ก่อนที่จะมีการกลับมาเปิดสภาฯอีกครั้ง 10 ก.ค.แวดวงการเมืองเชื่อกันว่า น่าจะได้เห็นโฉมหน้า “ครม.เศรษฐา 2” หรือไม่แน่ หากรัฐบาลจะขอให้มีการเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญในเดือนมิ.ย. เพื่อเอาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เข้าสภาฯ วาระแรกขั้นรับหลักการ ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน ที่จะมีการปรับครม.ในช่วงหลังสภาฯผ่านร่างงบวาระแรกฯ เดือนมิ.ย.
แต่ทว่าช่วงหยุดยาวสงกรานต์ มีกระแสข่าวว่า มีสัญญาณจาก “บ้านจันทร์ส่องหล้า-ทักษิณ ชินวัตร” ขอให้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ปรับครม.ให้เร็วขึ้น คืออาจปรับปลายเดือนเม.ย.นี้ หรือไม่เกินกลางเดือนพ.ค. จนทำให้มีกระแสข่าวลือหนาหูออกมาทันทีในช่วงหยุดยาวสงกรานต์ ทำเอาแวดวงการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” เคลื่อนไหวคึกคักทันที
ทั้งคนที่อาจต้องเก็บของออกจากห้องทำงานรัฐมนตรี เพราะหลุดจากครม.ไปเลย เช่นที่มีข่าวก็อย่าง “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม ที่อาจหลุดจากครม.ไปเป็นประธานวิปรัฐบาล แล้วให้ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธานวิปรัฐบาลไปเป็นรมช.เกษตรฯ หรือ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” รมว.สาธารณสุข ที่โดนข่าวลือจะหลุดจากครม. แล้ว “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รองนายกฯจะมาเสียบแทน รวมถึงคนที่ต้องเก็บของจากห้องรัฐมนตรีเพื่อย้ายไปกระทรวงอื่น เพราะมีการโยกสลับกระทรวง อย่างที่มีกระแสข่าวคือ “สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีโอกาสจะสลับตำแหน่งกับ “เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” รมว.วัฒนธรรม
รวมถึงพวกลุ้น “รอเสียบ” หวังได้เป็นรัฐมนตรีใน “ครม.เศรษฐา 2” ที่มีหลายคนในเพื่อไทย เช่น “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธานวิปรัฐบาล-“สงคราม กิจเลิศไพโรจน์” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตรมช.พาณิชย์ ที่ยอมลาออกจากส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หลังเลือกตั้งเพราะมีสัญญาใจจะได้เป็นรัฐมนตรี เป็นต้น
โดยท่าทีล่าสุดเรื่องการปรับครม. “เศรษฐา” กล่าวไว้เมื่อ 13 เม.ย. โดยไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ และยอมรับว่า รัฐมนตรีที่ตกเป็นข่าวมีการโทรศัพท์มาพูดคุยด้วย…
“มีข่าวลือออกไป ทำให้มีความไม่สบายใจของหลายฝ่ายเกิดขึ้น และทำให้มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเยอะ ต้องขอความกรุณาว่ายังไม่มีแพลนที่จะปรับครม. วันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ หากออกข่าวไปเยอะจะมีความหวั่นไหว คนที่มีรายชื่อไปเกี่ยวข้องอาจมีความไม่สบายใจ โดยหลักของเราคือประชาชน จึงอยากให้รัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ เรื่องการปรับครม.มีหลายเหตุผล ไม่ว่าจะหน้าที่สภาฯ การบริหาร เรื่องของการถูกคนถูกฝา ทำงานมา 6-7 เดือน ต้องไปดูอีกทีว่าความเหมาะสมอยู่ตรงไหน ทุกอย่าง เอาเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก”
และเมื่อสื่อถามว่า คนที่มีรายชื่อถูกปรับ ได้โทรศัพท์มาคุยกับนายกฯหรือไม่ นายกฯตอบ “มีบ้าง แต่ได้ให้ความสบายใจไป”
ซึ่งจุดที่ดูแล้ว การปรับครม.อาจเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ก็คือ เมื่อสื่อถามว่า โควตาพรรคพลังประชารัฐ ยังว่างหนึ่งเก้าอี้ได้ส่งรายชื่อมาแล้วหรือยัง ทางนายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่ได้ เดี๋ยวจะกลับไปคุยถ้าจะมีการปรับในเร็วๆ ต้องถามว่าจะเอาใครเข้ามาหรือไม่ ต้องให้เกียรติ หากจำได้ ผมให้เกียรติตลอดเวลา เพราะยังมีเก้าอี้เหลืออีกหนึ่ง”
อันแสดงให้เห็นว่า หลังหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ การปรับครม.น่าจะเกิดขึ้นแน่นอน อาจจะภายในปลายเดือนเม.ย.นี้ ก็เป็นไปได้
