วันศุกร์, กันยายน 13, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSแผนลึก(ร้าย)“ทักษิณ”แก้แค้น-เอาคืน ทุบ“พปชร.”-เผา“ปชป.”ส่อสูญพันธุ์!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แผนลึก(ร้าย)“ทักษิณ”แก้แค้น-เอาคืน ทุบ“พปชร.”-เผา“ปชป.”ส่อสูญพันธุ์!!

คาดหมายกันว่า สัปดาห์หน้านี้ โฉมหน้า “ครม.อุ๊งอิ๊ง 1-รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร” ที่มี พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น หลังพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่ประกอบด้วย “ภูมิใจไทย-พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ-ชาติไทยพัฒนา-ประชาชาติ” ทยอยส่งรายชื่อ “โผ ครม.” ไปให้นายกรัฐมนตรีและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน “พรรคประชาธิปัตย์” โดยกลุ่มของ “เสี่ยต่อ-เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรค และ “นายกฯ ชาย-เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค” ก็มีทีท่ารอเสียบเข้าร่วมรัฐบาลเต็มที่ โดยถึงตอนนี้ หากประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลจริง โควตารัฐมนตรี คงได้ 2 เก้าอี้คือ “1 รมว.” และ “1 รมช.”

ที่ก็คงอยู่ที่ 3 ชื่อนี้คือ “เฉลิมชัย -เดชอิศม์” และอีกหนึ่งตัวเสียบคือ “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.นครศรีธรรมราชและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ท่ามกลางเสียงคัดค้านจาก “สายผู้เฒ่า ปชป.” ทั้ง “ชวน หลีกภัย-บัญญัติ บรรทัดฐาน” และคนในพรรคอีกหลายคน เช่น “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์-สองพ่อลูกบุญญามณี ทั้ง “นิพนธ์” และ “สรรเพชร” สส.สงขลา ตลอดจนแนวร่วมอีกหลายคนในพรรค ที่มีทั้งออกมาแสดงความเห็นและไม่ได้แสดงความเห็น เพราะถอยฉากออกมาจากพรรคปชป.แล้ว อาทิ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-มาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค-คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช” จนทำให้ “พรรคสีฟ้า-ประชาธิปัตย์” ที่เดิมก็แตกอยู่แล้ว แต่จะยิ่งแตกยับ แตกเป็นเสี่ยงๆ ในเร็ววันนี้ หากเข้าร่วมรัฐบาล

ขณะเดียวกัน โผ ครม.ในส่วนของ “เพื่อไทย” ก็ฝุ่นตลบ พลิกไป-พลิกมา จนถึงช่วงสุดสัปดาห์ ข่าวว่า โผก็ยังไม่นิ่ง

อย่างเก้าอี้ “รมว.กลาโหม” ก็มีคนที่ปรากฏเป็นข่าวตามโผที่ปรากฏตามสื่อแล้วหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็นกระแสข่าว “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย-อดีตรมว.สาธารณสุข จะได้คัมแบ็กกลับมาเป็นรมว.กลาโหม ต่อมาก็มีชื่อ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รักษาการนายกฯและแกนนำพรรคเพื่อไทย จะมาเป็นรองนายกฯและรมว.กลาโหม ยังไม่หมดแค่นั้น ยังมีชื่อ “เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” รักษาการรมว.ท่องเที่ยวฯ และอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย จะมาเป็นรมว.กลาโหมด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ก็มีกระแสข่าวว่า “สายลุงตู่” จะขอโควต้า “รมช.กลาโหม” ในโควตา “รวมไทยสร้างชาติ” ให้ “บิ๊กเล็ก-พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” อดีตรองผบ.ทบ.-อดีตเลขาธิการสมช. แค่นี้ไม่พอ ยังมีชื่อ “พล.อ.นิมิตต์ สุวรรณรัฐ” อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่เป็นอดีตทส.ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ก็ยังมีชื่อจะมาเป็นรมช.กลาโหม โควตา รทสช.ด้วยเช่นกัน

