ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นตลอดสัปดาห์หน้านี้ 16-19 ก.พ. เมื่อสโคปไปที่ การเตรียมพร้อมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รวมถึง 9 รัฐมนตรี ที่ถูกฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล
พบว่าทุกคนต่างเตรียมพร้อมกันเต็มที่เพื่อทำศึกชนกับฝายค้าน ตลอดการซักฟอก 4 วัน 4 คืน ที่ฝ่ายค้านคุยโวว่ามีหมัดเด็ด จะมาน็อกรัฐบาลกลางสภาฯ
ความเคลื่อนไหวในส่วนของ 10 รัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านยื่นซักฟอก ข่าวบอกว่า ทั้งหมดต่างเปิดวอร์รูม ทั้งที่กระทรวงและบ้านพักตัวเองเพื่อเตรียมรับมือ รัฐมนตรีหลายคนระดมจัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจนับสิบคนเพื่อเตรียมข้อมูลไว้ชี้แจงฝ่ายค้าน พร้อมๆกับมีข่าว ทีมงานวอร์รูมของรัฐมนตรีบางคน ก็พยายามหาข่าวทางลึก เพื่อหวังแซะให้รู้ ข้อสอบล่วงหน้า ว่า ฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง-ข้อมูลของฝ่ายค้านมีอะไรบ้าง-และใครเป็นผู้อภิปราย เพื่อจะได้เตรียมชี้แจงรวมถึงเตรียมตอบโต้ได้
โดยเมื่อมองไปที่ การเตรียมพร้อมรับศึกซักฟอก ของ 3 คีย์แมนตัวจริงของรัฐบาล คือ “3 ป.”
-บิ๊กตู่ -พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
-บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
-บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
ที่กอดคอกันเหนียวแน่น เป็นพี่เป็นน้อง เป็นนายเป็นลูกน้อง กันมาหลายสิบปี ตั้งแต่ทั้งสามคน ยังเป็นนายทหารชั้นผู้น้อย จนตอนนี้ จับมืออยู่บนอำนาจร่วมกันมาร่วม 7 ปี ตั้งแต่ยุครัฐบาลคสช.จนถึงปัจจุบัน
ซักฟอกรอบนี้ ข่าวบอกว่า บิ๊ก 3 ป. ตั้งการ์ดสูง เตรียมรับมือฝ่ายค้านเต็มที่ ที่น่าสนใจก็คือ ทีมงานการเมือง-ข้าราชการประจำที่จะเป็นทีมแบ็คอัพ-เสริฟ ข้อมูลให้กับทั้งสามคนเพื่อสู้กับฝ่ายค้าน พบว่า น่าสนใจไม่ใช่น้อย
โดยเมื่อไล่สแกนไปทีละคน ไล่ตั้งแต่พี่ใหญ่ “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร รองนายกฯ” ที่ต้องไม่ลืมว่า การอภิปรายรอบที่แล้วตอนปี 2563 แม้ฝ่ายค้านจะยื่นซักฟอกพลเอกประวิตรด้วย แต่เกิดปัญหาการประสานงานระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล จนทำให้ พลเอกประวิตร ไม่ถูกส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายกลางสภาฯ ตรง ๆ แม้แต่คนเดียว
แต่มารอบนี้ ประวัติศาสตร์คงไม่ซ้ำรอย ยังไง บิ๊กป้อม ต้องถูกฝ่ายค้านรุกไล่กลางสภาฯ แน่นอน ทำให้หลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า “ลุงป้อม” จะไหวหรือไม่ บทหนักเลยไปอยู่ที่ ทีมวอร์รูมหน้าห้องของบิ๊กป้อม ที่ต้องเตรียมพร้อมอย่างดี ไม่ให้บิ๊กป้อมเสียท่ากลางสภาฯ เด็ดขาด
พบว่า ทีมงานของพล.อ.ประวิตร ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาลและที่พัก-ที่ทำงานส่วนตัวในมูลนิธิป่ารอยต่อฯ มีการแบ่งงานกันชัดเจนเพื่อคอยแบ็คอัพให้กับพลเอกประวิตร ภายใต้การบัญชาการคุมเกมโดยทีมงานคู่ใจข้างกาย-ทีมงานหน้าห้อง สี่คนหลัก คือ “ประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำตัวพลเอกประวิตร” ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าในทำเนียบรัฐบาลและในพลังประชารัฐ ว่าเป็นมือกฎหมายที่บิ๊กป้อมไว้ใจมาก
