“ซอล์ฟพาวเวอร์ไทย” ไม่ได้มีดีแค่ “ข้าวเหนียวมะม่วง”

อานุภาพของ “ซอล์ฟพาวเวอร์” ไม่น่าเชื่อว่า จะทรงพลังสะกด ตรึงคนได้ทั่วทั้งโลกให้หลงไหลคลั่งไคล้ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนหลายๆ ประเทศได้หันมาให้ความสำคัญในการแปลงวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นเพลง หนัง การแต่งกาย อาหาร วัฒนธรรมอื่นๆ ของชาติ มาเป็นสินค้าส่งออก

“เกาหลี” เป็นประเทศหนึ่งที่เอาจริงเอาจังและประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในการสร้างสรรค์ซอล์ฟพาวเวอร์ ให้เป็นสินค้าส่งออก สร้างรายได้เข้าประเทศแต่ละปีมูลค่ามหาศาล ตอนนี้ตลาดสินค้าวัฒนธรรมของเกาหลี ไม่ใช่มีแค่ในเอเชียเท่านั้น แต่กำลังบุกตลาดยุโรป ทั้งหนังเกาหลี อาหารเกาหลีกำลังเป็นที่นิยมของคนยุโรป ขณะที่ K-POP ก็กำลังตรึงคนทั้งโลก ลำพังวง BTS ซึ่งเป็นวงบอยแบนด์ชื่อดังวงเดียว สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ ถึง 0.3% ของจีดีพี.ลองคิดดูว่ามีมูลค่ามหาศาลแค่ไหน

อันที่จริงคนไทยอาจจะมองเกาหลีเป็นต้นแบบของการพัฒนาซอล์ฟพาวเวอร์เป็นสินค้าส่งออก แต่เชื่อหรือไม่ว่า ล่าสุด การจัดอันดับ “ซอล์ฟพาวเวอร์” ที่ทรงพลังที่สุดในโลกประจำปี 2522 โดย แบรนด์ไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการประเมินคุณค่าแบรนด์ และกลยุทธ์ระดับโลก ได้จัดอันดับ 120 ประเทศ

ปีนี้สหรัฐอเมริกาได้ผงาดกลับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ขณะที่ในทวีปเอเชีย ประเทศที่มีซอล์ฟพาวเวอร์อันดับต้น ๆ คือ จีน ตามมาด้วยญี่ปุ่น ในอาเซียน มีสิงคโปร์ขึ้นอันดับ 20 ของโลก และเป็นอันดับที่ 1 ในอาเซียน ส่วนประเทศไทยไม่ได้ก้าวกระโดด แต่อันดับหล่นลงมาจาก อันดับ 33 ในปี 2564 มาอยู่ที่อันดับ 35 ตรงนี้คงจะเห็นได้ว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังแค่ไหน หรือมีแต่วาทะกรรม

ล่าสุดปรากฏการณ์ “มิลลิ” ดนุภา คณาธีรกุล แร็ปเปอร์สาววัย 19 ปี ได้ขึ้นไปโชว์ความสามารถบนเวทีระดับโลกที่ Coachella มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ปรากฏเป็นข่าวใหญ่สร้างความฮือฮา จนคนทั่วโลกรู้จักเธอโด่งดังในพริบตา เมื่อเธอโชว์กิน “ข้าวเหนียวมะม่วง” บนเวทีทำให้คำว่า “Mango Stick Rice” กลายเป็นคำที่ค้นหาอย่างมากใน Google จากทั่วโลก อีกทั้งพลอยทำให้ข้าวเหนียวมะม่วงขายดิบขายดี จนขาดตลาด มะม่วงราคาดีขึ้น

จะเห็นว่าอนุภาพซอล์ฟพาวเวอร์นั้น ทรงพลังจริงๆ ทำให้คนไทยต้องมาพูดถึงกันอีกครั้ง แม้แต่ “ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยังไม่ยอมตกเทรนด์ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ด้วย

มิหนำซ้ำ “โฆษกรัฐบาล-ธนกร วังบุญคงชนะ” ก็ไม่วายออกมาเรียกเครดิต บอกว่า….“ความสำเร็จของศิลปินไทยที่ไปสร้างชื่อด้านวัฒนธรรมและศิลปะดนตรีต่างประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของนายกฯ ที่มุ่งส่งเสริมวัฒนธรรมที่เป็นซอล์ฟพาวเวอร์ของไทย ที่กลายเป็นสินค้าส่งออกของไทย ให้กลายเป็นสินค้าวัฒนธรรมที่สำคัญ ได้แก่ อาหาร ภาพยนตร์และวิดิทัศน์ การออกแบบแฟชั่น ศิลปะการป้องกันตัวและเทศกาลประเพณีของไทย”