อันนี้แค่ “กระทรวงกลาโหม” กระทรวงเดียวก็มีทั้งข่าวลือข่าวปล่อย ออกมาไม่เว้นแต่ละวัน แต่ภาพรวมส่วนใหญ่ ต้องบอกว่า ที่ยังไม่นิ่งมากที่สุด ก็คือ โผครม.ในส่วนของเพื่อไทย ที่ยังฝุ่นตลบ

เพราะต้องรอให้ “ทักษิณ ชินวัตร” นายกฯตัวจริง เขย่าในรอบสุดท้ายต้นสัปดาห์นี้ หลังกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคนที่ถูกเสนอชื่อเป็นรมต.เสร็จสิ้นลง

รวมถึง “ทักษิณ” และ “เพื่อไทย” คงต้องการรอให้ โควตา-โผ ครม.ในส่วนของ “พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์” สะเด็ดน้ำเสียก่อนว่าจะเอาอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง เช่น ในส่วนของพลังประชารัฐต้องดูว่า หากจะเอาโผของฝั่ง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่จะไม่มีชื่อของ “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” น้องชายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตามที่มีกระแสข่าว จะมีปัญหาหรือไม่

หลังล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม-บ้านป่ารอยต่อฯ” ยังฮึดสู้ ไม่ยอมให้ฝ่ายตัวเองโดยเฉพาะน้องชายคือ “พล.ต.อ.พัชรวาท” ถูกถีบออกจากรัฐบาล แล้วเสียโควตาให้พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มของเฉลิมชัย-เดชอิศม์ ด้วยการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค ซึ่งแม้ “ร.อ.ธรรมนัส” ที่เป็นเลขาธิการพรรค พปชร. จะไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ “กลุ่มบิ๊กป้อม” ก็เอากรรมการบริหารพรรคมาร่วมประชุมจนครบองค์ประชุมได้

ต่อมาก็มีมติออกมาอย่างเป็นทางการว่า การเสนอชื่อบุคคลที่เห็นควรเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค พปชร. ทางพรรค พปชร.ขอยืนยันรายชื่อบุคคลที่พรรคได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี โดยหากรายชื่อที่ส่งไปแล้ว ปรากฏว่ามีปัญหา พรรคเพื่อไทยควรต้องแจ้งกลับมาให้พรรคพลังประชารัฐทราบ เพื่อให้หัวหน้าพรรค ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อและเสนอไปใหม่เพื่อทดแทนเท่านั้น หากมีการเสนอแต่งตั้งรายชื่อบุคคลอื่นบุคคลใดที่ไม่ได้มาจากรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเป็นรัฐมนตรี ทางพรรคขอปฏิเสธรายชื่อดังกล่าว และจะถือว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ทางพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลควรยึดถือและปฏิบัติตามต่อไป

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวข้างต้น คือการพยายามฮึดสู้ของ “บิ๊กป้อม-พปชร.สายบ้านป่าฯ” ที่พยายามจะสื่อออกมาว่า หาก “เพื่อไทย-ทักษิณ” เอาโผครม.ของ “กลุ่มธรรมนัส” ก็อาจถูกร้องในภายหลังว่า เป็นการเอาโผครม.ที่ไม่ได้เป็น “มติกรรมการบริหารพรรค พปชร.” อย่างเป็นทางการ

เหมือนกับกลุ่มบ้านป่าฯต้องการตีกันเอาไว้ก่อน จนทำให้ “เพื่อไทย” ไม่แน่ใจ  เริ่มลังเล จนต้องส่งซิกมายัง “กลุ่มธรรมนัส” ให้กลับไปเจรจากับกลุ่มบ้านป่าฯให้เรียบร้อย