สำหรับ ”ประสาน” ชื่อนี้ในแวดวงการเมือง โดยเฉพาะนักการเมืองรุ่นใหญ่ ต่างรู้จักชื่อนี้ระดับหนึ่ง เพราะอยู่ในวงการการเมืองมานานหลายสิบปี ตั้งแต่ยุคเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ในตอนที่พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ว่าฯกทม.ครั้งแรก หลังจากนั้น ก็โลดแล่นอยู่ในวงการการเมืองหลังฉากมาหลายสิบปี โดยส่วนใหญ่จะทำงานเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคนทั้งแบบเปิดเผยและปิดลับ รวมถึงเคยเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ-ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายให้หน่วยงานราชการหลายแห่งมาแล้วเช่น เป็นอดีตบอร์ดอสมท. เป็นต้น ผนวกกับรู้จักมักคุ้นกับบิ๊กป้อมมาหลายสิบปี จึงถูกดึงมาช่วยงาน เป็นทีมงานหน้าห้องคนสำคัญของบิ๊กป้อม ที่จะมาช่วยเรื่องการเตรียมชี้แจงในเชิงข้อกฎหมาย ระเบียบราชการต่างๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกสามคนขุนพลคู่ใจบิ๊กป้อมคือ พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง หรือที่เรียกกัน “ดร.โอ๋” อดีตที่ปรึกษา สบ.10 สำนักงานตำรวแห่งชาติ ที่เป็นเสมือน Chief of Staff ให้กับบิ๊กป้อม ในการเตรียมข้อมูลชี้แจงประเด็นเชิงการเมืองที่มีข่าวฝ่ายค้านจะอภิปรายเช่น กรณีเป็นรองนายกฯ รับผิดชอบกระทรวงแรงงาน แต่กลับเกิดปัญหา แรงงานเถื่อนลักลอบเข้าประเทศจำนวนมาก จนเกิดโควิดระบาดรอบสอง เป็นต้น
ส่วนทีมงานคู่ใจอีกสองคน มาจากสายทหารคือ พล.ท.คงชีพ ตันตระวานิชย์ เจ้ากรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม โฆษกกระทรวงกลาโหม และโฆษกประจำพลเอกประวิตร และคนสุดท้าย พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำตัวพลเอกประวิตร ฯ
นอกเหนือจากสี่คนดังกล่าวที่เป็นทีมงานวอร์รูมหลักของบิ๊กป้อม ในการรับมือกับฝ่ายค้านแล้ว ก็มีข่าว ก็จะมีอดีตขุนทหาร น้องๆบิ๊กป้อม ที่เกษียณแล้วอีก 3-4 คนที่ช่วงหลังแวะเวียนไปช่วยงานพลเอกประวิตรอย่างไม่เป็นทางการ จะมาช่วยเป็นกองหนุนด้วยอาทิเช่น พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา-พล.อ.สุชาติ ผ่องพุฒิ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน บิ๊กป้อม ก็ยังมี “ทีมงานการเมือง” ที่ใกล้ชิด รู้มือรู้ใจกันอีกหลายคนที่ส่วนใหญ่ก็คือ ขาประจำ ที่เข้าออกบ้านพลเอกประวิตร แทบทุกสัปดาห์ ก็จะมาช่วยเสริมทัพ คอยช่วยหาข้อมูล เตรียมประเด็นให้พลเอกประวิตร ตอบชี้แจง ด้วยอาทิเช่น ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ-ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน เป็นต้น
มาที่ ป. คนที่ 2 “บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ -รมว.มหาดไทย” ต้องถือว่า ชั่วโมงบินทางการเมืองในการรับมือกับฝ่ายค้าน สูงกว่าพลเอกประวิตรพอสมควร เพราะมีประสบการณ์เคยถูกฝ่ายค้านซักฟอกมาแล้ว ผนวกกับ ความที่อยู่ในตำแหน่ง มท.1 มายาวนานร่วมจะ 7 ปีแล้ว จึงทำให้ รู้งานทุกอย่างในกระทรวงมหาดไทยหมด สามารถสั่งการให้เอาข้อมูลมาชี้แจงฝ่ายค้านได้เร็วแน่นอน
ทีมงานวอร์รูมของ บิ๊กป๊อก-มท.1 ในการรับมือฝ่ายค้านพบว่า ใช้ทีมงานจากกระทรวงมหาดไทยทั้งหมด ไม่ได้ใช้บริการของนักการเมืองพรรคพลังประชารัฐแต่อย่างใด ยิ่งกับข้าราชการประจำในมหาดไทย เกือบทุกตำแหน่ง ล้วนแล้วแต่คือคนที่พลเอกอนุพงษ์เลือกมาใช้งานในตำแหน่งหลักๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงมีความคล่องตัวอยู่แล้ว ในการสั่งการ ประสานงานเพื่อเตรียมข้อมูลตลอดการอภิปรายสี่วันสี่คืน
