การกอดเก้าอี้แน่น ไม่ยอมลาออกจากส.ส.ของ “ปูอัด-ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์” สส.กทม. เขตจอมทอง-บางขุนเทียน พรรคก้าวไกล หลังกลายเป็น “ส.ส.กามฉาว” ที่แม้จะแถลงข่าว โค้งคำนับยาวๆ หลายครั้ง เพื่อขอโทษต่อผู้เสียหาย ขอโทษเพื่อนๆ ในพรรคก้าวไกล และขอโทษประชาชน เมื่อ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา
แต่ “ไชยามพวาน” ก็ยืนกรานว่า ตัวเขาไม่ได้คุกคามทางเพศกับอดีตผู้ช่วยหาเสียง-ทีมงานหาเสียง ที่ร้องเรียนไปที่พรรคก้าวไกลถึง 3 ราย!
เมื่อ “ปูอัด” หลังพิงฝา กอดเก้าอี้แน่น ไม่ยอมลาออกง่ายๆ โดยยืนกรานจะทำหน้าที่สส.ต่อไปและจะขอพิสูจน์ตัวเองตามที่มีการไปร้องเรียนตามองค์กรต่างๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง มันทำให้ คนในพรรคก้าวไกล เกิดความ “กระอักกระอ่วนใจ” ตามมา
เพราะอย่างที่เห็น กระแสตอนนี้ พรรคก้าวไกลโดนถล่มอย่างหนัก คนในสังคมแม้แต่กับกองเชียร์ ผู้สนับสนุนพรรค ด้อมส้มทั้งหลาย ก็วิจารณ์กันว่า “ก้าวไกล…อุ้มสส.หื่นกาม”
หลังเสียงโหวตในที่ประชุมร่วมสส.-กรรมการบริหารพรรค เสียงโหวตในเคสของ “ปูอัด” เสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ของที่ประชุมจนทำให้ “ไชยามพวาน” รอดพ้นจากการถูกขับออกจากสมาชิกพรรค
แต่ทำให้ภาพลักษณ์ “ก้าวไกล” ป่นปี้ทางการเมือง จนกู่ไม่กลับ
ยิ่งเมื่อเทียบกับกรณี “วุฒิพงศ์ ทองเหลา” สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกขับออกจากสมาชิกพรรค หลังถูกร้องเรียนเรื่องคุกคามทางเพศเช่นเดียวกัน แต่กรณีของ “วุฒิพงศ์” เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนปี 2565 ที่ตอนนั้นยังเป็นแค่ “ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 3 ปราจีนบุรี” เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นสส. และมีผู้เสียหายร้องเรียน 1 คน หากเทียบกับ “ไชยามพวาน” ที่กระทำการภายหลังชนะเลือกตั้งได้เข้ามาเป็นสส. อีกทั้งมีผู้เสียหายถึง 3 คน แต่ “วุฒิพงศ์” โดนขับออก ส่วน “ไชยามพวาน” เสียงโหวตไม่ถึง 3 ใน 4 เลยรอดตัวไป
จนมีการขุดคุ้ย-วิจารณ์กันแซ่ดว่า มีการล็อบบี้ ช่วยเหลือกัน ของนักการเมืองชายในก้าวไกล โดยเฉพาะสส.กทม.เขตฝั่งธนบุรี และสส.ปาร์ตี้ลิสต์ สายปาร์ตี้ เฮฮา กินข้าวกินเหล้า ที่ร่วมวงกับ “ปูอัด” บ่อยครั้ง
ถึงขั้นทำเอา สส.-นักการเมืองหญิงเสื้อส้มทั้งหลาย ในก้าวไกล “เดือดดาล-ควันออกหู” เลยออกอาการ เม้งแตก แสดงออกทางโซเชียลมีเดีย ถึงขั้นบางรายสุดจะทนต้องผรุสวาท ให้ “ปูอัดเป็นคนให้ได้ก่อน ค่อยเป็นผู้แทนประชาชน”
ทำให้ตอนนี้ บรรยากาศในพรรคก้าวไกลตึงเครียดกันไม่น้อย ยิ่งการที่นักการเมืองหญิงหลายคนในก้าวไกล พยายามออกมากดดันให้ “ปูอัด-ไชยาพวาม” ลาออกจากส.ส. นัยว่า คงเพราะมองว่า มันคือการตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต
เพราะหาก “ปูอัด” ไม่ยอมลาออก แล้วยังค้างคากันแบบนี้ จะยิ่งทำให้ “เรตติ้ง-กระแสนิยม” ของ “ก้าวไกล” ดำดิ่งลง โดยเฉพาะกับโหวตเตอร์ ผู้สนับสนุนพรรคที่เป็นผู้หญิง ที่จะรับไม่ได้ กับการที่ “ก้าวไกล” ไม่เด็ดหัว “ปูอัด” ออกจากพรรคก้าวไกล ไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราวแบบกรณี “วุฒิพงศ์” สส.ปราจีนบุรี
ซึ่งกรณีของ “วุฒิพงศ์” อาการจะว่าไปแล้ว…ก็หนักเอาการ เพราะเมื่อโดนพรรคขับออก ก็ต้องไปหาพรรคใหม่สังกัดภายในไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันมีมติ ที่ก็คือไม่เกิน 1 ธ.ค.นี้ โดยหากหาพรรคสังกัดไม่ได้ ต้องพ้นสภาพการเป็นสส. และต้องมีการเลือกตั้งซ่อมสส.ปราจีนบุรีเกิดขึ้น
ด้วยสภาพ “หมาหัวเน่า” ของ “วุฒิพงศ์” ที่เจอ “อัปเปหิ” ออกจากพรรคก้าวไกลด้วยข้อหาอุจฉกรรจ์ “คุกคามทางเพศ” ถามว่า แบบนี้…จะมีพรรคการเมืองไหน โดยเฉพาะพรรคใหญ่-พรรคกลาง หรือแม้แต่กับพรรคเล็ก และพรรคที่ไม่ได้มีสส.ในสภาฯ จะเปิดประตูต้อนรับ
