราวนี้ก็เช่นกันส่อเค้าว่าชักจะมีกลิ่นทะแม่งๆนัยว่ามีการ”ล็อคสเป็ค”ไว้ให้ใครบางคนซึ่งได้แอบสืบทราบมาว่ามี”มือที่มองไม่เห็น”แผ่อิทธิพลข้ามหัวกรรมการสรรหาฯ” เข้าไปจัดวางเอาคนของตัวเองไปนั่งเป็นบอร์ดกสทช.ล่วงหน้าไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบนี้ก็ยังถูกวิจารย์ว่า”คุณสมบัติไม่ตรงปก”เพราะบางคนก็ยังถูกมองว่าไม่เคยผ่านงานบริหารในสาขาที่ตัวเองได้รับเลือกบางคนก็ถูกมองว่าขัดคุณสมบัติผลประทับซ้อนเพราะเคยเป็นผู้บริหารองค์กรที่เป็นคู่สัญญากับกสทช.และเคยถูกวุฒิสมาชิกตีตกมาแล้วเรียกว่าเกือบทุกคนที่สอบผ่านล้วนมี”ตำหนิ”ติดตัวด้วยกันทั้งสิ้นอยู่ที่ว่ารอยตำหนินั้นชัดเจนมากน้อยแค่ไหน
แต่เชื่อว่ายังไงก็ตามคราวนี้วุฒิสมาชิกคงไม่ล้มกระดานให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกแน่ๆแม้ว่าคุณสมบัติส่วนใหญ่ไม่ตรงปกความสำคัญอยู่ที่ว่าจะตรงตามใบสั่งหรือไม่
…………………..
คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง
โดย “ทวี มีเงิน”