เมื่อคราวที่ “ลิซา แบล็กพิงค์” ให้สัมภาษณ์ “วูดดี้” ว่า “คิดถึงและอยากกินลูกชิ้นยืนกิน” ทำให้ร้านลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟ จังหวัดบุรีรัมย์ ร้านโปรดของเธอขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ส่วนทางจังหวัดบุรีรัมย์ ก็เป็นเสือปืนไว จัดมหกรรมลูกชิ้นยืนกิน เป็นงานใหญ่โตของจังหวัด คนจากทั่วประเทศเดินทางไปเข้าแถวซื้อลูกชิ้น กลายเป็น “ของดีบุรีรัมย์” ถูกนำมาเป็นของฝากออีกด้วย

“ปรากฏการณ์ข้าวเหนียวมะม่วง” กลับมีอิทธิพลในวงกว้างมากกว่า เพราะเป็นอาหารหวาน ที่มีตามฤดูกาลและมีอยู่ทั่วไป อานิสงส์ครั้งนี้ นอกจาก “มะม่วง” และ “ข้าวเหนียว” ที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 3-4เท่าแล้ว “น้ำตาล-มะพร้าว” ก็พลอยได้ด้วย

อันที่จริงประเทศไทยเรามีวัตถุดิบดีๆ ที่นำมาปรุงเป็นสินค้าวัฒนธรรมชั้นยอดได้ไม่ยาก เช่น อาหารไทย ที่ถูกปากชาวต่างชาติทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น “ผัดไทย-ต้มยำกุ้ง-ต้มข่าไก่-พะแนง-ส้มตำ” ล้วนแต่ได้รับความนิยม จะเป็นรองแค่ อาหารญี่ปุ่นกับอิตาลีเท่านั้น ทุกวันนี้ร้านอาหารไทยในต่างประเทศมีจำนวนไม่น้อย แต่ถ้ารัฐบาลให้การส่งเสริมมีการบริหารจัดการที่ดี มีการทำประชาสัมพันธ์ น่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ รัฐบาลที่ผ่านๆ มาเคยคิดจะ “สร้างครัวโลก” แต่ทุกวันนี้ไม่มีใครจำครัวโลกได้

วัฒนธรรมของไทยยังมีอีกหลากหลายที่สามารถต่อยอดเป็นสินค้าวัฒนธรรมออกสู่ตลาดโลกได้ อย่าง “ศิลปะแม่ไม้มวยไทย-นวดสปา-นวดแผนไทย” ล้วนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า แต่เรากลับไม่สนใจนำมาเจียรนัยให้เป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ทุกวันนี้ถูกต่างชาติเอาไปหาประโยชน์

ปัจจุบันศิลปะมวยไทยแพร่กระจายไป 32 ประเทศทั่วโลกมีค่ายมวยกว่า 4 พันค่ายในยุโรป บราซิล อิหร่าน เป็นต้น มีครูมวยกว่า 2 พันคน มีธุรกิจผลิตสินค้ามวยไทย นวม กางเกงมวย อุปกรณ์การชกมวยอื่นๆ กว่า 50 บริษัท สร้างรายได้เข้าประเทศปีละไม่น้อยกว่าแสนล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีนวดสปา นวดแผนไทยที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก แต่ทุกวันนี้ ร้านนวดสปาและนวดแผนไทยของไทยในต่างประเทศ ถูกมองในแง่ลบในสายตาชาวต่างชาติบางกลุ่ม หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้การสนับสนุนและพัฒนา เชื่อว่า จะเป็นสินค้าวัฒนธรรมสร้างรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีไม่น้อย

“ข้าวเหนียวมะม่วงฟีเวอร์” ยังสร้างกระแสให้คนทั้งโลกรู้จักอาหารไทย ประเทศไทย ถ้ารัฐบาลเอาจริงเอาจังตามที่โม้เอาไว้ เชื่อว่า “ซอล์ฟพาวเวอร์ไทย” ไม่แพ้ชาติใดในโลก และไม่ได้มีแค่ข้าวเหนียวมะม่วง

………………………………

คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง

โดย “ทวี มีเงิน”

สนับสนุนคอลัมน์ โดย :   บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

#ยิ่งใกล้คุณยิ่งต้องดี #GCเคมีที่เข้าถึงทุกความสุข #GCChemistryforBetterLiving