“อาก๋งจุน”คนรวยผู้ยิ่งใหญ่…ยิ่งให้ยิ่งได้

การบริจาคเงินก้อนใหญ่ 900 ล้านบาทในคราวเดียวของ “อาก๋งจุน” จุน วนวิทย์ ผู้ก่อตั้งพัดลมแบรนด์สัญชาติไทย “ฮาตาริ” และครอบครัว ได้สร้างความฮือฮาเป็นอย่าง เนื่องจากการบริจาคเงินมหาศาลขนาดนี้ มักจะไม่ค่อยเห็นในสังคมไทย

แต่สำหรับบรรดามหาเศรษฐีของฝรั่งนั้น จะมีให้เห็นบ่อยๆ โดยเฉพาะเศรษฐีที่ร่ำรวยจากธุรกิจไอที. มีหลายคนแต่ที่โดดเด่น เช่น “บิล เกตส์” เจ้าของไมโครซอล์ฟ หรือเจ้าพ่อตลาดหุ้น “วอเรนต์ บัฟเฟต์” ที่บริจาคให้กับมูลนิธิของบิลเกตเพื่อนำไปใช้ในการกิจการสังคม โดยเฉพาะบิล เกตส์ ล่าสุดประกาศสละตำแหน่งมหาเศรษฐีโลกด้วยการบริจาคทรัพย์สินราว 2 แสนล้านดอลลาร์ให้การกุศล คืนประโยชน์สู่สังคม

“การให้” ครั้งยิ่งใหญ่ ของ “อาก๋งจุน” ด้วยการบริจาคเงินส่วนตัว ให้แก่ มูลนิธิรามาธิบดี แบ่งเป็น โครงการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี 160 ล้านบาท, โครงการรามาธิบดีศรีอยุธยา 300 ล้านบาท, โครงการนวัตกรรมโยธี 440 ล้านบาท นับเป็นการบริจาคเงินเพื่อการกุศลมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของ “อาก๋งจุน” ก่อนหน้านี้ได้บริจาคมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะบริจาคเพื่อการแพทย์ บริจาคเพื่อการศึกษา จนมีคนแซวในโลกออนไลน์ด้วยความเคารพว่า นี่ไม่ใช่การบริจาค แต่เป็นกิจวัตรประจำวัน

กรณีนี้กลายเป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์” จึงอดที่จะนำมาพูดถึงไม่ได้ อย่างน้อยๆ ให้เห็นอีกแง่มุมของการทำธุรกิจว่า “การให้” กับสังคมนั้น หากทำด้วยความตั้งใจจริง สังคมย่อมรู้และเข้าใจ กรณีนี้ อาจจะไม่ใช่ “ศรัทธา มาร์เก็ตติ้ง” ตามนิยามของนักการตลาด ที่หมายถึงการทำธุรกิจอาศัยความศรัทธา ความเชื่อมาเป็นจุดขาย แต่สิ่งที่ “อาก๋งจุน” และครอบครัวกระทำนั้น กลายเป็นสร้างความนิยมศรัทธาตามมา

เช็คก้อนโต 900 ล้านบาทที่มอบให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี ทำให้ “นักธุรกิจ-เศรษฐีใจบุญที่ทำตัวเงียบๆ สมถะ” โด่งดังในชั่วข้ามคืน แม้การทำบุญของ “อาก๋งจุนและครอบครัว” จะไม่ได้หวังชื่อเสียงและสิ่งตอบแทน ทำด้วยพลังศรัทธาที่อยากจะแบ่งปัน เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์จริงๆ แต่การทำความดีครั้งนี้ได้ส่งผลย้อนกลับมายังครอบครัวและธุรกิจของ “อาก๋งจุน” อย่างคาดไม่ถึง

สะท้อนจากกระแสผู้บริโภคถ่ายรูปคู่กับ “พัดลมฮาตาริ” เพื่อแสดงความศรัทธาต่อเจ้าของแบรนด์สินค้าจนเป็นไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือปรากฏการณ์ร้านค้าขายเครื่องไฟฟ้าทั่วไปที่พัดลมยี่ห้อฮาตาริขายดิบขายดี ส่วนร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำในห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ก็มีผู้บริโภคสนใจถามและขายได้เพิ่มขึ้น เพราะผู้บริโภคอยากมีส่วนร่วมในการสร้างมหากุศลครั้งนี้

นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้บริโภคมี Engagement กับแบรนด์สูงมาก โดยวันที่ 28 ก.ค.65 ติดท็อป 3 การค้นหาบน Google trends นอกจากนี้ 10 อันดับเทรนด์จาก Wisesight ที่ผู้บริโภคพูดถึงบนโลกออนไลน์ จำนวน 8 อันดับ เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ “พัดลมฮาตาริ” ทั้งสิ้น

อีกทั้งผู้คนต่างชื่นชมและสืบค้นหาประวัติ “อาก๋งจุนนักสู้ชีวิต” ปีนี้อายุ 86 ปี เริ่มต้นวัยเด็กที่ต้องดิ้นรนสู้ชีวิต ไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนหนังสือในระดับสูง จึงจบแค่ ป.2 แต่มีความขยันหมั่นเพียร อาชีพแรก ในวัย 17 ปี ขับแท็กซี่ แล้วเริ่มต้นมาเป็นลูกจ้างร้านทอง เป็นช่างทำโมล ทำของเล่น และอะไหล่พัดลม ก่อนจะตัดสินใจทำพัดลมทั้งตัว เมื่อปี 2528 ต่อมาเมื่ออายุ 52 ปี จึงได้ผลิตพัดลมยี่ห้อ “ฮาตาริ” ธุรกิจก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ทั้งขายในประเทศและส่งออกยอดขายได้ปีละหลายพันล้านบาท

“อาก๋งจุน” เป็นคนที่ทำงานมุ่งมั่น สมถะ ประหยัด เรียบง่าย และเสมอต้นเสมอปลาย แม้จะมีฐานะร่ำรวย แต่ของแพงที่สุด คือ นาฬิกาข้อมือ ราคา 2,000 บาท ไม่เคยใส่ Brand Name ไม่มีรถสปอร์ต ไม่มีเรือยอชต์ หรือเครื่องบินส่วนตัว

ส่วนอาณาจักรธุรกิจของ “อาก๋งจุนและครอบครัว” มีหลายธุรกิจแต่หลักๆ คือสินค้าแบรนด์ “ฮาตาริ” ประกอบด้วยบริษัท วนวิทย์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทำกำไรมากที่สุดกว่า 600 ล้านบาท, บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด ซึ่งทำธุรกิจขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้า, บริษัท ฮาตาริ อีคอมเมิร์ซ จำกัด ทำธุรกิจขายปลีกพัดลมทางอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่น ๆ บริษัท ฮาตาริ ไวร์เลส จำกัด ทำธุรกิจด้านสื่อดิจิทัลอย่างจอโฆษณา พัฒนาแอปพลิเคชั่น ระบบเน็ตเวิร์กสำหรับองค์กร ฯลฯ บริษัท ฮาตาริ คอนเน็คท์ จำกัด ทำธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์สมาร์ทโฮม และให้บริการโซลูชั่นสมาร์ทโฮมสำหรับร้านค้าปลีกและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ฮาตาริ เทคโนโลยี จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ รวมถึงมีธุรกิจปั๊มแก๊ส LPG ในชื่อ HATA GAS

ในด้านตลาดนั้น “ฮาตาริ” ในฐานะ “เจ้าตลาด” มากกว่า 30 ปี มีส่วนแบ่งตลาดในประเทศกว่า 80% สินค้าของ “ฮาตาริ” มีทั้งพัดลมเคลื่อนที่ พัดลมติดตั้ง พัดลมอุตสาหกรรม พัดลมไอเย็น พัดลมระบายอากาศ รวมถึงเครื่องฟอกอากาศ โดยมีการพัฒนานวัตกรรมออกแบบ ดีไซน์ ให้ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

การบริจาค แม้ไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่กระแสศรัทธาของประชาชนที่มีต่อ “อาก๋งจุน” กลายเป็นพลังบวกให้กับแบรนด์อย่างมาก เชื่อว่าจากนี้ไป คนไทยไทยจะซื้อพัดลม ต้องคิดถึง “ฮาตาริ” เพราะ “ศรัทธา” ที่เกิดจากการเป็นผู้ให้ของ “อาก๋งจุน” ดั่งคำกล่าวที่ว่ายิ่งให้-ยิ่งได้ นั่นเอง!!!

………………………..

คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง

โดย “ทวี มีเงิน”

สนับสนุนคอลัมน์ โดย :   บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

#ยิ่งใกล้คุณยิ่งต้องดี #GCเคมีที่เข้าถึงทุกความสุข #GCChemistryforBetterLiving