วันอังคาร, มิถุนายน 18, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSส่อง 3 คดีดัง ใกล้ถึงจุดพีก รอชี้ชะตา!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ส่อง 3 คดีดัง ใกล้ถึงจุดพีก รอชี้ชะตา!!

การเมืองช่วงนี้ จุดโฟกัสสำคัญต้องบอกว่าอยู่ที่เรื่อง “คำร้อง-คดีความ” ของ นักการเมือง-พรรคการเมือง ที่ตกเป็น “ผู้ถูกร้อง-ว่าที่จำเลย” ทั้งสิ้น ชนิดกลบทุกกระแสความเคลื่อนไหวการเมืองเกือบหมด แม้แต่กับ การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดใหม่ 200 คน ก็ดูจะได้รับความสนใจน้อยกว่าด้วยซ้ำ

โดยคำร้อง-คดีความ ที่ถูกพูดถึง จับตามอง ทุกความเคลื่อนไหว ก็คือ 3 คดีดัง อันประกอบด้วย

1.คดียุบพรรคก้าวไกล

ที่ความคืบหน้าล่าสุด พรรคก้าวไกลยื่นเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และศาลรัฐธรรมนูญได้ส่งต่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะผู้ร้องไปพิจารณาว่า จะมีข้อโต้แย้งอะไรหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้นัดพิจารณาคดีอีกครั้งวันพุธที่ 12 มิ.ย.นี้

ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกลก็ “เปิดเกมรุก-กดดันศาลรัฐธรรมนูญ” ด้วยการเปิดแถลงข่าว เอาเอกสารที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญมาแถลงวันที่ 9 มิ.ย. เพื่อยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้มีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญจึงยุบพรรคก้าวไกลไม่ได้

นอกจากนี้ ก็มีข่าวว่าในสัปดาห์นี้ พรรคก้าวไกลจะยื่นเอกสารร้องขอต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้เปิดห้องพิจารณาไต่สวนคดีดังกล่าว เพื่อให้โอกาสตัวแทนของพรรคก้าวไกล ได้เข้าให้ถ้อยคำสู้คดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงจะยื่นบัญชีรายชื่อพยานบุคคล ที่พรรคก้าวไกลเห็นว่า หากมาให้ถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นประโยชน์กับฝ่ายตัวเอง ที่ก็คาดว่า อาจจะมีเช่น นักวิชาการ-นักกฎหมายบางคนที่เคยออกมาให้ความเห็นว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลกระทำก่อนหน้านี้ เช่น การเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือการที่ สส.ของพรรคก้าวไกลสมัยที่แล้ว เอาตำแหน่งสส.ไปยื่นประกันตัว “แกนนำม็อบสามนิ้ว” ที่โดนคดี 112 เป็นเรื่องที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ และไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครองฯ เป็นต้น แต่ก็ต้องดูด้วยว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดโอกาสหรือไม่ โดยศาลอาจแค่ให้ตัวแทนของพรรคก้าวไกล มาขึ้นให้ถ้อยคำเท่านั้น

2.คดีกลุ่ม 40 สว. ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี กรณีทูลเกล้าฯเสนอชื่อ “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรมต.สำนักนายกรัฐมนตรี

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีลงนามในเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและส่งให้ทีมงาน นำไปยื่นต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ดังนั้นก็คาดว่า เอกสารดังกล่าวจะถูกนำเข้าที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันพุธที่ 12 มิ.ย.นี้เช่นกัน ที่ตามขั้นตอน ทางศาลก็จะส่งเอกสารดังกล่าวไปให้ “กลุ่ม 40 สว.” ในฐานะผู้ร้อง ได้พิจารณา เพื่อให้ใช้สิทธิ์ในการโต้แย้งคำชี้แจงของนายกฯได้

โดยพบว่า “ฝ่ายเศรษฐา” ปิดเงียบ ไม่ยอมบอกถึงประเด็นรายละเอียด ในเอกสารที่ส่งศาลรัฐธรรมนูญว่า ได้ต่อสู้ในประเด็นใดบ้าง

3.คดีอัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้อง “ทักษิณ ชินวัตร” กระทำความผิดมาตรา 112

