วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSคุ้มไหม“ก้าวไกล”โดดเดี่ยวตัวเอง??? เพื่อฐานเสียง Niche Market
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

คุ้มไหม“ก้าวไกล”โดดเดี่ยวตัวเอง??? เพื่อฐานเสียง Niche Market

การที่หลายพรรคการเมือง ออกมา call out แสดงจุดยืน “ไม่เห็นด้วย-คัดค้าน”การแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยพร้อมเพียงกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยเฉพาะจากพรรครัฐบาล ทั้ง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ – “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย – “วราวุธ ศิลปอาชา” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และตามด้วย “พลังประชารัฐ” พรรคแกนนำรัฐบาล แต่กลับออกมาทีหลังกว่าพรรคอื่น แถมยังให้แค่ระดับโฆษกพรรค “พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์” ส.ส.กทม. ออกมาประกาศพลังประชารัฐ ไม่เอาการแก้ไข 112

ทั้งหมด ดูแล้ว เป็นนัยยะที่ไม่ธรรมดาทางการเมือง จนคนตั้งข้อสังเกตุกันทางการเมืองว่า มีอะไรหรือไม่?

เพราะแม้เรื่องนี้จะเป็นการออกมาหลัง “พรรคก้าวไกล” แถลงข่าวแนวนโยบายของพรรคที่จะชูในการหาเสียงเลือกตั้งรอบหน้าเรื่องการแก้ไข 112 แต่หากจับจังหวะตามนี้ มันก็ยังมีเวลาอีกหลายเดือน ที่กว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แล้วทำไมหลายพรรคการเมือง ต้องออกมาประกาศเรื่องนี้

cr : พรรคก้าวไกล – Move Forward Party

อีกทั้งก่อนหน้านี้ “พรรคก้าวไกล” เคยเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อสภาฯไปแล้ว แต่ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ ตีตกสอยร่วงด้วยเหตุผลว่า กระทำไม่ได้-ขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้ร่างตกไปโดยสภาฯ ไม่บรรจุเรื่องนี้เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมของสภาฯเสียด้วยซ้ำ ผนวกกับการแก้ไข112 ต้องใช้เสียงข้างมากในสภาฯและวุฒิสภา ซึ่งดูแล้วเรื่องนี้ ยากมากที่ฝ่าด่านของทั้งสภาล่างและสภาสูงไปได้ เพราะยังไง “ก้าวไกล” ต่อให้พีกสุดๆ ก็ไม่มีทางได้ส.ส.จำนวนมากพอที่จะไปผลักดันให้มีการแก้ไข 112 ได้ หากทั้ง “ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย-ชาติไทยพัฒนา” และอีกหลายพรรคเวลานี้…ไม่เอาด้วย

รวมถึงแม้แต่กับ “พรรคเพื่อไทย” ที่ก็จะพบว่า แม้จะเป็นแนวร่วมฝ่ายค้านเดียวกับ “ก้าวไกล” แต่แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมถึงหัวหน้าพรรคตัวจริง “ทักษิณ ชินวัตร” ก็ไม่รับลูก-ไม่หนุนให้แก้ไข 112 มาตลอด แม้รอบนี้ “คนในพรร” จะมีแค่ “สุทิน คลังแสง” ประธานวิปฝ่ายค้านจากเพื่อไทย ออกมาพูดเท่านั้น แต่ก็บอกปัดทันทีว่า พรรคเพื่อไทย เน้นให้ความสำคัญกับเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจปากท้องประชาชน และความมั่นคงทางการเงินการคลังของประเทศ รวมทั้งการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดกับสังคมไทย พูดง่ายๆ “เพื่อไทย” ไม่เด้งรับเผือกร้อนเรื่อง 112

