วันอังคาร, มีนาคม 25, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTS“พรรคร่วมรัฐบาล”การันตี...“เสียงหนุน” ดันหลัง“นายกฯ”สู้ศึก“ดีลแลกประเทศ”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“พรรคร่วมรัฐบาล”การันตี…“เสียงหนุน” ดันหลัง“นายกฯ”สู้ศึก“ดีลแลกประเทศ”

ผลการนัดหารือ-ดินเนอร์มื้อค่ำของ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลระดับหัวหน้าพรรค เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯคงสร้างความมั่นใจมากขึ้นให้กับ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีและฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก่อนขึ้นเวที “ศึกซักฟอกเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี” ในช่วงวันที่ 24-25 มี.ค. และนัดลงมติในวันพุธที่ 26 มี.ค.นี้

วงพูดคุยดังกล่าวในส่วนของ “เพื่อไทย” นอกจาก “แพทองธาร” แล้วก็มี “นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ส่วนคนอื่นๆ ประกอบด้วย “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, “วราวุธ ศิลปอาชา” รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา, “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม, “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาชาติ, “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ประธานพรรคชาติพัฒนา

แม้ภายหลังการนัดหารือ จะไม่มีการแถลงข่าว ไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ ของนายกฯและหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล แต่คาดการณ์ได้ไม่ยากว่า ในวงดังกล่าวที่จำกัดคน เหลือแค่ระดับหัวหน้าพรรครัฐบาล เนื้อหาการพูดคุยคงมีแค่ 2-3 ประเด็นหลักๆ ที่หยิบยกมาคุยกันก็คือ

-การให้คำแนะนำทางการเมืองของหัวหน้าพรรคต่างๆ ที่มีความอาวุโส ผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองมามากมาย ผ่านเวทีซักฟอกมาแล้วหลายสิบครั้ง ที่จะให้คำแนะนำกับ “นายกฯอิ๊งค์” ในการรับมือกับ “ฝ่ายค้าน” อย่าง “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” จากชาติพัฒนา ก็อยู่ในวงการเมืองมาหลายสิบปี ผ่านมาหมดแล้ว ทั้งการเป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน ตั้งแต่ยุคพล.อ.สุจินดา คราประยูร และต่อเนื่องมาอีกหลายนายกรัฐมนตรี ที่ย่อมให้คำแนะนำกับนายกฯในการเตรียมพร้อมสู้ศึกกับฝ่ายค้านได้อย่างดี หรือ “วราวุธ ศิลปอาชา” ลูกชาย “บรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกฯ ก็เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองสำคัญมามากมาย เช่น การร่วมอยู่ในเหตุการณ์ตอน “บรรหาร” ถูกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ อย่างหนักหน่วงและถูกพรรคร่วมรัฐบาลเวลานั้น บีบให้ลาออกจากนายกฯเพื่อแลกกับเสียงโหวตไว้วางใจ แต่สุดท้าย “บรรหาร” เลือกยุบสภาฯแทน

“คำแนะนำ” ของคนที่ผ่านเวทีการเมืองมาโชกโชนดังกล่าว ที่คงรวมถึงการให้ทรรศนะในเรื่องการ “เก็งข้อสอบ” กับนายกฯ ว่าฝ่ายค้านอาจจะเปิดอภิปรายประเด็นอะไรบ้าง และควรเตรียมข้อมูลชี้แจงอย่างไร  ย่อมจะเป็นประโยชน์กับ “แพทองธาร” แน่นอน  

ประเด็นสำคัญที่ในวงหารือคงคุยกันคือ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด คงให้คำยืนยันและการการันตีทางการเมืองว่า สส.ในพรรค จะกดโหวตไว้วางใจให้นายกฯแบบพร้อมเพียง ไม่มีลา ไม่มีขาด ไม่มีประเภทกดไว้วางใจแต่คะแนนไม่ขึ้นแน่นอน นายกฯจึงไม่ต้องห่วงเรื่องคะแนนเสียง ยังไงขั้นต่ำระดับ 320 เสียง ถึงแน่นอน และเผลอๆ อาจถึงระดับ 330 เสียงก็ได้ เพราะอาจมี “งูเห่า” จาก “ฝ่ายค้าน” มาโหวตให้ด้วย

เพราะด้วย สภาพการเมืองเวลานี้ ไม่พร้อมให้ “พรรคร่วมรัฐบาล” แตกหักหรือคิดเบี้ยว “ทักษิณ ชินวัตร” และ “เพื่อไทย” ได้