ที่อัยการนัด “ทักษิณ” มารายงานตัววันที่ 18 มิ.ย.เพื่อนำตัวไปส่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา ที่ล่าสุดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ทักษิณ” เริ่มปรากฏตัวให้สังคมเห็น อันแสดงว่าหายป่วยโควิดแล้ว และน่าจะเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งว่า วันที่ 18 มิ.ย.นี้ น่าจะไปรายงานตัวต่ออัยการ แล้วก็ไปรอลุ้นว่า ศาลอาญาจะให้ประกันตัวหรือไม่ ท่ามกลางการถอดรหัสทางการเมืองว่า การปรากฏตัวของ “ทักษิณ” น่าจะเป็นสัญญาณว่า จะได้รับการประกันตัว

เหตุผลที่ตอกย้ำว่า คดีความทั้ง 3 คดีข้างต้น เป็นจุดโฟกัสสำคัญ ก็เพราะหากผลทางคดี ยกเว้นคดี “ทักษิณ” ที่แค่อยู่ในขั้นตอนการส่งฟ้อง แต่กับ “คดีเศรษฐา-คดียุบพรรคก้าวไกล” หากผลการตัดสินคำร้องออกมาทางใดทางหนึ่ง โดยเฉพาะในทาง “ไม่เป็นคุณ” กับ “ผู้ถูกร้อง” คือ “เศรษฐา-พรรคก้าวไกล” ตามลำดับ จะสร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองสูงยิ่ง

เช่น “คดีเศรษฐา” หากนายกฯแพ้คดี ก็จะทำให้ต้อง “เปลี่ยนตัวนายกฯ-เปลี่ยนรัฐบาล” ต้องมาฟอร์มรัฐบาลกันใหม่ กันเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ทุกความเคลื่อนไหวทางการเมือง ในช่วงนี้จะเห็นได้ว่ามันมีร่องรอยเชื่อมโยงไปถึง 3 คดีดังกล่าวข้างต้นทั้งสิ้น

อย่างกรณี “ดร.วิษณุ เครืองาม” ที่ยอมแบกสังขารในวัย 72 ปี มารับตำแหน่ง “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย” แม้จะมีภารกิจหลายอย่างที่ “เศรษฐา” และ “รัฐบาล” หวังใช้ “ประสบการณ์-ความเจนจัด” ของ “วิษณุ” มาช่วยงานด้านกฎหมายที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะการช่วยกลั่นกรอง-ให้ความเห็นด้านกฎหมายในการประชุม ครม.แต่ละสัปดาห์

กระนั้นภารกิจสำคัญจริงๆ ของ “วิษณุ” ตอนนี้ ก็คือการช่วย “เศรษฐา” สู้คดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ

เห็นได้จากที่ “วิษณุ” คือคนที่เข้ามาช่วยดู-ตรวจทานเอกสารคำชี้แจงของนายกฯ ก่อนส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อทำให้ข้อต่อสู้มีความแข็งแรง อีกทั้งก็เชื่อว่า “วิษณุ” จะเป็นติวเตอร์คนสำคัญให้กับนายกฯ หากศาลรัฐธรรมนูญเปิดห้องพิจารณาไต่สวนคดี แล้วเรียก “เศรษฐา” ไปให้ถ้อยคำ รวมถึงพยานคนอื่นๆ เช่น “ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์” เลขาธิการ ครม. เพื่อไม่ให้นายกฯและพยานฝ่ายรัฐบาลเพลี่ยงพล้ำกลางศาลรัฐธรรมนูญ

ทั้งหมด…ต้องย้ำว่า ช่วงต่อจากนี้ไป จนถึงสิ้นเดือนก.ค.นี้ หรือช้าสุดไม่เกินกลางเดือนส.ค.ปีนี้ “คดียุบพรรคก้าวไกล” และ “คดีเศรษฐา” จะรู้ผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน

ส่วนคดีของ “ทักษิณ” หากไปรายงานตัวต่ออัยการวันที่ 18 มิ.ย.แล้วได้ประกันตัว ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยให้คอยดูด้วยว่า “เพื่อไทย” จะหาทางช่วย “ทักษิณ” ผ่านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม พ่วงล้างผิดคดี 112 โดยทำผ่านคณะกรรมการนิรโทษกรรมฯ เพื่อลดกระแสต้านอย่างที่มีกระแสข่าวหรือไม่

……………………………………………

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img