อีกทั้ง ก็อาจเป็นไปได้ที่ เศรษฐา จะเลิกควบรมว.คลัง แล้วมาควบ รมว.กลาโหมแทน เพราะคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของนายกฯ ก็ไม่ได้ปฏิเสธกระแสข่าวนี้แต่อย่างใด หลังถูกสื่อ ถามถึงจะไปนั่งควบ รมว.กลาโหม
ซึ่ง นายกฯหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ไม่ครับ ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ยังไม่มีความชัดเจนอะไรทั้งสิ้น วันนี้ผมยังเป็นรมว.คลัง อยู่”
ซึ่งตามกระแสข่าว หาก “เศรษฐา” ลุกจากรมว.คลัง คนที่มีข่าวว่าอาจจะเข้ามาแทนก็คือ “พิชัย ชุณหวชิร” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสำคัญในวงการธุรกิจคือ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และยังเป็น ประธานกรรมการ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และ ประธานกรรมการ บมจ.บีซีพีจี (BCPG)
โดยก่อนหน้านี้ “พิชัย” ถูกจับตามองว่าจะเข้ามารับตำแหน่งทางการเมืองหลัง เมื่อวันที่ 28 ก.พ.67 ได้โอนหุ้น BCP (บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ออกจากพอร์ตทั้งหมดจำนวน 450,000 หุ้น โดยทำรายการนอกตลาดผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัดและต่อมาเมื่อวันที่ 15 มี.ค.67 ได้ดำเนินการขายหุ้นบิ๊กลอต บางจากฯถึง 1.1 ล้านหุ้น
กระนั้นข่าวอีกบางกระแสบอกว่า อาจไม่ใช่ “พิชัย” ก็ได้ เพราะมองว่า “พิชัย” มีอายุมากเกินไป เกือบ 75 ปีแล้ว แต่ข่าวอีกบางกระแสก็บอกว่า น่าจะใช่ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า “พิชัย” ก็รู้จักมักคุ้นกับ “ทักษิณ-แกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน” พอสมควร ตั้งแต่สมัยเป็นผู้บริหารบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ก่อนจะมาเป็น “บิ๊กบางจาก” อย่างในปัจจุบัน อีกทั้งยังจบด้านบัญชีและบริหารธุรกิจมาโดยตรง รวมถึงเคยเป็นอดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และการที่มีอายุเยอะ ก็จะได้ทำให้สามารถคุมข้าราชการในกระทรวงการคลังได้ เรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหา
รวมถึงยังมีกระแสข่าวอีกว่า “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” หรือ “บิ๊กเล็ก” อดีตรองผบ.ทบ.และอดีตเลขาธิการสมช. ที่ตอนแรกเมื่อครั้งตั้งรัฐบาล “เศรษฐา 1” มีชื่อ เป็นรมว.กลาโหม โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยผลักดันตอนตั้งรัฐบาล แต่โผพลิก เพราะมีแรงต้านจากหลายฝ่าย เลยทำให้ได้เป็นแค่ “เลขานุการรมว.กลาโหม” (สุทิน คลังแสง) ไปพลางก่อนในช่วงที่ผ่านมา 7 เดือน ก็มีข่าวว่าอาจได้ลุ้นเป็น “รมช.กลาโหม” เพื่อคอยดูแลงานต่างๆ ของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพให้กับ “เศรษฐา”
อีกคน “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รองนายกรัฐมนตรี อาจจะได้คั่วเก้าอี้ใหญ่ “รมว.สาธารณสุข” แทน “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งแม้ “หมอชลน่าน” จะเป็นอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ข่าวบอกว่า เป็นคนที่สส.ในพรรคเพื่อไทยไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ และเป็นคนที่ไม่มีสส.ในกลุ่ม แม้แต่คนเดียว ทำให้เลยไม่ค่อยมีบารมีในพรรค ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจที่ “ทักษิณ” จะปรับออกหรือไม่แน่ หากต้องการไว้หน้า ก็อาจให้ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี สลับกับ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ก็ได้
ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวในเรื่องการปรับครม.เศรษฐา 2 ที่แค่ขยับ “พรรคเพื่อไทย” ก็เริ่มฝุ่นตลบกันแล้ว
………………………………………
คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง
โดย “พระจันทร์เสี้ยว”