เพราะหากรับเข้ามา ก็คือได้สส.เพิ่มมาหนึ่งคน ที่ไม่ได้มีผลใดๆ ทางการเมือง เช่นทำให้ได้โควตารัฐมนตรีเพิ่ม หรือได้เก้าอี้กรรมาธิการชุดสำคัญอะไร แต่หากรับเข้าพรรคมา มีแต่จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของพรรคที่จะถูกมองในทางลบอย่างมาก
ทว่าก็ไม่แน่ “วุฒิพงศ์” อาจหาพรรคใหม่สังกัดทันก็ได้ โดยการไปขออยู่กับพรรคเล็กๆ ที่มีชื่อหัวพรรคการเมืองกับสำนักงานกกต. แต่ไม่มีส.ส.ในสภาฯ
ซึ่งบางพรรคการเมือง คนที่ไปจดชื่อไว้กับ “กกต.” ก็อาจไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้เป็นพวกมีอุดมการณ์อะไรหนักหนา และอาจคิดแค่ว่า ดีเสียอีก จะได้มีสส.ในสภาฯกับเขาบ้าง ที่ก็แน่นอนว่า “ของฟรีไม่มีในโลก” ของแบบนี้ เมื่อรับเข้ามา มันก็ต้องมี อะไรหยิบยื่นให้ เพื่อแลกกับการได้มีพรรคสังกัดทันเวลา
ดูไปแล้ว อาการของทั้ง “วุฒิพงศ์” และ “ไชยาพวาน” หนักหนาพอกัน
คนหนึ่ง…โดนขับออกจากพรรค แต่ต้องดิ้นรนหาพรรคสังกัด โดยมีข้อหาร้ายแรงติดตัวทางการเมือง สังคมการเมืองเบือนหน้าหนี
อีกคน…ไม่โดนขับออกจากพรรค แต่ก็โดนคนในพรรค มองว่าเป็น “หมาหัวเน่า” ทำให้พรรคเสื่อมเสีย ไม่มีใครอยากคบค้าแบบเปิดหน้า อาจต้องแอบๆ คุยลับหลัง อีกทั้งยังโดนสังคมกดดันอย่างหนัก เรียกร้องให้ลาออก จนเรียกว่า ถ้ากระแสนี้ยังลากยาว ถึงไม่ยอมลาออก แต่ก็อยู่ลำบาก ที่ยืนในพรรคและในสภาฯ แทบไม่มี
ขณะที่ พรรคก้าวไกล ก็หนักหนาเช่นกัน กับการที่ถูกมองว่า เป็นพรรคที่มีแต่เรื่อง “อื้อฉาว-ข่าวคาว” ทำนองนี้ ออกมาเรื่อยๆ และยังมีคนในพรรคไปแอบ แบก-อุ้ม “ไชยาพวาน” ไว้อีก จนทำให้ไม่โดนขับออกจากพรรค
ทำให้ แกนนำพรรคก้าวไกล ต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ และมีทีท่าว่า อาจต้องจัดการกับ “ไชยามพวาน” ด้วยการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค-สส.พรรคเพื่อลงมติอีกรอบ
เห็นได้จากท่าทีล่าสุดของ “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ระบุว่า การแถลงของไชยามพวาน เมื่อ 3 พ.ย. นอกจากจะไม่สำนึกยอมรับผิดและขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจแล้ว ยังอาจเป็นการก่อความเสียหายซ้ำเติมต่อผู้ถูกกระทำทั้งสามรายอีกด้วย…
“ดังนั้นหลังจากวันเสาร์นี้ ผมในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้พิจารณาว่าคุณไชยามพวานกระทำการให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ หากคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นว่า คุณไชยามพวานกระทำการขัดต่อมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ก็จะนำไปสู่กระบวนการทางวินัยจากฐานการฝ่าฝืนมติคณะกรรมการบริหารพรรคดังกล่าว อันเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และหากมีความผิดจริง ก็จะนำไปสู่การจัดประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารกับ สส.ของพรรค เพื่อมีมติให้คุณไชยามพวานพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลต่อไป”
เมื่อเป็นแบบนี้ ก็มีโอกาสไม่น้อยที่พรรคก้าวไกลอาจประชุมอีกรอบ เพื่อลงมติจัดการกับ “ไชยามพวาน” และหากออกมาแบบนี้ คาดว่ามีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่ผลการออกเสียง น่าจะมีเสียงลงมติถึง 3 ใน 4 ของที่ประชุมใหญ่กรรมการบริหารพรรคและสส.ก้าวไกล ให้ขับ “ไชยามพวาน” ออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกล หลังคนในพรรคบางส่วนที่เคยอุ้มไว้ คงคิดแล้วว่า อุ้มต่อคงไม่ไหว จะพังกันหมด
ปมฉาว “คุกคามทางเพศ” เลยทำให้ “พรรคก้าวไกล” วันนี้ ไม่ว่าออกหน้าไหน ก็ทรุด…รอผุพัง ทั้งนั้น!
…………………..
คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง
โดย…“พระจันทร์เสี้ยว”