โดยทีมงานแบ็คอัพหลักๆ ของ พล.อ.อนุพงษ์ จะมีอาทิ ”ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย” ที่ทำงานเข้าขากันเป็นอย่างดีมาหลายปี ส่วนทีมงานการเมือง มีข่าวว่าเนื่องจากพล.อ.อนุพงษ์ไม่สุงสิงกับนักการเมือง ทำให้ทีมงานก็จะใช้ทีมงานการเมืองหน้าห้องทั้งหมดมาช่วยเป็นทีมสนับสนุน ที่ส่วนใหญ่ก็คือ เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 10 ในสายทหารและตำรวจ รวมถึงคนสนิทที่ตั้งมาช่วยงานหน้าห้องที่ใช้ทีมเดิมมาตลอด ตั้งแต่เป็น มท. 1 ยุคคสช.จนถึงยุคปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.ธารา ปุณศรี เลขานุการรมว.มหาดไทย ที่ติดตามกันมาร่วมหกปี พล.ต.ท.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ณ อยธุยา กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย อดีตผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล พล.อ.ไตรรัตน์ รังคะรัตน์ เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 10 ที่หนึ่งในคณะที่ปรึกษารมว.มหาดไทย เป็นต้น
ปิดท้าย ที่ น้องเล็ก 3 ป. แต่ใหญ่สุด “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม“ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ค่อยใช้ทีมงานที่เป็นนักการเมือง มาช่วยงานหน้าห้อง โดยส่วนใหญ่ พบว่า เป็นทีมนายทหารเกือบทั้งหมด อันเป็นสไตล์ที่พลเอกประยุทธ์ใช้มาตลอด ตั้งแต่สมัยเป็นหัวหน้าคสช.ควบนายกฯ ซึ่งทีมงานหน้าห้องพล.อ.ประยุทธ์ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ก็มาช่วยพลเอกประยุทธ์ในครั้งนี้ด้วย อาทิ พล.ต.นิมิตต์ สุวรรณรัฐ, พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์
อย่างไรก็ตาม ข่าวบอกว่า ทีมงานทหารหน้าห้องบิ๊กตู่ดังกล่าว จะเน้นหนักที่ภารกิจด้านการติดต่อประสานงานกับรัฐมนตรี-บิ๊กข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นที่นายกฯ ถูกอภิปรายเพื่อขอให้ รัฐมนตรีและบิ๊กข้าราชการ ส่งข้อมูลมาให้พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงในสภาฯ
ขณะที่ทีมงานระดับผู้ใหญ่ในฝ่ายการเมือง ที่จะมาช่วยเป็นแบ็คอัพหลักให้พลเอกประยุทธ์ ข่าวบอกว่า ตัวยืนจะมีสามคนคือ “วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ” จะมาช่วยในเรื่องการเตรียมข้อมูลและประเด็นข้อกฎหมาย “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน” จะมาเสริมทัพในเรื่องประเด็นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะข้อมูลเรื่องการออกมาตราการต่างๆ มาช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนจากผลกระทบโควิดฯ และ “ดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกา” จะทำหน้าที่เป็น เซ็นเตอร์หลักในห้องรับรองนายกฯ เพื่อกลั่นกรอง สกีนข้อมูลรอบสุดท้าย เพื่อให้พลเอกประยุทธ์เอาไปชนกับฝ่ายค้านกลางสภาฯ
แน่นอนว่าตลอดทั้งสี่วันของศึกซักฟอก จะมี “ทีมองค์รักษ์พิทักษ์ลุงตู่” และรัฐมนตรีทั้ง 9 คนที่ถูกอภิปรายคอยลุกขึ้นทำหน้าที่ เตะสกัดการอภิปรายฝ่ายค้านเพื่อทำให้ฝ่ายค้านเสียขบวน เช่น ลุกขึ้นประท้วงเพื่อทำให้การอภิปรายเสียสมาธิ รวมถึงคอยลุกขึ้นช่วยรัฐมนตรีในยามที่ดูแล้วกำลังพลาดท่า ยิ่งรัฐมนตรีคนไหน เป็นระดับแกนนำ หัวหน้าพรรค บรรดาองครักษ์ ก็พร้อมจะแสดงผลงานให้เห็น หรือแม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค แต่ถ้ากระเป๋าหนัก ก็คาดได้ว่า คงมีส.ส.หลายคนพร้อมเป็นองครักษ์ให้กลางสภาฯ เพราะอาจ เป๋าตุง-ได้แต๊ะเอีย ย้อนหลัง แฮปปี้ไปตามๆ กัน
………………………………….
คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง
โดย ”พระจันทร์เสี้ยว”