ซึ่งหากเพื่อไทย ไม่เอาด้วยกับ 112 ก็เรียกได้ว่า ปิดประตูการแก้ไข 112 ในสภาฯ ไปได้เลย เพราะหากต่อให้เลือกตั้งที่จะมีขึ้น เพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เกิน 250 เสียง หรือได้สักเกือบ 200 เสียง แล้วเพื่อไทยไม่เอาด้วยกับ 112  รวมถึง “ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย-ชาติไทยพัฒนา-พลังประชารัฐ” รวมถึงอีกหลายพรรคที่คาดว่าจะมีส.ส.ในสภาฯแน่นอนเช่น สร้างอนาคตไทยของ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์-ชาติพัฒนากล้า” ของ “สุวัจน์ ลิปตพัลล”-รวมไทยสร้างชาติ ของ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รวมกันยังไง ก็ต้องเกิน 350 เสียงหรือเกือบ 400 เสียงในสภาฯไปได้อยู่

เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ที่ก้าวไกล จะได้ส.ส.เกิน 250 เสียง จนสามารถแก้ไข 112 ในสภาฯด้วยพรรคเดียวได้

โดยอย่าว่าแต่ 250 เสียงเลย หลายคนก็ประเมินว่า แม้กระแส “ก้าวไกล” จะแรงในโซเชียลมีเดียและนิวโหวตเตอร์ คนรุ่นใหม่ ผนวกกับเป็นพรรคที่มีฐานเสียงแฟนคลับของตัวเองชัดเจน ระดับหนึ่งโดยเฉพาะในกทม.และเขตอำเภอเมืองที่เป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ แต่มีการประเมินกันว่า สุดท้าย หากสูตรเลือกตั้งออกมา 100 หาร และบัตรสองใบ “พรรคก้าวไกล” ให้กระแสพีกสุดๆ ก็ไม่น่าจะได้ส.ส.ถึง 50 คน ซึ่งแม้จะเพียงพอต่อการเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสภาฯได้ แต่เสียงโหวตหนุนในสภาฯ และวุฒิสภา เมื่อไม่มีแนวร่วม ก็ยากจะฝ่าไปได้

ด้วยเหตุนี้ การชูนโยบายแก้ไข 112 ของก้าวไกล จึงเป็นเรื่องที่พูดได้ หาเสียงได้ แต่หากดูในความเป็นจริงทางการเมือง ยากมากที่จะทำได้สำเร็จ

ยังไม่นับรวม ด่านสกัดที่จะตามมา อีกหลายด่าน เช่น ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ ที่เป็นฝ่ายข้าราชกาประจำ ก็คงยากที่จะกลับความเห็นตัวเองด้วยการให้ ร่างแก้ไข 112 ถูกบรรจุเข้าสภาฯได้ เพราะเคยมีความเห็นไปแล้วว่า การแก้ 112 ขัดรัฐธรรมนูญ

แล้วไหนยังมีด่านสกัดสำคัญคือ เรื่องนี้ หากถึงต่อให้ฝ่ายกฎหมายสภาฯพลิกความเห็นตัวเอง ยอมให้ถูกบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯได้ ก็จะต้องมีคนไปยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแน่นอน ถึงขั้นอาจเสนอให้ยุบพรรคก้าวไกลในเรื่องว่าเป็นนโยบายที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯเลยด้วยซ้ำ ถึงขั้นอาจซ้ำรอย “ไทยรักษาชาติ” ที่เคยโดนมาแล้ว ตอนเสนอชื่อ “ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีฯ” เป็นแคนดิเดตนายกฯตอนเลือกตั้งปี 2562

อย่างไรก็ตาม ถามว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกล ได้อะไรจากเรื่องนี้ ในการชูเรื่อง 112 ตอนหาเสียงเลือกตั้ง คำตอบที่เห็นชัดคือ ทำให้ ก้าวไกล “แยกฐานเสียง-กลุ่มหนุนพรรคก้าวไกล”ให้ชัดออกมาเลยจาก “พรรคเพื่อไทย”