จนทำให้สถานการณ์กลับมาเข้าทาง “สายบิ๊กป้อม” ที่จะเป็นการเบรกเกมของ “กลุ่มธรรมนัส” และ “กลุ่มเสี่ยต่อ-เดชอิศม์” ที่จับมือกันเดินเกมตั้งครม.โดยเอา “กลุ่มบ้านป่าฯ” ออกไปจากรัฐบาลเอาไว้ก่อน

เพราะต้องไม่ลืมว่า “ฝ่ายธรรมนัส” เอง ก็มีปัญหาในตัวของ “ธรรมนัส” เอง ในเรื่องอาจจะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เนื่องจากเคยมีปัญหาเรื่องคดีความที่ประเทศออสเตรเลีย ที่อาจทำให้ “ทักษิณ” ไม่กล้าให้ “อุ๊งอิ๊ง” นำชื่อ “ธรรมนัส” ขึ้นทูลเกล้าฯเป็นรมต.

แม้ “ธรรมนัส” จะแก้เกม โดยจะให้น้องชาย “อัครา พรหมเผ่า” อดีตนายกฯอบจ.พะเยา ขึ้นมาเป็นรมว.เกษตรฯแทน ซึ่งก็ทำได้ แต่ย่อมทำให้อำนาจการเมืองของ “ธรรมนัส” ลดความแรงลงไป เพราะหากยังเป็นแบบนี้ เท่ากับ “ธรรมนัส” อาจหมดสิทธิ์เป็นรมต.ไปตลอดเลยก็ได้ หากไม่มีการแก้ไขรธน.หรือยกเลิกรธน. ในเรื่องลักษณะต้องห้ามการเป็นรมต.ที่ต้องไม่ตั้งรมต. ที่มีปัญหาเรื่องมาตฐานจริยธรรมฯ

จากสถานการณ์ข้างต้น ในเรื่องโผครม.อุ๊งอิ๊ง 1  โดยเฉพาะการเดินเกมของ “ทักษิณ” ในการทำให้ “กลุ่มธรรมนัส” ที่รวมเสียงส.ส.พปชร.ได้ร่วม 29 คน จากที่มีอยู่ 40 คน แตกหักกับกลุ่มบ้านป่าฯ และพล.อ.ประวิตร อดีตแกนนำ 3 ป.ที่เคยโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนตอนนี้พลังประชารัฐ แตกยับ

รวมถึงการเปิดเกมให้ “ธรรมนัส” ดึง “กลุ่มเดชอิศม์-เฉลิมชัย” จากพรรคปชป. เข้าร่วมรัฐบาล จนทำให้ “ชวน หลีกภัย” และ “พรรคสีฟ้า ปชป.” แทบกระอักเลือดตาย ที่ “กลุ่มเดชอิศม์” จะเอาพรรคปชป.ที่ฟาดฟันกับ “ระบอบทักษิณ” มาร่วมยี่สิบกว่าปี แต่วันนี้พรรคปชป. กำลังจะไปเป็นลูกน้อง “ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง” ไปอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน

แผนดังกล่าวของ “ทักษิณ” ที่ทำให้ทั้ง “พปชร.” ของ “บิ๊กป้อม” กับ “ปชป.” ที่เคยฟาดฟันกันมาตลอดยี่สิบกว่าปี แตกยับกันตอนนี้ จะสำเร็จหรือไม่ ยังต้องรอดู

ทว่าที่แน่ๆ “แผนแก้แค้นเอาคืน” ทั้ง “บิ๊กป้อม-ชวน-พลพรรค ปชป.” ในทางการเมืองของ “ทักษิณ” ตอนนี้ถือว่าสำเร็จแล้ว เพราะสภาพอย่างที่เห็นตอนนี้ ทั้ง “พปชร.-ปชป.” แตกยับเยิน เผลอๆ อาจสูญพันธุ์เลยก็ได้!

………………

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย...“พระจันทร์เสี้ยว” 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img