วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 20, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTSนับถอยหลัง‘สส.พรรคส้ม’เสี่ยงถูกพักยาว
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นับถอยหลัง‘สส.พรรคส้ม’เสี่ยงถูกพักยาว

ว่ากันตามความเป็นจริงทางการเมือง การที่การประชุมร่วมรัฐสภาเกิดสภาพ “รัฐสภาล่ม” 2 วันติดกันคือ 13 ก.พ. กับ 14 ก.พ. จนทำให้ไม่สามารถพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 256 ของ “พรรคเพื่อไทย” กับ “พรรคประชาชน” ได้

ลึกๆ ไม่ได้ทำให้ “พรรคส้ม” เสียทรง-ผิดหวังแต่อย่างใด เพราะจริงๆ คนใน “พรรคประชาชน” ก็รู้อยู่แล้วว่า ถึงต่อให้ประชุมได้ 2 วัน สุดท้ายร่างก็ไม่ผ่านความเห็นชอบวาระแรกขั้นรับหลักการอยู่ดี เพราะยากจะได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาลงมติให้ได้ถึงเกณฑ์ 1 ใน 3 ของสว.หรือประมาณ 67 เสียง

เพียงแต่ผิดหวังก็คือ ทำให้บรรดาส.ส.พรรคประชาชน ร่วม 30 คน ที่เตรียมตัวจะอภิปราย ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว เช่น เหตุใดจึงต้องเสนอให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่-เหตุใดต้องยกเลิกเกณฑ์การให้เสียงส.ว. 1 ใน 3 ลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระแรกและวาระสาม ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญถึงจะผ่าน แล้วเสนอให้ใช้เสียงข้างมากของสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะเสียงส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่หากมี สส.เห็นชอบเกิน 2 ใน 3 ของจำนวนส.ส. ก็ถือว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านรัฐสภา เป็นต้น

ที่ข่าวว่า “ส.ส.พรรคประชาชนหลายคน” อดหลับอดนอนมาหลายวัน เพราะเตรียมข้อมูลจะอภิปรายกันเต็มที่ แต่สุดท้าย “กินแห้ว” เลยฉุนขาด ที่รัฐสภาองค์ประชุมล่ม จนทำให้ “เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน เลยทิ้งบอมบ์ แถลงเรียกร้องให้ “นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” ยุบสภาฯไปเลย!

เมื่อไม่ได้โชว์ของ ทำให้แบบนี้ คาดว่า “ศึกซักฟอก-เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล” ของพรรคฝ่ายค้านที่มี “พรรคประชาชน” เป็นหัวหอกหลัก คงต้องใช้เวทีนี้ “โชว์ของ-แสดงฝีมือ” ให้หนักยิ่งขึ้น ที่ก็คาดว่า คงเกิดขึ้นช่วงกลางเดือนมี.ค. หรือไม่เกินสัปดาห์ที่สามของมี.ค. เวทีซักฟอก คงระเบิดขึ้นกลางสภาฯ

และเผลอๆ ไม่แน่ ศึกซักฟอก รอบนี้ อาจจะเป็นเวทีแสดงตัว-แสดงฝีมือ รอบสุดท้ายของส.ส.พรรคประชาชน ที่เป็นส.ส.พรรคก้าวไกลเดิม มาตั้งแต่เมื่อหลังการเลือกตั้งปี 2562

เหตุเพราะคดีความในชั้น “ป.ป.ช.” กำลังไล่หลังมาทุกขณะ ที่อาจทำให้ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นส.ส.ในอนาคตอันใกล้ จนไม่แน่ ศึกซักฟอกรอบนี้ อาจเป็นเวทีซักฟอกรอบสุดท้ายของส.ส.พรรคส้มบางคน ที่เป็นหนึ่งใน 44 ส.ส.พรรคก้าวไกลเดิม ที่เคยร่วมกันลงชื่อเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ตอนสภาฯสมัยที่ผ่านมา รวมถึงใช้ตำแหน่งส.ส.พรรคก้าวไกล ในช่วงดังกล่าวไปยื่นประกันตัว อดีตแกนนำนักเคลื่อนไหวม็อบสามนิ้ว

หลังล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ 11 ก.พ.68 สำนักงานป.ป.ช.ทำหนังสือ “ลับ” ถึง อดีตส.ส.ก้าวไกลทั้ง 44 คนให้เตรียมเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับป.ป.ช. กรณีร่วมกันลงชื่อเสนอแก้ 112 และใช้ตำแหน่งส.ส.ยื่นประกันตัวม็อบสามนิ้ว

เพราะอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช. เห็นว่า “มีพยานหลักฐานเพียงพอว่ามีมูลความผิด” หลังถูกร้องว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงฯ กรณีเสนอแก้ 112

จนทำให้อดีตส.ส.ก้าวไกลหลายคน และบางคนก็เป็นส.ส.พรรคประชาชนในตอนนี้ เริ่มรำพันว่า กำลังเข้าสู่ช่วงนับถอยหลังการเป็นส.ส.ในสภาฯเสียแล้ว

ไม่ว่าจะเป็น “รังสิมันต์ โรม” ส.ส.บัญชีรายชื่อ-แกนนำตัวหลักพรรคประชาชน ที่ระบุว่า “ยืนยันว่าไม่มีทางที่เราจะทำผิดมาตรฐานจริยธรรมส่วนตัว ผมทราบดีว่าเวลาของผม คงจะมีอีกไม่มาก”