เพราะขณะที่ “เพื่อไทย” พยายามรีแบนด์พรรคให้มีความทันสมัย มีความรุ่นใหม่มากขึ้น ดัน “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” มาเล่นการเมือง เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ก็ทำให้ “เพื่อไทย” ได้กระแสจากคนรุ่นใหม่กลับคืนมาจาก “ก้าวไกล” ที่เป็นพรรคคู่แข่งขันของตัวเองในฝั่งเดียวกันกลับคืนมาได้พอควร มันก็ทำให้ “ก้าวไกล” ก็ต้องการให้ฐานเสียง ที่เป็นกลุ่มเดียวกับเพื่อไทย ตัดสินใจได้เด็ดขาดไปเลยว่า จะเลือกเพื่อไทยหรือก้าวไกล ด้วยการเสนอนโยบายแบบ “ทะลุฟ้า” อย่างการแก้ไข 112

เพื่อที่ประชาชน-คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการให้แก้ไข 112 ซึ่งเดิมที อาจตัดสินใจไม่ถูกว่า ตอนเลือกตั้งจะเชียร์เพื่อไทยหรือก้าวไกลดี ก็จะได้ตัดสินใจเด็ดขาดตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยว่า หากเห็นด้วยกับการแก้ไขหรือยกเลิก 112-ไม่เห็นด้วยกับการสอบสวนเอาผิดมาตรา 112 ก็ให้มาเริ่มเป็นแนวร่วมกองเชียร์กับพรรคก้าวไกลตั้งแต่ตอนนี้เลย ด้วยการเลือกผู้สมัครส.ส.เขตของก้าวไกล และบัตรปาร์ตี้ลิสต์ก็ให้กาก้าวไกล ไม่ใช่เพื่อไทย

นี้คือสิ่งที่ “ก้าวไกล” หวังผลในทางการเมืองมากกว่า ในการชูเรื่องแก้ไข 112 เพราะ “คนก้าวไกล” คงเชื่อว่า การชูให้ชัดแบบนี้ จะทำให้ได้คะแนนในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เพราะมั่นใจว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเอาด้วยกับเรื่องนี้ ที่เป็นฐานเสียงแบบเฉพาะกลุ่ม niche market

เพราะเมื่อ “เพื่อไทย“ กับ “ทักษิณ” ไม่เอาด้วย มันก็ทำให้คนที่อาจจะคิดว่า ส.ส.เขตเลือกเพื่อไทย บัตรปาร์ตี้ลิสต์เลือกก้าวไกลหรือ ส.ส.เขตเลือกก้าวไกลแต่ปาร์ตี้ลิสต์เลือกเพื่อไทย ก็จะได้เปลี่ยนใจมาเป็น เลือกก้าวไกลทั้งสองใบ

ทั้งนี้ การผลักดันเรื่องการแก้ไข 112 ของ “ก้าวไกล” คาดได้ว่า ก็คงยึดแนวทางเดิมแบบตอนที่เคยเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้

ที่ตอนนั้นมีเนื้อหาเช่น ให้ยกเลิกมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน เมื่อปี 2519-ความผิดกรณีถูกศาลตัดสินจำคุกลง ที่เสนอให้ลดลงหลายปีมาก-ให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ร้องทุกข์ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหายในความผิดเกี่ยวกับพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และเกียรติยศของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เป็นต้น

เห็นแค่นี้ ก็เห็นได้ชัด ยังไงก็ยากที่การเสนอแก้ไข-ยกเลิก 112 ของก้าวไกล แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะสำเร็จ เพราะแค่เสนอ ก็จะเจอแรงต้านทันที ตั้งแต่ตอนหาเสียงแล้ว จนอาจกลายเป็นความขัดแย้งขึ้นภายในสังคมตามมาได้ 

แต่ก็เชื่อว่าคนในพรรคก้าวไกล คงไม่สน เพราะเมื่อแนวทางพรรคมาแบบนี้ ตั้งแต่ยุคอนาคตใหม่ จนทำให้พรรคมีฐานเสียงของตัวเองระดับหนึ่งที่เอาด้วยกับสิ่งที่พรรคขับเคลื่อน มันจึงต้องดันต่อไป ถอยหลังกลับไม่ได้เสียแล้ว แม้จะเป็นแนวทางที่ทำให้พรรคก้าวไกล ถูกโดดเดี่ยวทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่กับจากฝ่ายค้านด้วยกันเองก็ตามที

…………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย…..“พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img