เช่นหากคิดต่อรอง…ด้วยการบีบว่า จะโหวตไว้วางใจให้ แต่หลังการโหวตเสร็จ นายกฯต้องลาออก เพื่อเปิดทางให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล อย่าง “อนุทิน” ขึ้นมาเป็นนายกฯแทน เหมือนกับสมัยตอน “บรรหาร” ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าเป็นแบบนั้น พอโหวตผ่านเสร็จ “แพทองธาร-เพื่อไทย” ยุบสภาฯแน่นอน เพราะคงไม่ยอมให้พรรคร่วมรัฐบาลมาบีบและเรื่องแบบนี้ “ภูมิใจไทย” ก็รู้ดีว่า ทำไม่ได้ และไม่ควรแม้แต่จะคิด เพราะเท่ากับเป็นการหักหลังเพื่อน ต่อไปจะไม่มีใครคบ

อีกทั้ง ด้วยจำนวนเสียงสส.ของ “ภูมิใจไทย” ที่ตอนนี้เหลือ 68 เสียง เพราะโดนใบแดง ต้องเลือกตั้งซ่อมที่จ.บึงกาฬ และอีกคนที่จ.นครศรีธรรมราช ก็โดนศาลฎีกาฯสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ มีโอกาสต้องเลือกตั้งซ่อมใหม่ ส่วนเพื่อไทยมีสส.ร่วม 142 คน เรียกได้ว่า มากกว่า “ภูมิใจไทย” สองเท่า ต่อให้ “เพื่อไทย” ยอมให้ “ภูมิใจไทย” ขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลและ “อนุทิน” เป็นนายกฯ แต่ก็บริหารงานยาก เพราะมีสส.น้อยกว่าเท่าตัว ต่อไปถึงคิว “อนุทิน” โดนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่ แค่ “เพื่อไทย” ขู่ไม่โหวตให้ “อนุทิน” ก็ตายแล้ว

ที่สำคัญ “พรรคร่วมรัฐบาล” เวลานี้ต่างก็แฮปปี้กับการร่วมรัฐบาลกับ “เพื่อไทย” ไม่มีใครอยากโดน “ทักษิณ” เขี่ยออกไปเป็น “ฝ่ายค้าน” แบบ “พลังประชารัฐ” แน่นอน

ทำให้ “พรรคร่วมรัฐบาล” ต้องหนุนหลัง “แพทองธาร” เต็มที่ เว้นเสียแต่ข้อมูลการอภิปรายของฝ่ายค้านหนักหนาจริงๆ “แพทองธาร” ชี้แจงไม่ได้ ถึงตอนนั้น “พรรคร่วมรัฐบาล” อาจต่อรองได้บ้าง เช่น จะโหวตไว้วางใจให้ แต่ว่าหากมีการปรับครม.กลางปีนี้ ยังไง “ขอสัญญาใจ” กับ “ทักษิณ” ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนโควตา-แลกกระทรวง ต้องให้พรรคร่วมรัฐบาลมีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย อาจต่อรองได้แค่นี้ แล้วก็ให้ “แพทองธาร” ฝ่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปเอง หากชี้แจง “ฝ่ายค้าน” ไม่ได้

ข้างต้นคือการมองศึกซักฟอกที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ในส่วนของคะแนนเสียงโหวตไว้วางใจ จากสส.รัฐบาล ที่หากไม่มีอะไรพลิกผันจริงๆ นายกฯก็จะผ่านศึกครั้งนี้ไปได้ เพียงแต่ว่าจะผ่านแบบ ชี้แจงได้หมด ตอบได้ทุกข้อสงสัย หรือชี้แจงแล้ว ฟังไม่ขึ้น หลายปมยังเคลียร์ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านไม่ได้ มันก็ขึ้นอยู่กับข้อมูล-ประเด็นการซักฟอกของฝ่ายค้าน ว่าเด็ดจริงหรือไม่ หรือแค่โหมโรงเสียดุเดือด แต่สุดท้าย…กลับไม่มีหมัดเด็ด หมัดน็อกนายกฯกลางสภาฯได้

หลังโหมโรงอย่างเร้าใจกับ แคมเปญ “ดีลแลกประเทศ” จนคนรอติดตามกันทั้งประเทศ ดังนั้นก็มารอดูกัน จันทร์-อังคารนี้ 24-25 มี.ค. ก่อนถึงวันลงมติ 26 มี.ค.

……………………

 คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย…“พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img