หรือ “เจ๊เจี๊ยบ-อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล และหนึ่งใน 44 ส.ส. ที่ถูกกล่าวหาว่าผิดจริยธรรมร้ายแรงในคดีดังกล่าว ก็โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “การประกันตัวผู้ต้องหาคดี 112 จะทำได้ศาลต้องเป็นผู้อนุมัติ นั่นหมายถึงศาลสมรู้ร่วมคิดกับดิฉันเซาะกร่อนบ่อนทำลายและล้มล้างการปกครองใช่หรือไม่ แล้วป.ป.ช.ส่งหมายเรียกให้ศาลมารับทราบข้อกล่าวหาหรือยัง”

ยังมีนักวิชาการหลายๆ ท่านไปร่วมประกันตัวเพื่อให้ลูกศิษย์ได้กลับมาเรียนหนังสือในระหว่างต่อสู้คดีด้วย พวกเขามีความผิดด้วยหรือไม่-อำนาจหน้าที่เสนอกฎหมายใหม่ แก้ไขกฎหมายเก่าที่ล้าสมัยยังเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่-มีบทบัญญัติหรือข้อห้ามใดบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่าห้ามเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และในอดีตก็เคยมีการแก้ไขมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง-กกต.เป็นผู้อนุญาตให้ใช้นโยบายแก้ไขมาตรา 112 เป็น 1 ใน 300 นโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกล แสดงว่า กกต. ก็สุมหัวร่วมทำความผิดนี้ด้วยหรือไม่ ทำไมไม่เรียกกกต.ไปรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมๆ กัน

และหากดูจากรายชื่อ 44 ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่อยู่ในสำนวนคำร้องคดีดังกล่าว ก็พบว่า มีชื่อ “เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน-ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ รวมอยู่ด้วย รวมถึงแกนนำ-ส.ส.พรรคส้มระดับตัวตึงอีกหลายคนที่เป็นแกนนำพรรค-มืออภิปรายในสภาฯ อาทิ “ไหม-ศิริกัญญา ตันสกุล” หัวหอกหลักพรรคในเรื่องเศรษฐกิจ-“ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” ประธานวิปฝ่ายค้าน-“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร”-“รังสิมันต์ โรม”-“ณัฐวุฒิ บัวประทุม“-“หมอวาโย อัศวรุ่งเรือง”-“สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ” รวมถึงอดีตส.ส.ก้าวไกล ที่ปัจจุบันถูกตัดสิทธิ์การลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาสิบปี เช่น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล“เบญจา แสงจันทร์” เป็นต้น

หลังอดีตส.ส.ก้าวไกลทั้ง 44 คน ซึ่งบางคนตอนนี้ ก็ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เข้ารับทราบข้อกล่าวหา และทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว หลังจากนั้น “คณะอนุกรรมการไต่สวน” ที่มี “วิทยา อาคมพิทักษ์” กรรมการป.ป.ช.ที่จริงๆ พ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ตอนนี้รักษาการไปก่อน ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนฯ ก็จะสรุปความเห็นของอนุกรรมการไต่สวนฯ ว่าจะชี้มูลความผิด ทั้ง 44 คนหรือไม่ ซึ่งหากเห็นว่า ไม่สามารถเอาผิดทั้งหมดได้ อนุกรรมการไต่สวนฯก็ทำความเห็นให้ยุติเรื่องการไต่สวน แต่หากอนุกรรมการไต่สวนฯมีความเห็นให้ชี้มูลความผิด ก็จะทำความเห็นส่งให้ที่ประชุมใหญ่ป.ป.ช.ลงมติต่อไป และหากที่ประชุมใหญ่ป.ป.ช.ลงมติ ว่าทั้งหมดกระทำความผิดฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ ก็จะส่งสำนวนและความเห็นของป.ป.ช.ไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู็ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้พิจารณาต่อไป

โดยหากศาลฎีกาฯรับคำร้องไว้พิจารณา ก็จะมีการสั่งให้คนที่เป็นส.ส.ในปัจจุบัน ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นส.ส.ไว้ก่อน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด

และนั่นหมายถึง “ศึกซักฟอกในเดือนมี.ค.ครั้งนี้” อาจจะเป็นศึกซักฟอกครั้งสุดท้าย ของส.ส.พรรคประชาชนบางคน ก็เป็นไปได้

เพราะเมื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือนมี.ค.เท่ากับปีนี้ 2568 ไม่มีการอภิปรายซักฟอกรัฐบาลอีกแล้ว โดยคาดว่า หากเรื่องไปถึงศาลฎีกาฯ ก็น่าจะใช้เวลาไต่สวนคดี อย่างน้อยเร็วสุดก็หนึ่งปี ก็คือประมาณปี 2569

จึงไม่แปลกที่ “ส.ส.พรรคส้ม” อย่าง “รังสิมันต์ โรม” ถึงรำพันว่า “เวลาของผมมีอีกไม่มาก” เพราะไม่แน่ “ตัวเขา” และ ส.ส.พรรคประชาชนอีกหลายคน อาจกำลังเข้าสู่การนับถอยหลัง อำลาสภาฯ ในอีกไม่ช้านั่นเอง!

…………………………………………..

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img